วันนี้ผมจะพาทุกคนไปย้อนดูเกมมวยปล้ำสมัยก่อนกันบ้าง ว่าจะน่าสนุกสนานขนาดไหนครับ (ซึ่งทั้งหมดสามารถหาเล่นได้ตาม emulator ครับ)
พูดถึงแฟนมวยปล้ำแล้ว สิ่งหนึ่งที่พวกเขารอคอยกันตลอดมาเป็นประจำทุกๆ ปี ก็คงหนีไม่พ้น “เกมมวยปล้ำ” นั่นเองครับ ปัจจุบันเกมมวยปล้ำดังๆ ก็คงหนีไม่พ้นซีรีย์ WWE2K ที่ทำออกมาเป็นประจำทุกๆ ปี และถือว่าได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม ส่วนหนึ่งอาจเพราะไม่มีเกมมวยปล้ำอื่นๆ หลงเหลืออยู่ในตลาดก็เป็นได้
เหตุนี้ทำให้ผมนึกย้อนถึงสมัยก่อนที่เกมมวยปล้ำมีให้เลือกหลากหลายมากๆ ทั้งสมาคมในอเมริกาเอง และสมาคมในญี่ปุ่น ซึ่งถึงแม้บางครั้งจะมีปัญหาในเรื่องของภาษา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมมวยปล้ำของประเทศญี่ปุ่นนั้นมีรูปแบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ แตกต่างจากของฝั่งอเมริกาอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ยังมีความสมจริงกว่าอีกด้วย ดังนั้นวันนี้ผมจะพาทุกคนไปย้อนดูเกมมวยปล้ำสมัยก่อนกันบ้าง ว่าจะน่าสนุกสนานขนาดไหนครับ (ซึ่งทั้งหมดสามารถหาเล่นได้ตาม emulator ครับ)
1. FIRE PRO WRESTLING SERIES
สำหรับแฟนมวยปล้ำทั่วโลกแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักซีรีย์ FIRE PRO WRESTLING (ファイヤープロレスリング) อันถือเป็นตำนานของวงการเกมมวยปล้ำเลยล่ะครับ เกมนี้มีมาตั้งแต่ปี 1989 โดยบริษัท Human Entertainment ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Spike ในช่วงปี 2000 จุดเด่นของเกมมวยปล้ำค่ายนี้คือ ภาพแบบ 2 มิติครับ และนอกจากนี้ระบบการเล่นคือจะเป็นเหมือนการ “ชิงจังหวะ” ซึ่งทำให้คุณไม่สามารถบุกถล่มคู่ต่อสู้ด้วยท่าไม้ตายรัวๆอย่างราบคาบแบบเกมมวยปล้ำของอเมริกาได้ นอกจากนี้ในเกมยังมีนักมวยปล้ำหลากหลาย (มากๆ) จากทั่วโลก โดยใช้วิธี “เปลี่ยนชื่อให้คล้ายๆ” เพื่อหลีกปัญหาทางด้านลิขสิทธิ์ และจุดนี้เอง เมื่อผู้เล่นเข้าโหมด Edit ไปแก้ไขรายละเอียดเล็กๆ น้อย ก็จะทำให้เราได้เกมที่สมบูรณ์ มีนักมวยปล้ำ ตลอดจนนักสู้จากทั่วทุกมุมโลกรวมอยู่ในเกมนี้เลยล่ะครับ
สมัยก่อนความฝันของแฟนมวยปล้ำก็คือ “อยากจะเป็นดรีมแมตช์” อยากจะเห็นนักมวยปล้ำจากหลายๆ ค่ายมาสู้กัน ซึ่งตอนนั้นเกมอื่นๆ ไม่สามารถตอบโจทย์ได้ครับ เพราะเกมจะผลิตออกมาโดยค่ายมวยปล้ำค่ายหนึ่งโดยเฉพาะ ดังนั้นก็จะมีแต่นักมวยปล้ำของค่ายนั้น แต่ Fire Pro Wrestling ทำให้ความฝันเป็นจริง เราสามารถเอานักมวยปล้ำญี่ปุ่น มาสู้กับนักมวยปล้ำอเมริกาแบบยกพวกตีกันได้ ที่สำคัญ จะจับไปสู้ในกรงเหล็ก หรือจะเอาไปสู้ในเวทีลวดหนามก็ได้ (หรือถ้าว่างๆ ก็จับไปสู้กับพวกนักสู้กรงเหล็ก ให้โดนเตะคอสลบไปง่ายๆ ก็แล้วแต่) ความสนุกตรงนี้ทำให้ปัจจุบัน แม้เวลาจะผ่านไปจากภาคล่าสุดเป็นสิบปี แต่ก็ยังมีแฟนมวยปล้ำมากมายคอย Edit ข้อมูลในเกมให้ทันสมัย และยังคงเล่นอยู่อย่างจริงจังครับ เรียกได้ว่าคลาสิคทะลุการเวลาเลยจริงๆ !
2. VIRTUAL PRO WRESTLIN SERIES
โดยส่วนตัวผมเองไม่ได้เป็นแฟนของซีรีย์นี้ครับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสมัยก่อนหาซื้อไม่ได้ เพราะเราอยู่ต่างจังหวัด แต่อย่างไรก็ตามไม่พูดถึงเกมนี้ไม่ได้ครับ นี่คือตำนานของวงการมวยปล้ำอีกเกมนึงเลยก็ว่าได้ จุดเด่นคือการรวมนักมวยปล้ำจากทั่วโลก (โดยเปลี่ยนชื่อเพื่อเลี่ยงลิขสิทธิ์) เช่นกัน แต่สิ่งที่แตกต่างจาก FIRE PRO WRESTLING SERIES ก็คือการที่เกมนี้เป็นภาพสามมิติครับ แม้ว่าจะไม่ได้ดูสวยงามเหมือนในปัจจุบัน แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมของเกมมวยปล้ำแบบสามมิติ กลายเป็นบรรทัดฐานจนถึงปัจจุบัน เกมนี้วางจำหน่ายทั้งในแบบของ Nintendo 64 และ Play Station ครับ แต่ภาคที่ดังๆ และเป็นมวยปล้ำญี่ปุ่นจะวางจำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่น ตรงจุดนี้เองทำให้เกมหาซื้อยากสำหรับเด็กต่างจังหวัดอย่างผม (คือจริงๆ ก็สั่งมาได้ล่ะครับ แต่อายุผมตอนนั้นก็ยังน้อย ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น และเจ้าของร้านก็ไม่รู้จักเกมนี้) จุดเด่นในเกมนั้น คือไม่ได้เป็นการสะสมเกจไม้ตาย แต่จะเป็นการใช้ระบบ SPIRIT คือต้องเล่นงานคู่ต่อสู้จนเกจอยู่ในจุดที่กำหนด ตรงนั้นจะเป็นเหมือนจุดพีคน่ะครับ ใส่ไม้ตายกี่รอบก็ได้ ตราบใดที่มันยังกระพริบอยู่ ถือเป็นความสนุกอย่างนึงของคนเล่นเกมมวยปล้ำเลย
สมัยก่อนเกมนี้เวลาเห็นตามนิตยสารเกมแล้ว จะรู้สึกว่ายิ่งใหญ่และเจ๋งมากๆ เพราะเราไม่ชินกับเกมการปล้ำแบบสามมิติ (เรารู้สึกว่ามันสมจริงมากกกก) เกมนี้ผลิตโดยค่าย AKI ครับ มีผลงานการผลิตเกมดังๆ เช่น WCW vs THE WORLD (ซีรีย์เดียวกันนั่นแหละ เปลี่ยนชื่อ) และ WWF Wrestlemania ประมาณนี้ครับ ทั้งหมดล้วนได้รับกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมทั้งสิ้น
3. AJPW : KING OF SOULS
สำหรับผมนี่คือเกมมวยปล้ำที่สนุกที่สุดบน PS1 ครับ สำหรับคนอื่นเกมนี้อาจจะค่อนข้าง “ช้า” ไป เพราะเกมนี้มีจุดเด่นคือการจับจังหวะการต่อสู้เหมือนเราดูมวยปล้ำของจริงน่ะครับ โดยนักมวยปล้ำทั้งหมดของค่ายนี้จะเป็นของ AJPW แต่ก็มีนักมวยปล้ำจากค่ายอื่น (ที่แวะเวียนมาในสมาคมช่วงนั้น) ปรากฏอยู่เป็นตัวละครลับในเกมเช่นกัน จุดเด่นที่ผมชอบในเกมนี้คือระบบ “เก็บพลัง” นั่นคือลูกกลมๆ ที่เห็นในคลิปด้านบนน่ะครับ ปุ่มนั้นเปรียบง่ายๆ คือปุ่มสะสมท่าไม้ตาย แต่จุดเด่นของมัน ไม่ใช่แค่การใส่ไม้ตายเท่านั้น แต่ปุ่มนี้จะช่วยให้คุณรอดจากการแพ้ได้ด้วย ! คือสมมติคุณโดนอัดจนเละแล้วไม่มีทางเอาตัวรอดได้แน่ๆ หากถูกจับกด แต่ถ้าคุณมีวงกลมแห่งพลังนี้เหลือ คุณจะหลุดจากการกดได้ทันที ซึ่งมันเหมาะกับมวยปล้ำญี่ปุ่นมากๆ ครับ มวยปล้ำญี่ปุ่นจะมีจุดเด่นอย่างหนึ่งคือเรื่องของ “2.9วินาที” หมายถึงเวลาโดนกดแล้ว กำลังจะแพ้ แต่เขาสามารถฝืนเอาตัวรอดมาได้ในวินาทีสุดท้าย ดังนั้นรูปแบบการเล่นในเกมนี้จะตอบโจทย์ข้อนี้ได้อย่างชัดเจนครับ เรียกได้ว่าลุ้นกันจนหยดสุดท้าย
และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การนำเอา “เสียงพากย์” มาใช้ครับ ปกติเกมมวยปล้ำจะใช้ “เพลง” บรรเลงระหว่างการปล้ำ แต่เกมนี้มีพัฒนาการที่น่าสนใจครับ ตอนนี้ผมยังคิดว่าการพากย์ในเกมนี้เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ยังสนุกกว่าเสียงพากย์ในเกมยุคนี้เลยล่ะครับ
4. KING OF COLOSSEUM 2
นี่คือเกมมวยปล้ำที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับมวยปล้ำญี่ปุ่นเลยครับ ในความคิดของผมเกมนี้คือการเอาข้อดีของเกมมวยปล้ำอื่นๆ มารวมอยู่ในเกมๆ เดียว กล่าวคือเกมนี้เปรียบได้กับเป็น FIRE PRO WRESTLING เวอร์ชั่นสามมิติครับ และระบบต่างๆ เช่นระบบลูกบอลพลัง ก็ได้รับการนำมาใช้ด้วย ดังนั้นสิ่งที่ผมชอบก็จะมารวมอยู่ในเกมนี้ ที่สำคัญเกมนี้ยังมีนักมวยปล้ำมากมายจากหลายๆ สมาคม และได้มาแบบถูกลิขสิทธิ์ ไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องการเปลี่ยนชื่ออีกต่อไป ที่สำคัญหน้าตาของนักมวยปล้ำยังถอดแบบมาจากตัวจริงอย่างกับแกะ แน่นอนครับก็จะมีนักมวยปล้ำบางคนที่ไม่ได้ลิขสิทธิ์มา อย่างเช่น อันโตนิโอ อิโนกิ นักมวยปล้ำระดับตำนานของญี่ปุ่น ที่ยังมีเวอร์ชั่นแก้ไข ชื่อว่า “มูซาชิ” และก็มีเพลงเปิดตัวที่เอาเพลงต้นฉบับมาแปลง หรือกระทั่งหน้ากากเสือรุ่นออริจินัล ที่ในเกมก็ยังอุตส่าห์เอาเพลงเปิดตัวมาแปลงเลี่ยงลิขสิทธิ์ให้พวกเราได้ใช้กัน
สัปดาห์นี้สบายๆ เลยมาคุยในเรื่องของเกมกันบ้างน่ะครับ สัปดาห์หน้าจะกลับไปสู่เรื่องที่จริงจังกว่านี้ และคอยอ่านกันนะครับ ^^`
เรื่องแนะนำ :
– ทำไมต้องไปญี่ปุ่นกับทัวร์
– เกือบตายในบาร์ญี่ปุ่น : การเอาตัวรอดจากคลับบาร์ในเวลาที่โดนโกง
– การ์ตูนต้องไม่ใช่เหยื่อของสถานการณ์
– คาแรคเตอร์แปลกๆ ในวงการมวยปล้ำญี่ปุ่น
– เพราะหนังสือญี่ปุ่นไม่มีวันตาย!