คั่นรายการ โดย Lordofwar Nick
American Samurai ตอนเด็กดูแล้วประทับใจ แต่พอดูๆ ไป เอ๊ะมันอิหยังวะ?
สวัสดีปีใหม่ 2025 นะครับผม
ก่อนที่จะเข้าสู่มินิซีรี่ส์ “ฟุโดจิ” ทีแรกก็คิดๆ ว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี คิดไปคิดมาพอดีได้มานั่งดูหนังเรื่องนี้ American Samurai เป็นครั้งแรกในรอบ…รอบกี่ปีก็ช่างเถอะ 555 ก็เป็นอะไรที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟังขำๆ นะครับ
หนังเรื่องนี้เก่ามากกกกกกก ผมดูครั้งแรกตอนเด็กๆ ก็คือเช่าวิดีโอดูครับ (เด็กสมัยนี้คงไม่เคยเห็นเทปวิดีโอสินะ 555) เป็นหนังฝรั่งปี 1992 (พ.ศ. 2535) ครับ โห ผมนี่ตอนนั้นอายุสิบห้าเลยนะ (เป็นเด็กมัธยมหัวเกรียน 555) นำแสดงโดย เดวิด แบรดลีย์ เล่นเป็นพระเอก ส่วน มาร์ค ดาคาสคอส เล่นเป็นผู้ร้ายของเรื่อง
By May be found at the following website: Rotten Tomatoes, Fair use, Link
โปสเตอร์หนัง เดี๋ยวนะ ทำไมต้องมีคำว่า “นิฮอนโต” (ดาบญี่ปุ่น 日本刀) ด้วยวะ 555 (ที่มา wikipedia)
อ่ะเอาเทรลเลอร์ไปดูก่อน
เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรมาก ออกแนวสูตรสำเร็จหนังเกรดบีแนว Martial Arts อารมณ์เหมือนสานต่อความสำเร็จจากหนังแบบ American Ninja (เดวิด แบรดลีย์ เคยเล่นใน American Ninja 3 มาก่อนนะ) ประมาณว่าพระเอกเป็นเด็กทารกที่รอดจากเครื่องบินตก (มุกคลาสสิก) ถูกอาจารย์ดาบชาวญี่ปุ่นเก็บมาเลี้ยงแล้วถ่ายทอดวิชาให้ จึงเป็นที่อิจฉาตาร้อนของลูกชายอาจารย์ที่ชื่อ “เคนจิโร่” (ไม่ใช่เคนชิโร่น๊ะ) ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เคนจิโร่หมดความอดทนคือ พ่อดันยกตำแหน่งผู้สืบทอดวิชาให้พระเอกซะงั้น แถมยกดาบประจำตระกูลให้อีกต่างหาก เคนจิโร่ไอ้ลูกไม่รักดีเลยไปเป็นยากูซ่าซะงั้น
ต่อมาพระเอกมาอยู่อเมริกา วันหนึ่งมีคนร้ายบุกเข้าห้องชิงเอาดาบประจำตระกูลไป ต่อมาพระเอกได้เบาะแสว่ามีคดีคนถูกดาบซามูไรฟันตายที่ตุรกี เชื่อว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเคนจิโร่ พระเอกก็เลยต้องไปที่นั่น และเพื่อตามหาตัวเคนจิโร่ให้เจอ พระเอกจึงต้องลงไปสู้ในสังเวียนใต้ดินมรณะ ที่บรรดาผู้ใช้อาวุธมีคมทั้งหลาย (มีหมด ดาบ ง้าว มีด) จะต้องมาเจอกัน (แหม่ อารมณ์เหมือนเกมแบบ ซามูไรสปิริต หรือ โซลเอดจ์ เลยนะนี่) ซึ่งมากันแบบนานาชาติแบบแฟนตาซีตามจินตนาการฝรั่งที่แบบไปเรื่อยมาก มีทั้งนักดาบสไตล์คล้ายๆ โคแนนยอดคนเถื่อน ง้าวจีน ดาบแขก มีดสั้นคาวบอยอเมริกัน 555 ถ้าจะดูเอาแค่ฉากแอ็กชั่นมันก็สนุกอยู่นะ ยิ่งแบบตอนเคนจิโร่ซึ่งเป็นแชมเปี้ยนในสังเวียนใต้ดินออกโรงเนี่ย ออกมา ฉับเดียวตาย ดาบเดียวปลิดชีพ ตลอด แบบ เก่งปานนั้นเลย ดูแมตช์ตัวร้ายดันสนุกกว่าพระเอกอีก เพราะพระเอกนี่ก็ พระเอ๊ก พระเอก พยายามล้มคู่ต่อสู้โดยไม่ทำให้ใครตายสักคน (แหม่)
รวมฉากต่อสู้ของตัวร้ายในเรื่อง สนุกกว่าพระเอกจริงๆ นะ
จนในที่สุด พระเอกกับตัวร้ายก็ได้มาเจอกัน แน่นอน พระเอกได้บัฟความเป็นพระเอก ทำให้เคนจิโร่ต้องแพ้พ่าย โดนฟันที่ข้อเท้าจนพิการ แต่ พระเอกก็คือพระเอก (อีกแระ) แค่เอาดาบประจำตระกูลคืนไปโดยไม่ฆ่าเคนจิโร่ เคนจิโร่ก็พูดว่า ขอให้มันได้คว้านท้อง ตายอย่างซามูไรด้วยเถิด (เชสโด้) พระเอกก็ใจดี เอาดาบของตัวเองที่คาดเอวอยู่ดึงออกมาวางให้ พอเดินคล้อยหลังไป เคนจิโร่ดันปาดาบใส่ พระเอกก็ประสาทไว หันกลับมา ควับ แล้วชักดาบฟาดใส่ดาบที่ลอยกลางอากาศกลับไปปักเคนจิโร่ตายซะ (เชี่ย) แล้วเรื่องก็จบแต่เพียงเท่านี้ (ฮา)
ฉากสุดท้ายที่พระเอกสู้กับเคนจิโร่
คือ ที่ผมจั่วหัวไว้ว่า “อิหยังวะ” เนี่ย เป็นเพราะว่าคือสมัยก่อนตอนอายุสิบห้า ผมดูหนังเรื่องนี้แล้วก็ได้แต่อื้อหืออ้าหาไปตามเรื่อง ตอกย้ำภาพจำของซามูไรว่าต้องแบบ ดาบเดียวปลิดชีพนะ เอ้อ อะไรประมาณนี้ แต่พอมาดูอีกรอบเมื่อเวลาผ่านไปหลายปี ด้วยความที่รู้ภาษาญี่ปุ่น เรียนอิไอโดมาด้วยอะไรด้วย พอมาดูอีกที กลายเป็นว่าเจออะไรแบบ มันอิหยังวะ มันแบบ ขำอ่ะ แบบนี้ก็มีด้วยเหรอวะ 555 ดังที่จะเอามาคุยต่อไปนี้
ผมรู้สึกฮามากกับพวกตัวหนังสือที่เขียนพุ่กัน (?) แปะฝามากๆ แบบ มีงี้ด้วยเหรอวะสำนักดาบญี่ปุ่น เช่น
อิจิมอนจิ (一文字) สุบุริ (素振り) อะไรนะ ฝึกหวดลมเป็นรูปเลขหนึ่ง (ฟันขวาง?)
ดูไม่ชัดอ่า โกะโฮ (五法) บัตโตโด (抜刀法) วิชาชักดาบห้าวิธี?
พระเอกกลับมาอยู่อเมริกา เอาดาบประจำตระกูลใส่ตู้กระจกโชว์หราเลย 555 เลยมีพวกตัวร้ายมาทุบกระจกเอาดาบไป ในตู้โชว์ เขียนแบบ อ่านได้ว่า ทาเมชิกิริ (試し斬り) “ทดลองฟัน” กับ นิฮอนโตคันโช (日本刀鑑賞) “ซาบซึ้งดาบญี่ปุ่น” คือ เอิ่ม การที่แบบ มีอะไรต้องอวดแบบนี้ มันอเมริกันมากๆ ก็อเมริกันซามูไรอ่ะนะ
หลังจากที่พระเอกถูกปล้นเอาดาบประจำตระกูลไป ก็ฝันว่ามีปีศาจใส่หน้ากากใส่ชุดขาวถือดาบมา บอกว่าพระเอกนั้นมันไม่ได้เรื่อง รับดาบประจำตระกูลมาแล้วก็รักษาไว้ไม่ได้ ตลกตรงนี่ว่า หน้ากากนี่มันตัวอะไรวะ 555 จะบอกว่าเป็น ฮันเนีย (般若) ก็ ไม่ใช่อะ ตลกเกิน ผมว่าเหมือนตุ๊กตาตัวตลกในเรื่อง SAW มากกว่าว่ะ 555
หน้ากากฮันเนียสำหรับใส่เล่นละครโนห์ (ที่มา emuseum.nish.go.jp)
ไปที่ตุรกี พระเอกมาหัดรำดาบเอาท์ดอร์เฉย 555
ในห้องเตรียมตัวอุ่นเครื่องก่อนจะประลองถึงตายในสังเวียนใต้ดิน เอ๊ะ ทำไมต้องมีติดกระดาษเขียนคำว่า โชะดัน โนะ คาตะ” (初段の型) “คาตะ (กระบวนท่า) ของโชะดัน (เทียบกับสายดำขั้นแรก)” ด้วยฟะ?
ในการประลองระหว่าง PHAN XU (ฟ่านชู?) จากจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้ไว้ผมเปียและใช้ดาบคู่ กับ HSING YI (สิ่งอี้?) จากไต้หวัน ผู้ใช้ง้าวเป็นอาวุธ (โปรดดูที่ธงชาติ) ผลคือ PHAN XU ใช้วิชาวิ่งไต่ผนังตีลังกากลับหลังมาเชือดคอ HSING YI ตายคาที่ เสร็จแล้ว PHAN XU เอาเท้าเขี่ยร่าง HSING YI แล้วถุยน้ำลายใส่
เอาฉากที่ว่ามาให้ดูกันเต็มๆ
สิ่งนี้ผมคิดว่าฝรั่งอยากจะสื่อมุมมองที่ฝรั่งมีอยู่สองอย่าง ๑ J3K ขี้แพ้มักจะแพ้ J3K คอมมูนิสต์อยู่วันยังค่ำ ๒ J3K คอมมูนิสต์ ชอบขากถุย 555
ฉากนี้ปรากฎแวบเดียว ตอนดูตอนเด็กๆ ไม่เข้าใจนัยนี้ นึกว่าเป็นจีนปะทะจีนด้วยกัน ไม่ใช่นะครับ
ในห้องเตรียมตัวของเคนจิโร่ ผม เอ๊ะ กับตัวหนังสือนี่มากที่สุด อ่านได้ว่า “เบย์โกกุ โทยามะริว อิไอโด เร็นเมย์ ฮอมบุ (米国戸山流居合道連盟本部) “สำนักใหญ่ สมาพันธ์อิไอโดสำนักโทยามะ ประเทศอเมริกา”
คือ แบบนี้ครับท่านผู้อ่าน ถ้าเกิดว่าสำนักดาบที่พระเอกเรียนมา เป็นสำนักโทยามะจริงๆ บอกเลยว่า ไม่ใช่สำนักโบราณนะครับ อิไอสำนักโทยามะนั้น เป็นสิ่งที่คลี่คลายมาจากวิชาดาบที่ถูกบัญญัติให้เป็นหลักสูตรการหัดใช้ดาบกองทัพ (กุนโต) สำหรับฝึกหัดทหารที่โรงเรียนกองทัพบกโทยามะ (陸軍戸山学校) ซึ่งหลักสูตรวิชาดาบที่ว่าก็จัดเป็นหลักสูตร “สมัยใหม่” ของยุคนั้น (ราวปี 1925) เป็นแบบเรียนลัดเรียนเร็วสำหรับฝึกทหาร (โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยจับดาบมาก่อน) ให้หัดใช้ดาบกุนโตในสนามรบได้ไวๆ (ไม่ใช่วิชาโบราณ อันนี้ถูกบัญญัติสำหรับนักเรียน “ทหารบก” ส่วน “ไดนิปปอนบัตโตโฮ” ที่ผมเคยนำเสนอ (และจริงๆ ก็หัดเองด้วย) นั้น เป็นสาย “ทหารเรือ” ครับ)
ภาพการฝึกดาบกุนโตจากหนังสือ “วิธีบังคับและทดลองฟันดาบกุนโต” (軍刀の操法及試斬 กุนโต โนะ โซฮ โอโยบิ ทาเมริกิริ) ซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ในปีโชวะที่ 15 (ปี 1940) เพื่อให้ใช้เป็นคู่มือสอนวิชาการใช้ดาบกุนโตตามโรงเรียนกองทัพบกต่างๆ วิชาดาบดังกล่าวคิดค้นโดยโรงเรียนกองทัพบกโทยามะ ซึ่งพอหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้ “แปลงโฉม” เป็น “สำนักโทยามะ”
เอาคาตะพื้นฐานของสำนักโทยามะ มาให้ดูนะครับ
เอาเป็นว่า มันไม่ใช่วิชาโบราณขนาดนั้น หนึ่งละ สอง แล้วจะมาเขียนป้ายสมาพันธ์อะไรเนี่ย ในห้องเตรียมตัวในสังเวียนใต้ดินเนี่ยนะ? 555
ก็เป็นอะไรที่ผิดฝาผิดตัวตามสไตล์อเมริกันเขาล่ะครับ แต่ก็เป็นความบันเทิงที่ประทับใจในวัยเด็ก
หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความบันเทิงนะครับ ว่างๆ จะมารีวิวหนังอีกนะ (อ้าว)
ข่าวด่วน ข่าวดี (?) หลังจากที่ผมห่างหายไปนาน ในที่สุดผมก็กลับมาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ฉบับ audio book เสร็จจบ แบบจบบริบูรณ์แล้วนะครับ รับฟังได้ทาง Spotify และ YouTube Music นะครับ
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าสวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– เซนกับบราซิลเลี่ยนยูยิตสู (ตอนพิเศษ) มีภูเขา เราต้องปีน
– เมื่อญี่ปุ่นต้อง “แปลงสาร” ในวิดีโอเกมเพื่อไม่ให้ “ขัดใจฝรั่ง”
– Advanced Daisenryaku: Deutsch Dengeki Sakusen เกมในดวงใจที่คงไม่มีวันเล่นจบ
– ตามหาวิชาดาบอิไอ (10) คำสอนสะเกาจิต สะกิดใจ จากวิชาดาบอิไอ
– คำว่า “คาคุโงะ”(覚悟)นั้นไซร้ ไม่ใช่แค่ “เตรียมใจ” แต่ต้อง “ตื่นรู้” เสียก่อน
#American Samurai ตอนเด็กดูแล้วประทับใจ แต่พอดูๆ ไป เอ๊ะมันอิหยังวะ?