Sumikko Gurashi: ฉันรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในซอกมุม
ซุมิกโกะ คุราชิ (すみっこぐらし) แปลตรงตัวว่าชีวิตติดมุม แปลแบ๊วๆ คือ “แก๊งมุมห้อง” ซึ่งมีการเดบิวต์เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 โดยค่าย SAN-X ลักษณะของตัวละครในเรื่องเป็นการรวมตัวของสัตว์และสิ่งอื่นๆที่ขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง มีความแตกต่างแปลกแยกจากคนอื่น เลยเหมือนถูกทิ้งอยู่เสมอ จนไม่กล้าเข้าสังคม ต้องไปรวมกลุ่มกันแอบซุกตัวอยู่มุมห้องเพื่อให้รู้สึกปลอดภัยขึ้น
การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นมากเพราะคาแรคเตอร์ของตัวละครคล้ายกับลักษณะนิสัยของคนญี่ปุ่นและมีลายเส้นที่น่ารัก แม้ทุกตัวจะมีจุดอ่อนแต่ก็มีข้อดี มีทั้งความอ่อนโยนและอ่อนแอ เมื่อเกาะกลุ่มพึ่งพาอาศัยกันมีทั้งความรักเพื่อนและรักตัวเอง จนทุกคนอยู่รอดและมีความสุขได้
หมอเป็นติ่งการ์ตูนเรื่องนี้ (เป็นเหยื่อการตลาด กว้านซื้อผลิตภัณฑ์แทบทุกสิ่งอย่าง:)) ขอยกตัวอย่างความน่ารักของสมาชิกในแก๊งนะคะ
@ Shirokuma (หมีขาว)
เป็นหมีขาวที่หนีมาจากทางเหนือเพราะไม่ชอบอากาศหนาว กลัวหมีแปลกหน้า มีวิธีการสงบตัวเองด้วยการนั่งจิบชาอุ่นๆ ที่มุมห้อง เขาใช้ Furoshiki (ผ้าห่อของ) เก็บข้าวเก็บของหนีมา ตอนนี้ใช้ผ้าห่อสำหรับการจองที่ที่มุมห้อง
@ Penguin (เพนกวิน)
เพนกวินที่มีสีเขียวรูปร่างคล้ายกับตัวกัปปะมากกว่า จนเกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง สงสัยว่าฉันเป็นตัวอะไรกันแน่
@ Tonkatsu (หมูชุบแป้งทอด)
เป็นเศษแป้งหมูทอดทงคัตสึที่อยู่ริมสุด เนื่องจากมีเนื้อสัตว์แค่ 1% และที่เหลือ 99% เป็นแป้งกับไขมัน เลยถูกทิ้งเป็นเศษในจานเสมอ
@ Neko (แมว)
เป็นแมวขี้อาย หลบตัวอยู่มุมห้อง ถ้าเครียดจะตะกุยลับเล็บตัวเอง
@ Tokage (จิ้งเหลน)
เป็นไดโนเสาร์ที่หลงยุคมา ต้องแกล้งปลอมตัวเป็นจิ้งเหลน หวาดวิตกตลอดเวลาว่าจะถูกคนจับได้
@ Tapioca (ไข่มุกที่อยู่ในชานมไข่มุก)
ทำจากแป้งมันสำปะหลัง เป็นไข่มุกอันท้ายๆ ที่ดูดไม่ขึ้น เลยถูกทิ้งไว้ในแก้ว
@ Zassou (วัชพืช)
วัชพืชคิดบวกที่มีความฝันว่าสักวันจะได้ถูกคนนำไปประดับในแจกันร่วมกับดอกไม้หรูหราอื่นๆ
@ Hokori (ฝุ่น)
อาศัยอยู่ตามมุมห้อง เนื่องจากเป็นจุดที่คนมักจะทำความสะอาดไม่ถึง
ข้อคิดอย่างหนึ่งที่หมอได้จากการเป็นติ่งซุมิกโกะ คือ การที่คนเราแยกตัวออกจากสังคม (Social Isolation) เขาย่อมมีเหตุผลบางอย่าง ซึ่งต้องหาสาเหตุให้เจอ ถ้าเราช่วยกันแก้ไขเขาอาจจะเข้าสังคมได้และมีความสุขมากขึ้น
>> การแยกตัวออกจากสังคม (Social Isolation)
คือ การที่คนๆ หนึ่งแยกตัวออกจากผู้คน ไม่ค่อยติดต่อพูดคุยกับใครในชีวิตจริง มักอาศัยอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน ซึ่งพฤติกรรมแยกตัวออกจากสังคมทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางจิตเวช ในทางกลับกันคนที่ป่วยเป็นโรคทางจิตเวชจะมีอาการนี้ได้ ตัวอย่างเช่น
. เด็กที่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เช่น ติดเกม/โซเชียลมีเดีย (Game/Social media addiction) บางคนไม่ไปโรงเรียน ไม่ไปเจอใคร ทำให้ไม่ได้เข้าสังคมที่เป็นการพบกันในโลกจริงๆ (Real human interaction) ตามปกติการที่ได้พูดคุยกับคนอื่นหรือการที่ได้รับการยอมรับจากคนในสังคมจะทำให้มีความภาคภูมิใจในตัวเอง (Self-esteem) แต่เมื่อไม่ได้สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กมี Self-esteem ที่ไม่ดี ยิ่งไม่ได้ฝึกทักษะสังคมจะทำให้เด็กไม่มั่นใจในการพบปะผู้คน ทำให้เก็บตัวมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า, วิตกกังวล
. เด็กที่เจอกับความรุนแรงในครอบครัว (Domestic violence) หรือถูกทารุณกรรม (Child abuse) หรือถูกรังแก (Bully) บางคนถูกผู้กระทำข่มขู่ว่าห้ามไปยุ่ง/ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง หรือเด็กรู้สึกโลกนี้น่ากลัว ไม่ปลอดภัย เลยเลือกใช้วิธีแยกตัวไปอยู่คนเดียว เพื่อที่จะไม่ต้องถูกใครทำร้ายอีก
. คนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าจะรู้สึกเบื่อ ท้อแท้ ไม่มีแรงที่จะทำอะไร แม้แต่การพูดกับคนอื่น คิดว่าตัวเองเป็นภาระ ด้อยค่า เลยหลีกเลี่ยงที่จะออกไปเจอผู้คน
. คนที่เป็นวิตกกังวล เช่น กลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder) จะหลีกเลี่ยงการออกไปเจอกับคนอื่นๆ เพราะคิดไปว่าคนอื่นจะมองตัวเองไม่ดี
ตามธรรมชาติคนเราต้องการมีเวลาอยู่กับตัวเองไม่มากก็น้อย แต่ละคนไม่เหมือนกัน การที่จะบอกว่าคนคนนั้นเริ่มมีพฤติกรรมการแยกตัวแบบ “น่าเป็นห่วง” (ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของการเจ็บป่วยทางจิตใจหรือเป็นสิ่งที่บอกว่าเขากำลังเจอกับปัญหาบางอย่างที่หนักหนา) คือ ต้องเทียบกับบุคลิกภาพเดิมว่าเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใดและอาการที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการใช้ชีวิตหรือไม่ (Impair functions) เช่น แยกตัวอยู่คนเดียวจนไม่ไปเรียน/ทำงาน
>> วิธีการช่วยคนที่แยกตัวออกจากสังคมมากจนเกินไป
- สิ่งสำคัญอันดับแรกต้องประเมินว่าเรามีระดับความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายมากน้อยแค่ไหน ถ้าเดิมเคยสนิทกัน อาจเข้าไปชวนคุยและบอกถึงความเป็นห่วงของเราได้ตรงๆ ถ้าไม่สนิทอาจต้องค่อยๆสร้างความสัมพันธ์ หรือในกรณีที่พฤติกรรมการแยกตัวเป็นมากจนน่าเป็นห่วง ให้บอกคนรอบข้างที่สนิทกับเขาหรือคนที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการดูแล เช่น บอกคุณครู
- หาสาเหตุที่ทำให้เขาแยกตัวออกจากสังคม ให้ความช่วยเหลือเท่าที่ได้
- ชวนให้เขาทำกิจกรรมที่ชอบหรือสนใจ
- เวลามีการนัดพบปะกันให้ชวนเขาไปด้วย โดยเราช่วยบอกเล่ารายละเอียดของงาน เช่น จัดที่ไหน, ตอนไหน, มีใครไปบ้าง เพื่อช่วยลดความกังวลของเขา เป็นการเพิ่มโอกาสที่เขาจะไปมากขึ้น หากเขาจะไปเราจะได้ช่วยเตรียมตัวก่อนเกิดสถานการณ์จริง เช่น วิธีการจัดการแก้ปัญหาที่เดาว่าจะเกิดขึ้น มีการให้ความมั่นใจว่าเวลาที่เจอกับผู้คน เราจะยืนอยู่เคียงข้าง เขาเสมอ
- หากเราพยายามให้ความช่วยเหลือแล้วแต่เขายังไม่ร่วมมือ เราต้องปรับใจเราเอง เพราะบางกรณีสำหรับคนที่กังวลเรื่องการเข้าสังคม ยิ่งไปบังคับอาการจะยิ่งแย่และทำให้เขาเครียดมากขึ้น ควรแนะนำให้พบผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุและให้การช่วยเหลือ เช่น จิตแพทย์, นักจิตวิทยา
ข่าวดีสำหรับสาวกติ่งซุมิกโกะ ตอนนี้มีอนิเมะเวอร์ชั่นภาพยนตร์เข้าฉายแล้ว “Eiga Sumikko Gurashi: Tobidasu Ehon to Himitsu no Ko” อย่าลืมไปดูกันนะคะ!!!
ทักทายพูดคุยกับหมอแมวน้ำเล่าเรื่องได้ที่ www.facebook.com/sealpsychiatrist
เรื่องแนะนำ :
– ฉันเป็นติ่งการ์ตูนญี่ปุ่น
– มังงะ : ความสุขที่เกิดจากการอดทนรอคอย
– กาชาปอง: รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง
– Bonseki: สุขปนขมขื่นบนความงามที่ไม่จีรัง
– Kintsugi: ซ่อมแซมอาการอกหักใจสลาย
คลินิก JOY OF MINDS
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ
https://www.facebook.com/Joyofminds/
Tel: 090-959-9304
#Sumikko Gurashi: ฉันรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในซอกมุม