เพลงที่ฟังแล้วทำให้เกิดอาการ earworm จะติดหู เอาออกจากหัวไม่ได้ จะบอกว่าจริงๆ แล้ว ก็มีเพลงญี่ปุ่นแนวนี้ให้ฟังอยู่บ่อยๆ เช่นกันค่ะ จะมีเพลงอะไรแนะนำบ้าง ตามมาฟังกันเลยคะ
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีปรากฏการณ์ไวรัลเพลงฮิตติดหูจากญี่ปุ่นแพร่มาถึงบ้านเรา นั่นก็คือเพลง “Pen Pineapple Apple Pen” หรือเรียกสั้นๆ ว่า PPAP ของ PIKO TARO ที่เขาว่ากันว่า เป็นเพลงที่ฟังแล้วทำให้เกิดอาการ earworm จะติดหู เอาออกจากหัวไม่ได้ จะบอกว่า จริงๆ แล้วก็มีเพลงญี่ปุ่นแนวนี้ให้ฟังอยู่บ่อยๆ เช่นกันค่ะ เป็นเพลงจากศิลปินดังๆ มีชื่อเสียง และฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองด้วย วันนี้เลยขอมาแนะนำเพลงญี่ปุ่นที่ฟังแล้วติดหู เอาออกจากหัวไม่ได้ จะมีเพลงอะไรแนะนำบ้าง ตามมาฟังกันเลยคะ
1. PON PON PON : Kyary Pamyu Pamyu
ถ้าคิดว่า เพลงของลุง PPAP มันช่างติดหู เอาออกจากหัวไม่ได้ ลองมาฟังเพลงของเธอคนนี้ดูค่ะ คิดว่าเป็นคู่สูสีแข่งกับลุงแกได้เลย นั่นก็คือ “Kyary Pamyu Pamyu” เพลงฮิตติดหูที่ดังไปทั่วญี่ปุ่น และทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เพลงนั้นก็คือ PON PON PON นั่นเอง และเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนก็คงรู้สึกเพลงนี้กันด้วย ด้วยจังหวะที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อเพลงสั้นๆ ร้องวนไปวนมา จะไม่ให้ติดหูได้ยังไง และสิ่งที่ยิ่งไปกว่านั้น ใครคิดว่าเนื้อเพลงของลุง PPAP นี่อะไรก็ไม่รู้ ทำไมต้องปากกา แอปเปิ้ล สับปะรด? แต่ถ้ามาเจอเพลงของเธอแล้วจะทึ่ง เพราะเพลงของเธอไม่ใช่แค่ใช้คำง่ายๆ ร้องวนไปวนมาเท่านั้น แต่บางคำก็ไม่มีความหมายอะไรลึกซึ้งค่ะ อย่างเช่นคำว่า PON PON PON ไม่มีใครรู้ความหมายที่เธอจริง แต่ก็ฮิตติดหูไปแล้ว ซึ่งคนที่แต่งเพลงนี้ก็คือ Yasutaka Nakata ค่ะ คนที่มีฝีมือในวงการเพลงอิเล็กโทรป็อปอีกคนหนึ่ง ที่งานเพลงมีเอกลักษณ์มากๆ
2. Chocolate Disco : Perfume
ก่อนที่เพลง PON PON PON จะเกิดขึ้นมา ก่อนหน้านั้นก็มีเพลงฮิตติดหูจากโปรดิวเซอร์คนเดียวกันออกมาค่ะ นั่นก็คือ Chocolate Disco ของวง Perfume ค่ะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเพลงหนึ่งที่ทำให้สามสาววง Perfume ได้เป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นอย่างแพร่หลาย เพลงนี้ก็มีท่าเต้นประกอบๆ น่ารักด้วยนะคะ เต้นตามได้ไม่ยากเลย แถมยังเป็นเพลงในตำนานของวง Perfume เลยก็ว่าได้ แฟนคลับของสามสาววงนี้ต่างร้องได้อย่างขึ้นใจเลยล่ะ
3. JUMPER : Capsule
พูดถึงเพลงที่ถูกโปรดิวซ์โดย Yasutaka Nakata มาถึง 2 เพลงแหละ สำหรับข้อนี้เลยขอพูดถึงเพลงของเจ้าตัวบ้างค่ะ จะบอกว่าเพลงของพี่แกเนี่ยก็มีความ earworm วนไปวนมาหลายตลบมาก นอกจากเขาจะทำเพลงให้กับศิลปินหลายคนแล้ว ก็ยังมีวงเป็นของตัวเองด้วยค่ะ ชื่อว่า “Capsule” ตัวอย่างเพลงที่ฟังแล้วติดหูขอยกให้เพลงนี้เลยค่ะ “JUMPER” ทั้งเพลงจะได้ยินคำว่า JUMPER บ่อยมาก เยอะเสียจนนับไม่ไหวเลยค่ะ แถมมีจังหวะที่ติดหู ถ้าได้ฟังเพลงนี้ก็รู้สึกเหมือนเพลงยังดังอยู่ในหัวได้ไปหลายวันเลย
4. Maru Maru Mori Mori : Ashida Mana & Suzuki Fuku
เพลงของคู่หูนักแสดงเด็กชื่อดัง Mana Ashida และ Fuku Suzuki จากละครยอดฮิตเรื่อง Marumo no Okite เพลงของทั้งคู่ก็ฮิตไม่แพ้ละครเลยค่ะ แต่จะบอกว่า ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้จักเพลงนี้จากละครนะคะ แต่รู้จักเพราะเพื่อนคนหนึ่งมาร้องให้ฟังคะ ร้องจนเอาเพลงนี้ออกจากหูไม่ได้ เผลอร้องตามได้อีกต่างหาก และยิ่งพอไปฟังเพลงต้นฉบับก็ยิ่งรู้สึกว่าเพลงมันติดอยู่ในหัว เนื้อเพลงเพลงนี้ก็จะเป็นคำจำได้ง่าย เนื้อเพลงไม่ยาวมาก ร้องซ้ำไปซ้ำมาค่ะ น่ารักดี ฟังไม่กี่ที เชื่อว่าต้องร้องตามได้แน่นอน!
Maru maru mori mori minna taberu yo
Tsuru tsuru teka teka ashita mo hareru kana
5. Come back to me : Utada Hikaru
จะว่าไป เพลงของเจ้าแม่แห่งวงการ J-POP อย่าง Utada Hikaru ก็แอบมีเพลงที่ออกแนว Earworm ฟังแล้วเกิดอาการติดหู จนเอาออกจากหัวไม่ได้ อย่างเช่นเพลง “Come back to me” นั่นเอง ที่เกือบจะทั้งเพลงร้องแต่คำว่า Come Back Baby Come Back to me อยู่หลายรอบ วนไปวนมา ใครร้องไม่ได้ให้มันรู้ไป ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเพลงนี้ถึงชื่อว่า Come Back to me และก็ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมนี่ถึงเป็นอีกเพลงหนึ่งของเธอที่ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง จะว่าไปก็…Come Back to me วนไปค่ะ
หากใครรู้สึกว่า เพลง “Pen Pineapple Apple Pen” มันช่างติดหูเกินไป วนเวียนอยู่ในหัวไม่ออกไปไหนสักที เราขอแนะนำ Playlist ที่ได้แนะนำไปข้างต้น เพลงพวกนี้จะทำให้เพลง PPAP หลุดไปจากหัว แต่…ขอแสดงความเสียใจด้วย ถ้าคุณเผลอกดฟังไปแล้ว จะได้เพลงใหม่วนอยู่ในหัวเข้าไปแทนค่ะ!
เรื่องแนะนำ :
– มารู้จักเพลงประกอบเพิ่มความอินให้ละครญี่ปุ่นกัน!
– Okitegami Kyoko แฟนเดย์ เป็นนักสืบแค่วันเดียว
– เทคนิคที่ละครญี่ปุ่นใช้เล่าเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่าย
– ประโยชน์จากซีรีส์สืบสวนญี่ปุ่น ที่ได้มากกว่าความสนุก
– ศิลปินญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับเพลงที่ฟังแล้ว Feel Good
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :
http://asobisystem.com/news/160704/
http://jonathanlonglin.com/aidorubase/
http://japan-now.livejournal.com/1719070.html