ที่ญี่ปุ่นเองมีแฟน ๆ หลายคนที่อยู่ในลักษณะนี้ครับ คืออยากให้ตัวนักมวยปล้ำจดจำเราได้ ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีแตกต่างกันไป ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูรายละเอียดในเรื่องนี้กันว่า “หากคุณหลงรักนักมวยปล้ำ จะทำอย่างไรดี?”
สำหรับคนที่เป็นแฟน ๆ มวยปล้ำโดยเฉพาะมวยปล้ำหญิงแล้ว เชื่อว่าบางคนอาจจะไม่ได้ดูมวยปล้ำเพื่อความสนุกอย่างเดียว แต่อยากจะมีความใกล้ชิดมากกว่าการได้พบเจอทางโทรทัศน์เท่านั้น
ที่ญี่ปุ่นเองมีแฟน ๆ หลายคนที่อยู่ในลักษณะนี้ครับ คืออยากให้ตัวนักมวยปล้ำจดจำเราได้ ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีแตกต่างกันไป ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูรายละเอียดในเรื่องนี้กันว่า “หากคุณหลงรักนักมวยปล้ำ จะทำอย่างไรดี?”
– อย่าเยอะ !!!
อย่างแรกเลยคือ ต้องเข้าใจก่อนว่ามันมีเส้นแบ่งบาง ๆ ระหว่าง “แฟนคลับ” กับ “สตอล์กเกอร์” ดังนั้นเราต้องทำให้เขาแน่ใจว่าเราไม่ใช่สตอล์กเกอร์ เราต้องเข้าใจว่าเวลาไหนคือเวลาส่วนตัว เวลาไหนที่เราควรจะเข้าไปทักหรือไม่ควรทัก
ยกตัวอย่างเช่นถ้าเจอในที่สาธารณะก็ไม่ควรทัก (นอกจากเขาจำได้และกเรามานั่นอีกเรื่อง) เพราะนักมวยปล้ำบางคนมีคาร์แรกเตอร์เป็นของตนเองครับ บางทีเจอกันนอกสังเวียน นางอาจจะมาในชุดไปรเวท แบบแตกต่างจากในเวทีสุดขั้ว แบบนี้เราเข้าไปขอเขาถ่ายภาพ หรือแม้แต่ทักทายก็จะไม่งามครับ หรือบางคนพอเห็นคนที่ชอบเช็คอินที่ไหน ก็มักจะไปเสาะหา เผื่อจะโชคดีได้เจอตัวเป็น ๆ ฯลฯ ต้องบอกเลยว่าอะไรในลักษณะนี้ นักมวยปล้ำจะรู้สึกไม่ปลอดภัย (กลับกัน culture คนอเมริกาจะชอบเวลาแฟนคลับมาใกล้ ๆ พูดคุยตามปกติ จากการทำงานด้วย นักมวยปล้ำบางคนเคยบ่นน้อยใจที่ไม่มีแฟน ๆ ตามมาที่โรงแรม)
ที่ญี่ปุ่นการทักทายนักมวยปล้ำที่โรงแรม แบบจงใจนอน รร.เดียวกันเป็นเรื่องไม่สุภาพ เป็นเวลาและสถานที่ส่วนตัว ตรงส่วนนี้ต้องให้เกียรติกันครับ รวมถึงช่องทางสื่อสารออนไลน์ด้วย บางคนทักไปถี่มากกกกกกกก (แน่นอนเขาไม่ตอบ) บางคนก็จะตัดพ้อต่อว่าต้องบอกว่านักมวยปล้ำแกอ่านหมดนะครับ อาจจะตอบไม่ได้ด้วยข้อจำกัดของกฏสมาคม แต่อะไรที่มันดูล้น ๆ น่ากลัว ๆ เนี่ย สาว ๆ แกคุยกันตลอด ดังนั้นขอให้แน่ใจว่าเราไม่ใช่บุคคลเหล่านั้น สรุปง่าย ๆ ว่าถ้าอยากรู้จักเขา เริ่มจากการเจอกันในวันงานดีที่สุด
– คิดเสมอว่ายาก ทุกอย่างคือธุรกิจ !
เฉกเช่นวงการไอดอล… นักมวยปล้ำต้องทำทุกอย่างเพื่อสร้างฐานแฟน ๆ ให้กับตนเอง ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดก็คือการปากหวาน, การอ่อยเนียน หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้แฟนคลับหลงใหล คลั่งใคล้ ฯลฯ ตรงนี้คือจะบอกว่าเขาไม่จริงใจก็ไม่ได้ เพราะมันคือธุรกิจของเขา มวยปล้ำเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ เป็นกีฬาขายความสุข ดังนั้นหน้าที่ของนักมวยปล้ำคือทำให้แฟน ๆ มีความสุข ฟินกันไปในระยะเวลาที่โชว์ดำเนินอยู่ ดังนั้นเราถือว่าเขาทำหน้าที่ได้ดีแล้ว ส่วนแฟนคลับจะรู้สึกต่ออะไรยังไงนั่นอีกเรื่อง ถ้าเรามาเจอเขาอีกในอีเวนท์ต่อ ๆ ไป นักมวยปล้ำก็จะค่อย ๆ จำได้ เริ่มสนิทสนมกัน
แต่ว่า! จงคิดเสมอว่าพวกเขาจดจำเราไม่ได้หรอก ถ้าเราไม่ได้เจอนาง ๆ มากพอ คือแม้คราวก่อนแกจะคุยกับเราเยอะแยะราวกับสนิทกันมาแต่ชาติปางก่อน พวกนางก็ล้วนทำไปตามบริบทของการขายของ คราวหน้าเราให้คืดเสมอว่ามันคือการเริ่มต้นใหม่ ซ้ำไปซ้ำมาเรื่อย ๆ จนวันนึงเราจะรู้สึกว่านาง ๆ จำเราได้จริง ๆ ตรงนั้นแหละที่สำคัญ
– เข้าสู่สายเปย์
ในประเทศที่ระบบขนส่งก้าวไปอยู่ในจุดที่ยอดเยี่ยมทรงประสิทธิภาพ เปิดโอกาสให้แฟนคลับสายเปย์ได้ทำหน้าที่ของตนอย่างแข็งขัน วิธีการที่ดีที่สุด คือการซื้อของเยอะ ๆ แบบนั้นนักมวยปล้ำจำเราได้แน่นอน แต่วิธีการที่ดีกว่าแต่อาจใช้เงินเยอะคือการตามนักมวยปล้ำไปทุกที่ ๆ นางแข่ง
ต้องบอกก่อนว่าวัฒนธรรมการเชียร์ของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แฟนมวยปล้ำจะชอบเป็นตัวบุคคลครับ และสนับสนุนนางไม่ว่านางจะไปปล้ำในสมาคมไหน (ในอเมริกาคนอาจจะดูเป็นชื่อสมาคมเป็นหลัก ดูในภาพรวม) ดังนั้นแฟนมวยปล้ำญี่ปุ่นบางคนจะเดินทางไปทั่วประเทศ แม้กระทั่งทั่วโลก เพื่อตามเชียร์นักมวยปล้ำคนโปรด เคยมีบางคนตามมาดูอีเวนท์ผมถึงในไทย และมาอยู่ไทยเพียงไม่กี่ชั่วโมง คือถึงไทยบ่าย ดูโชว์ตอนดึก เสร็จแล้วไปสนามบินรอขึ้นเครื่องเลย เป็นต้น
และถ้าถามว่าวิธีนี้ดียังไง? ส่วนนึงผมมองว่ามันคืออะไรที่แอบโอเวอร์ครับ มันดาบสองคมเหมือนกัน ในบางช่วงเขาอาจรำคาญ แต่ในบางช่วงมันก็เวิร์คมาก ๆ เช่น เวลานักมวยปล้ำไปต่างประเทศไกล ๆ แบบสมมติไปอเมริกาใต้ แล้วมันจะเหงาครับ มันจะแบบหันซ้ายหันขวาไม่เจอใคร แล้วพอมีแฟนคลับโผล่ไป มันจะรู้สึกปลอดภัย มีนักมวยปล้ำหลายคนที่สนิทกับแฟนคลับเพราะอะไรแบบนี้
– หางานที่ใกล้เคียง
โอเค หลังจากสองหัวข้อแรก เราเริ่มรู้จักนักมวยปล้ำมากขึ้น เริ่มได้ใกล้ชิดมากขึ้น สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการทำลายกำแพงบางอย่างระหว่างความเป็นนักมวยปล้ำและแฟนมวยปล้ำออกไป ซึ่งก็คือการหาสายงานที่มีโอกาสได้ใกล้เคียงกับนักมวยปล้ำ อาจจะสมัครเป็นคนประกอบเวที หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่เราคิดว่าเราจะมีโอกาสได้ทำงานใกล้ชิด เหตุผลตรงส่วนนี้ก็คือ นักมวยปล้ำทุกคนจะมีกำแพงหนามาก เราต้องหาทางเข้าไปในนั้นให้ได้ อย่างน้อยคือให้ได้รู้จักตัวตนจริง ๆ ของนักมวยปล้ำว่าเขาเป็นคนยังไง อะไรยังไง ตรงนี้จะทำให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ในบริบทที่ลึกซึ้งขึ้นนั่นเอง
– รู้ชื่อจริงเขาให้ได้
ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับคนในวงการหลาย ๆ คน เขาบอกว่าสิ่งที่ชี้วัดว่าคุณสนิทกับเขามากพอหรือยัง นั่นก็คือเรารู้จักชื่อจริงของเขารึเปล่า? นั่นเพราะนักมวยปล้ำส่วนใหญ่จะใช้ชื่อปลอม หรือใช้ชื่อจริง แต่สะกดในตัวอักษรที่แตกต่างออกไป ดังนั้นการที่เขาจะบอกชื่อจริงกับใคร นั่นคือข้อพิสูจน์ว่าเขาเชื่อใจเราในระดับหนึ่ง (แต่กว่าจะถึงจุดนั้นก็ยากมากกก ทุกวันนี้ผมยังคุยกับนักมวยปล้ำหลายสิบคนโดยไม่รู้ว่าชื่อจริงแกคืออะไรเลยด้วยซ้ำ) ดังนั้นเราพยายามไปถึงจุดนี้ก่อน พยายามไปชมโชว์บ่อย ๆ พูดคุยกันเยอะ ๆ ให้การสนับสนุน ที่เหลือปล่อยให้เป็นเรื่องของดวงละกัน 555
หัวข้อวันนี้อาจจะแปลก ๆ ไปอยู่บ้าง แต่กลับเป็นสิ่งที่มีคนหลังไมค์มาถามผมเยอะมากกกกก เลยคิดว่าลองมาดูมุมนี้หน่อยก็น่าสนใจดีครับ ตอนนี้วงการมวยปล้ำญี่ปุ่นเริ่มมีการขยับขยายไปหลากหลายประเทศมากขึ้น ใครอยากลองดูก็เริ่มจากการไปดูโชว์บ่อย ๆ หาทางพูดคุยกับเขาบ่อย ๆ ซื้อสินค้า ฯลฯ ต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ที่สุดแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้ใช่ไหมล่ะครับ ไม่ลองก็ไม่รู้เนอะ
พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– Pro Wrestling Noah… ค่ายมวยปล้ำญี่ปุ่นที่ใกล้ล่มสลาย?
– มิติใหม่ของมวยปล้ำญี่ปุ่นในสหรัฐอเมริกา
– Masked World League โอลิมปิคของนักมวยปล้ำหน้ากากทั่วโลก
– DDT Ironman Heavymetalweight เข็มขัดแชมป์มวยปล้ำที่แม้แต่ไก่ย่างก็เป็นแชมป์มาแล้ว!?
– เวทีมวยปล้ำเป็นอย่างไร