โอซาก้าเมืองเก่าที่ข้าพเจ้าคิดถึง by Lordofwar Nick
ภาพชุดสุดท้าย อาโอมะทานิ-นิชิ ลาก่อนนะ โอซาก้าไกได
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน วันนี้ผมใคร่ขอกราบเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่าซีรี่ส์ “โอซาก้าเมืองเก่าที่ข้าพเจ้าคิดถึง” นั้น เสนอตอนนี้เป็นตอนจบแล้วครับ! ตกใจไหมครับ? ครับในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่ผมครบระยะเวลาของทุนพอดี และก็สอบวิทยานิพนธ์ผ่านแล้ว เรียนจบแล้ว และจะต้องเก็บของกลับบ้านที่เมืองไทยแล้ว ภาพถ่ายชุดนี้คือความทรงจำที่มีต่อย่าน “อาโอมะทานิ-นิชิ” ที่ผมอยู่อาศัยมาตลอดสองปีกว่าๆ นับจากทีย้ายจากหอพักนักเรียนนานาชาติคันไซ (ที่มินามิเซ็นริ) มาชมภาพแห่งความทรงจำไปพร้อมๆ กันเลยนะครับ
ภาพซอยที่ผมอยู่มาสองปีกว่าๆ และก็ทางเข้าอพาร์ทเมนต์คุณป้าเซ็ทสึโกะที่ผมอยู่มาสองปีกว่าๆ เช่นกัน ชื่อว่า CASA DEL SOLE “บ้านพระอาทิตย์” ครับ
เดินออกมานอกถนน มองไปทางนี้จะเห็นภูเขา ที่นั่งรถขึ้นไปวัดคัตสึโอะจิได้
ส่วนถ้าหันมาทางนี้ จะเป็นทางเดินไปมหาลัย
ตั๊กแตนที่เกาะผนังอพาร์ทเมนต์คุณป้า
เดินไปแถวนั้น ข้างทางมีตู้อัตโนมัติขายถุงยาง บางสุดๆ 0.02 มิล!
อพาร์ทเมนต์และนาข้าวตรงซ้ายมือ ทิศทางเดินมุ่งไปทางมหาลัย
หันมาทางขวามือเป็นบ้านคน ตรงนี้มีซอยลัดเลาะทะลุไปหาร้านขายยาคิรินโด ร้านข้าวกล่อง และก็ซูเปอร์มารุยาสุได้ สถานที่นี้เป็นที่ซื้อข้าวกิน ซื้อของใช้พวกผงซักฟอกอะไรพวกนี้มาตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่
บ้านคนที่อยู่ริมถนน
ตามที่ห่างไกล แต่ก่อนต้องมีพวกตู้อัตโนมัติ ขายบุหรี่ ขายถุงยาง อะไรพวกนี้ บลาๆ
มองย้อนกลับมา ทางไปภูเขา
ข้ามถนนเลาะเข้าซอยมา เดินดูบ้านคน โอ้โฮ บ้านใครนิ มีป้ายหินเขียนว่า นะโมอมิตตาพุทธ 南無阿弥陀佛ด้วย แถมมีป้ายติดข้างทางว่า ระวังคนโรคจิต ちかん注意 อีกต่างหาก
เห็นไหมครับ เลาะมาถึงข้างหลังซูเปอร์มารุยาสุได้
บ้านคนที่นี่น่าจะเป็นบ้านที่อยู่แถวนี้มานาน แล้วก็มีหน้าบ้านหลังหนึ่ง เขามีดอกไม้ให้คุณด้วย ใครชอบก็หยิบไปตามสบายเลย เขาเขียนบอกว่าอย่างนั้น
ชมดูดอกไม้ บรรยากาศแถวนั้นก็บ้านๆ ดี
มาอีกทางไม่ไกลจะเป็นทางใหญ่หน่อย มีสะพานข้ามคูคลองระบายน้ำหลากจากป่า ฤดูนี้คือปลายฤดูร้อนน้ำจะแห้ง แต่ก็ยังเห็นปลาได้อยู่ มีทั้งบ้านคนหลังเล็กๆ และอพาร์ทเมนต์หลังใหญ่ๆ ทางนี้จะข้ามไปหาร้านขายยาคิรินโดได้
มีทั้งตึกเล็กๆ ตึกใหญ่ๆ เด็กๆ ลงไปเก็บลูกบอล มอเตอร์ไซด์สามล้อ นี่คือภาพชีวิตที่จะกลายเป็นความทรงจำ
เดินย้อนกลับมาจะมาข้ามถนนกลับมาทางอพาร์ทเมนต์ มีศาลเจ้าเล็กๆ ด้วย มีรูปพระหินอยู่ข้างทางด้วย
ภาพในความทรงจำ ซึ่งมา พ.ศ. นี้ก็คงยังไม่เปลี่ยน ทั้งร้านขายยา ทั้งร้านข้าวกล่อง ยังอยู่ในแผนที่กูเกิล ณ ปัจจุบัน
แล้วก็ถึงวันก่อนวันสุดท้ายในญี่ปุ่นของผม วันนี้มาที่มหาลัย เพื่อมาใส่ชุดครุย (เขามีให้ยืมใส่) และรับปริญญาจากมืออธิการบดี ซึ่งอีกไม่กี่ปี ก็จะกลายเป็น “คณบดี” ของคณะวิชาการต่างประเทศของ ม. โอซาก้า ดังที่เคยเล่ามาแล้ว ว่าผมเป็นนักศึกษา น่าจะรุ่นเกือบสุดท้ายที่ยังรับปริญญาในชื่อว่า ม.โอซาก้าไกได อยู่
เรื่องตรงนี้ก็มีส่วนทำให้ผมตัดสินใจไม่ขอทุนทำวิจัยต่อด้วย เพราะว่าได้ยินเรื่องที่ว่าเมื่อมหาลัยถูกควบรวมแล้ว อาจารย์ก็จะย้ายไปที่อื่นหรือยังไงนี่ล่ะ
(ต่อมาอาจารย์นิตตะเกษียณอายุจาก ม. โอซาก้าไกไดในฐานะศาสตราจารย์เกียรติคุณ แล้วไปเป็นศาสตรจารย์ที่ ม. คันไซไกได ซึ่งมาถึงตอนนี้น่าจะเกษียณจริงๆ แล้วด้วยอายุ)
ถ้าหาอาจารย์เป็นที่ปรึกษาไม่ได้ ก็ขอทุนไม่ได้ ฉะนั้นก็กลับบ้านไปทำงานดีกว่า
ขนมโอฮางิที่คุณป้าเซ็ทสึโกะทำให้กินก่อนวันรับปริญญา
อาร์มตรามหาลัยซึ่งไม่มีอีกแล้วในโลกนี้ และก็ใบปริญญา
ในงานรับปริญญาแบบเล็กๆ มินิมอลนี้ อาจารย์นิตตะก็มาเพื่อแสดงความยินดีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากกัน
หลังจากงานรับปริญญาแล้วทางมหาลัยก็จัดงานเลี้ยงค็อกเทลเล็กๆ ที่ตึกศูนย์ภาษา ผมก็ได้โอกาสมองไปนอกหน้าต่าง มองภาพของมหาลัยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนกลับ
ทางนั้นเป็นหอในของมหาลัย ชายหญิงแยกตึกนะครับ
ตึกหลังคาเขียวๆ ไกลๆ นั่นคือโรงยิมของมหาลัย เป็นที่ของพวกชมรมต่างๆ เช่น ชมรมคาราเต้ ชมรมไอคิโด ชมรมเชียร์ ชมรมยิงธนู มีสระว่ายน้ำด้วย
ตึกขาวนั่นคือตึก D ซึ่งเป็นที่ทำงานของอาจารย์นิตตะ
มองไปทางนั้นคือ หมู่ตึก A B C
ข้าวหุงถั่วแดง 赤飯 จากคุณป้าเซ็ทสึโกะ เพื่อแสดงความยินดีที่ผมเรียนจบ
ผมนอนตื่นมา แล้วก็ถึงเวลาที่ผมต้องเดินทางละ…
ภาพของคุณป้าเซ็ทสึโกะ ณ ตอนนั้น กับคุณลุง ผมได้กลับไปเยี่ยมคุณป้าอีกทีเมื่อแปดปีให้หลัง ล่าสุดต้นปีนี้ 2021 โทรไป ยังสบายดีอยู่ แข็งแรงดี ส่วนคุณลุงซึ่งขับรถไปส่งผมถึงสถานีรถไฟคิตะเซ็นรินั้น หลังจากนั้นสี่ปีแกก็ได้ลาจากโลกนี้ไปครับ
ข้าวกล่องที่คุณป้าทำให้กินกลางทางครับ
หลังจากที่ผมรำ่ลาคุณลุงที่สถานีรถไฟคิตะเซ็นริแล้ว ผมก็นั่งรถไฟตรงมาถึงอุเมะดะ แล้วไปขึ้นรถบัสที่หน้าโรงแรมนิวฮันคิว ไปถึงสนามบิน และอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเจ้าของทุนให้ก่อนจากก็คือ สิทธิในการได้นั่งในเลานจ์ของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ครับ
จัดไปหนึ่งแก้ว
ภาพทั้งหลายในสนามบิน ณ ตอนนั้นไม่ได้นึกหรอกว่า จะมีโอกาสได้กลับมาอีกหรือเปล่า แต่หลังจากนั้นอีกแปดปีผมก็ได้กลับมายังสนามบินแห่งนี้อีกครั้ง นั่นแน่ อยากอ่านกันชิมิล่ะ
เรื่องราวของการที่ผมพาภรรยาเดินทางมา “ย้อนรอย” ชีวิตที่ญี่ปุ่นในอีกแปดปีให้หลังนั้น จริงๆ กะจะลงปีหน้า แต่ถ้าท่านผู้อ่านรีเควสกันเข้ามาเยอะๆ ละก็ อาจจะลงปีนี้เลยก็ได้นะ อิอิ แต่ขอไปเช็กความพร้อมเรื่องรูปและคลิปก่อนนะครับ บางคลิปอาจจะได้ขออนุญาตภรรยาด้วย 55
ลาก่อน สนามบินคันไซ ลาก่อน โอซาก้า
หลังจากที่บินขึ้นฟ้ามาได้หกชั่วโมง ขณะนี้เครื่องบินของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ก็ได้พาท่านมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยที่รักของเราแล้ว (ฮา)
ถึงประเทศไทย กลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดอีกครั้ง ตอนเข้าด่าน ตม. มีเรื่องตลกเล็กน้อย ตอนนั้นผมถือพาสปอร์ตโดยเอามือปิดหน้าสมุดไว้ พอเดินจะไปเข้าเลน “เฉพาะคนไทย” ตม. ชี้หน้าโวยว่า HEY! YOU คือคงเข้าใจว่าผมเป็นคนต่างชาติ ผมก็เลยรีบโชว์หน้าพาสปอร์ตบอกพี่ครับๆ ผมคนไทย โถ พี่แกรีบมาโอ๋ผมใหญ่เลย ก็เป็นอันว่าผ่านด่าน ตม. เข้าสู่เขตแดนประเทศไทยอย่างถูกต้องแล้วนะครับ (ฮา) รถนี่เห็นสวยดีเลยถ่าย แต่ไม่ได้นั่งกะเขาหรอก…
ก็เป็นอันว่าขอจบซี่รี่ส์ “โอซาก้าเมืองเก่าที่ข้าพเจ้าคิดถึง” แต่เพียงเท่านี้นะครับ ต้องขออภัย บก. ด้วยที่แบบว่าสามตอนติดกันมานี้ รูปเยอะมาก โหดมาก ต่อไปนี้ไม่มีแบบนี้อีกแล้วครับ ไม่ใช่อะไร มันจบเรื่องแล้ว (ฮา)
ถามว่าจากนี้ไปจะเขียนอะไรต่อ? ก่อนอื่นก็จะเขียนซีรี่ส์ “เซนกับบราซิลเลียนยูยิตสู” ให้จบตามเนื้อหาในหนังสือของพระอาจารย์ไทเซนครับ อาจจะมีเรื่องแทรกอะไรบ้างเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ท่านผู้อ่านบ้าง แล้วก็ตอนนี้กำลังศึกษานั่งแกะอ่านต้นฉบับญี่ปุ่น ศึกษาปรัชญาซามูไรอยู่ อุบไว้ก่อน ยังไงก็ติดตามกันด้วยนะครับ
แล้วก็ เรื่องไปเที่ยวย้อนรอยญี่ปุ่นนั้น มีเขียนลงแน่นอนครับ แต่ขอเว้นระยะสักนิด
ขอบพระคุณทุกท่านที่ตามอ่านกันมาโดยเฉพาะตั้งแต่ตอนแรกๆ ยังไงจากนี้ไป ก็อยากให้ช่วยติดตามงานเขียนจากนี้ต่อไปด้วยนะครับ พบกันใหม่อาทิตย์หน้า สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– เดินเท้าจากสถานีรถไฟฮันคิวมิโน่ ถึงบุโดคังอำเภอมิโน่ ภาพชุดสุดท้ายก่อนจากลา
– เกียวโตฉบับเก็บตก เที่ยวปราสาทนิโจ วัดคิโยมิซึ ก่อนโบกมือลาชีวิตมหาลัย
– “มาเอดะ จ้าวสังเวียน” Conde Koma การ์ตูนที่คนเรียน “บราซิลเลียนยูยิตสู” ทุกคนต้องอ่าน!
– ขอไปเที่ยวนาราอีกสักรอบ แวะซื้อนาราซึเกะกิน กับเลยไปเที่ยวศาลเจ้าคาสึงะไทฉะ
– เซนกับบราซิลเลียนยูยิตสู (4) กาย เทคนิค ใจ จากซามูไรถึงยูยิตสู
– ครั้งหนึ่งในชีวิตกับมรดกโลก “ปราสาทฮิเมจิ” เดือนมิถุนายน 2006 รูปเยอะจน บก. ร้องไห้หนักมาก (2) จบจริงๆ แล้วจ้า
#ภาพชุดสุดท้าย อาโอมะทานิ-นิชิ ลาก่อนนะ โอซาก้าไกได