หนุ่มญี่ปุ่นน่ะอยากแสดงออกทางความรักแต่ก็ไม่กล้าบอกตรงๆ คือ กลัวสาวอี๋ย์ เลี่ยนอ้วกแตก เลยทำท่าเก๊กๆ ขณะที่กำลังจะทำดีกับสาว อย่างตอนที่ซึสึหนาวแล้วฟูตะจะให้ยืมผ้าพันคอ แทนที่จะเลียนแบบพระเอกไทย ยิ้มอบอุ่นพร้อมพันผ้าพันคอให้ อีตาฟูตะก็ยื่นผ้าพันคอให้ซึสึ
เรื่องโดย : เกตุวดี www.marumura.com
วันก่อนดิฉันไปดูหนังเรื่อง Our Little Sister หนังที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนเรื่อง Umimachi Diary กล่าวย่อๆ คือเป็นเรื่องพี่น้อง 4 สาวโดยน้องสาวคนเล็กเป็นน้องต่างแม่ แต่ก็มาอยู่ร่วมกันรักกัน
แม้ว่าดิฉันจะเป็นลูกคนเดียวแต่ดูแล้วอินมาก หนังอะไรดูแล้วอบอุ๊นอบอุ่น เดินออกจากโรงรู้สึกตัวเองเป็นผู้หญิงอ่อนโยนขึ้นแบบ….อยากคว้าบัวรดน้ำมารดดอกไม้ใบหญ้า อยากยิ้มให้ผีเสื้อ อะไรหยั่งงี้…. สงสัยซึมซับออร่าจากเจ๊ฮารุกะ อายาเสะแน่เลย เอาเป็นว่าดิฉันชอบมาก (ไว้จะมารีวิวหนังให้ฟังนะจ๊ะ)
ทีนี้ดิฉันเลยหาการ์ตูนมาอ่านต่อ พบว่ามีฉากหลายฉากมากๆ ที่ไม่มีในหนัง (แหงละ) ในหนังจะเลือกเล่าเรื่องราวของพี่น้อง 4 คนเป็นหลัก แต่ในการ์ตูนน้องสาวคนเล็กหรือซึสึ จะเป็นคนเดินเรื่องเป็นหลัก แต่ไม่ว่าหนังหรือการ์ตูนก็ถ่ายทอดภาพ “ชีวิตธรรมดาๆ” ของคนญี่ปุ่นได้ดีเหลือเกิน อย่างเรื่องราวความรัก…
ซึสึจังก็เหมือนจะกิ๊กกั๊กกับหนุ่มน้อยคนหนึ่ง ชื่อฟูตะ ทั้งคู่อยู่ชมรมฟุตบอลเดียวกัน ดิฉันอ่านการ์ตูนตั้งแต่เล่ม 1 ยันเล่ม 6 แล้ว ตาฟูตะก็ยังไม่ได้สารภาพรักน้องซึสึเสียที…เป็นความสัมพันธ์ที่ค่อยเป็นค่อยไปแบบญี่ปุ่นจริงๆ
คนญี่ปุ่นเวลาปิ๊งกันชอบกันเริ่มจากอะไรตามมาดูเรื่องราวของซึสึจังกับฟูตะคุงกันได้เลยค่ะ ☺ (เพื่อไม่ให้สปอยล์หนัง ดิฉันเลือกเล่าฉากที่ไม่มีในหนังนะคะ อ้อ..ถ้าจะอ่านภาพการ์ตูนประกอบ กรุณาอ่านจากขวาไปซ้ายสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ)
หนุ่มญี่ปุ่นเริ่มชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่ไหน?
1. จุดเริ่มต้น…อาจเกิดจากความเข้าใจผิด
เขาว่า … ผู้ชายมักจะคิดเข้าข้างตัวเอง ผู้หญิงมองมาหน่อยก็คิดว่าผู้หญิงคนนั้นแอบชอบตัวเองอยู่แน่เลย (หึๆๆ) ในเรื่องฟูตะคุงช่วยอะไรซึสึไว้เยอะ นางก็เลยอยากตอบแทนบุญคุณ เผอิญพี่สาวนางได้บัตรไปดู Comedy show นางก็เลยชวนฟูตะไปดู
ถ้าฟูตะเบิ่งตาดีๆ จะเห็นว่าน้องซึสึชวนด้วยท่าทีเรียบเฉยนิ่งๆ ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร พูดง่ายๆ คือชวนแบบชวนเพื่อน แต่อีตาฟูตะก็ตื่นเต้นลนลานไปแล้ว แหม…มีสาวน้อยน่ารักมาชวนทั้งที
2. ยิ่งมีเพื่อนชง รักก็ยิ่งเบ่งบาน
เคยไหมคะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอเพื่อนร่วมห้องหรือเพื่อนที่ทำงานบอกว่า “เฮ้ย…ชั้นว่าเขาต้องมีใจให้แกแน่ๆ” เราก็คิดเป็นตุเป็นตะ
ฟูตะคุงก็เช่นเดียวกันค่ะ เมื่อเพื่อนสนิทรู้ว่าฟูตะกับซึสึไปดูโชว์ตลกกัน ก็เลยเอาไปแซวและไปบอกเพื่อนคนอื่นๆ
ฟูตะยิ่งเขิน…ก็เลยยิ่งสนใจซึสึมากขึ้น อย่างภาพด้านล่าง ตอนที่ซึสึมาบอกฟูตะว่าให้ไปบอกคนอื่นๆ ว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน ฟูตะกลับเหม่อมัวแต่จ้องพินิจพิจารณาใบหน้าน้องซึสึเสียจนไม่ได้ฟังที่น้องเขาพูดเล้ยยย…
3. ยิ่งมองถึงความเป็นตัวเธอมากขึ้น…
พอเริ่มสนใจฟูตะก็ยิ่งมองเธอมากขึ้นและเริ่มประทับใจในด้านต่างๆ เช่น ความสามารถ วิธีคิด ความสู้ไม่ถอยของซึสึจัง ยิ่งรู้จักก็ยิ่งประทับใจ
และตกหลุมรักในที่สุด… ☺
(โดนตัวละครอื่นขัดจังหวะความคิดเสียนี่)
วิธีแสดงความรักแบบผู้ชายญี่ปุ่น
เมื่อหนุ่มน้อยตกหลุมรักสาวไปแล้ว มาดูกันต่อค่ะว่าฮีมีวิธีการแสดงออกความรักได้อย่างไร
1. ซึนเดเระ…ปากไม่ตรงกับใจ
หนุ่มญี่ปุ่นน่ะอยากแสดงออกทางความรักแต่ก็ไม่กล้าบอกตรงๆ คือ กลัวสาวอี๋ย์ เลี่ยนอ้วกแตก เลยทำท่าเก๊กๆ ขณะที่กำลังจะทำดีกับสาว อย่างตอนที่ซึสึหนาวแล้วฟูตะจะให้ยืมผ้าพันคอ แทนที่จะเลียนแบบพระเอกไทย ยิ้มอบอุ่นพร้อมพันผ้าพันคอให้ อีตาฟูตะก็ยื่นผ้าพันคอให้ซึสึ แถมพูดแกมสั่งด้วยว่า “ใช้ซะ”
สาวๆ ทั้งหลายโปรดรู้ไว้เถิดว่าหนุ่มญี่ปุ่นอายเหลือเกินที่จะแสดงออกความรัก ความห่วงใย เพราะฉะนั้นเวลาจะแสดงออกมา เลยต้องพยายามเก๊กข่ม ไม่กล้าทำอย่างเป็นธรรมชาติ (เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นสืบเนื่องต่อไปแม้จะคบเป็นแฟนแล้วก็ตาม)
2. ห่วงอย่างห่างๆ
ผู้ชาย…เวลาชอบใครเขาจะคอยดูผู้หญิงคนนั้นอยู่ห่างๆ มีหลายครั้งที่ซึสึดูหงอยๆ ฟูตะก็ไม่ได้เข้าไปถามจี้ แต่จะใช้วิธีถามเลียบๆ เคียงๆ มากกว่าว่าเป็นอะไรหรือเปล่า
คนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยพูดความรู้สึกตัวเองค่ะ เป็นกันทั้งชายและหญิง หากฝ่ายชายถามคำถามแบบนี้ฝ่ายหญิงก็จะเล่าเรื่องราวหรือความไม่สบายใจต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
โปรดสังเกตว่าจากทั้ง 2 ภาพนี้ ซึสึก็ยังเลี่ยงที่จะเล่าความรู้สึกหรือเรื่องส่วนตัวให้ฟูตะฟัง แปลว่ายังไม่ได้เปิดใจให้สนิทกันมากขนาดพร้อมจะเล่าทุกอย่างให้ฟังได้อย่างสบายใจขนาดอยู่ชมรมเดียวกันมาหลายเดือน เพราะฉะนั้นใครที่อยากสนิทกับคนญี่ปุ่นไม่ต้องน้อยใจค่ะ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เขาไม่ค่อยเล่าปัญหาหรือระบายอะไรให้ฟัง
หรืออย่างภาพนี้ ฟูตะก็พูดเชิงๆ ให้ผู้หญิงเล่าเรื่องราวได้ง่ายขึ้น โปรดสังเกตว่าภาษาที่ผู้ชายญี่ปุ่นใช้จะมีลักษณะเหมือนภาษาของการวางตัวเหนือกว่าผู้หญิงนิดหน่อย รู้สึกอย่างนั้นไหมคะ จะไม่ค่อยมาโอ้โลมปลอบผู้หญิง แต่จะพูดกึ่งๆ สั่งเหมือนพูดกับลูกน้องมากกว่า
แต่นี่แหละ …. วิธีแสดงความรักแบบหนุ่มญี่ปุ่นเขา
(รีวิวไป รีวิวมา น้องซึสึก็แสดงอาการกลุ้มหลายรอบอยู่เหมือนกันนะคะนี่….ฟูตะถึงถามน้องบ่อยขนาดนี้ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า)
4. ไม่พูดคำหวานแต่พูดคำจริงใจ ซีเรียส
ประโยคหวานๆ แบบ “เรารักเธอตลอดนะ เธอสำคัญที่สุดในชีวิต” ทำนองนี้จะไม่ค่อยหลุดจากปากคนญี่ปุ่นสักเท่าไร (ยกเว้นถ้านางเอกจะจากบ้านจากเมืองหรือไปรบ อันนั้นพระเอกอาจจะพูดบ้าง) แต่ผู้ชายญี่ปุ่นจะพูดประโยคจริงๆ ที่ออกมาจากใจ คิดอย่างถี่ถ้วนแล้วถึงค่อยบอก เพราะคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับคำพูดมาก สัญญาคือสัญญา บอกอะไรไว้ก็ทำตามนั้น ไม่มีการพูดป้อยอหรือโกหกหรือพูดปลอบประโลมเพื่อเอาใจ
ตอนซึสึกลุ้มใจว่าตัวเองเป็นส่วนเกินของบ้าน ฟูตะพยายามจะปลอบเธอโดยการบอกว่า “แต่ฉันคิดว่าดีแล้วที่เธอเกิดมาบนโลกใบนี้” เหย…ขุ่นน้อง ซีเรียสมาก (ในเรื่องพวกนางอยู่ม.ปลาย) แต่คำพูดที่จริงจังจริงใจและมีพลัง ก็ทำให้นางเอกของเราประทับใจและรู้สึกอุ่นใจเวลาผู้ชายพูดแบบนี้ค่ะ
ในทางกลับกันคำหวานประเภท “คนอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่คุณมีค่ามากในสายตาผม” ไรงี้ อาจทำให้ผู้หญิงรู้สึกสยิวและกลัวว่าผู้ชายปากหวานไม่จริงใจ นี่คือวิธีคิดของคนญี่ปุ่นค่ะ
ใครอยากเห็นเรื่องราวชีวิตธรรมดาๆ หลายแง่มุมของคนญี่ปุ่น ดิฉันแนะนำให้ดูหนังเรื่อง Our Little Sisters นี้ (เข้าโรง 12 สิงหาคม) หรือหาการ์ตูนเรื่อง “Umimachi Diary” (สำนักพิมพ์เนชั่น) มาอ่านดูนะคะ ข้อคิดดีมากๆ ค่ะ
หมายเหตุ: ดิฉันคิดว่า คำว่า “Umimachi (อุมิมาจิ)” ซึ่งแปลว่า “เมืองริมทะเล” ออกเสียงยากมาก และชอบเผลอเรียกชื่อการ์ตูนเป็น “Unimachi (อุนิมาจิ)” ซึ่งแปลว่า “เมืองหอยเม่น”…คนละความหมายโดยสิ้นเชิง โปรดระวังนะคะ
เรื่องโดย : เกตุวดี www.marumura.com
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura