Tonami Tulip Fair ที่ถือเป็นเทศกาลดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและได้ชื่อว่าเป็น “สุดยอดสวนของประเทศญี่ปุ่น” งานแห่งนี้มีทิวลิปรวมกันว่า 25 ล้านดอก !!! (ยี่สิบห้าล้าน) !!! และมีดอกไม้นานาชนิดกว่า 600 ชนิด !!! ที่สำคัญแนวคิดของสวนแห่งนี้คือให้ทุกคนสามารถสัมผัสดอกไม้ได้อย่างใกล้ชิด ไม่มีป้ายห้ามเข้าหรือห้ามจับแน่นอน (แต่ห้ามเด็ดกลับบ้านนะ)
ในช่วงเดือนที่ผ่านมาผมได้เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นครับ ไปตระเวณตามจังหวัดโดยรอบของ Hokuriku Shinkansen ซึ่งแต่ละเมืองแต่ละจังหวัดก็ล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนก็คือทางญี่ปุ่นนั้นมีการรณรงค์เรื่องการท่องเที่ยวอย่างหนักและชัดเจนมาก แต่ละจังหวัดพยายามหาเอกลักษณ์ของตัวเองและถ่ายทอดออกมากลายเป็นจุดเด่นของจังหวัดซึ่งดึงดูดคนได้อย่างมากมาย ตรงนี้ผมมองว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เมืองไทยของเราน่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพื่อพัฒนาวงการธุรกิจท่องเที่ยวในบ้านเราครับ

และสถานที่ๆ ผมประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งในทริปที่ผ่านมา เกิดขึ้นที่เมืองโทนามิ ในจังหวัดโทะยะมะ (富山県) ส่วนหนึ่งผมมีความสุขตั้งแต่ได้เดินทางเข้าเมืองโทะยะมะแล้วครับ เมืองนี้มีความเรียบง่ายมากและดูสงบสุข โรแมนติกพอสมควรเช่นกัน (บังเอิญว่าวันที่ไปอาจจะเป็นวันดีพิเศษก็ได้ เพราะเห็นคู่แต่งงานหลายคู่มาก กำลังถ่ายภาพอยู่ตามจุดท่องเที่ยวสำคัญๆของโทะยะมะครับ ทำให้บรรยากาศดูสวยงามอบอุ่นกว่าเมืองอื่นๆที่ได้เดินทางไปในทริปเดียวกัน)
และสื่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของเมืองนี้โดยเฉพาะในโทนามิ ก็คือ “ดอกไม้” ครับ โดยปกติแล้วเมืองนี้ปลูกดอกไม้อยู่หลากหลายแบบ แต่ที่เป็นจุดเด่นของเมืองเลยและดังไปทั่วโลกก็คือ “ทิวลิป” นั่นเอง โดยทิวลิปของโทนามินั้นได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และใครที่เดินทางมาโทะยะมะ ก็ห้ามพลาดเลยที่จะมาแวะ TONAMI TULIP PARK ซึ่งเป็นสถานที่ๆ คุณสามารถชมทิวลิปได้ทั้งปี! เพราะเขามีห้องจัดแสดงที่กำหนดอุณหภูมิเอาไว้อย่างเหมาะสม ตรงนี้ห้ามพลาดเลยจริงๆ ครับ ผมได้เข้ามาชมแล้ว จากคนที่ไม่ค่อยสนใจดอกไม้อะไรเลย ก็สนใจทิวลิปขึ้นมาทันทีเลยล่ะครับ
โทนามิถือเป็นเมืองที่สร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับทิวลิปมากมาย ยกตัวอย่างเช่นทิวลิปพันธุ์ใหม่ของโลก ซึ่งเมืองนี้ได้ถือกำเนิดทิวลิปถึง 3 ชนิดด้วยกัน นั่นคือ 1. Exciting Firework 2.Wedding Veil และ 3.Otome Zakura และนอกจากการให้กำเนิดทิวลิปใหม่ๆ แล้ว เมืองโทนามิยังได้คิดค้นวิธีการปลูกทิวลิปบนน้ำ ซึ่งวิธีนี้กลายเป็นรูปแบบการปลูกทิวลิปแนวใหม่ และเผยแพร่ออกไปทั่วโลก สิ่งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวโทนามิและจังหวัดโทะยะมะครับ

ก่อนที่จะไปพูดถึงเรื่อง Tonami Tulip Fair ซึ่งเป็นงานเทศกาลดอกไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ผมขอย้อนกลับมาถึงจุดเริ่มต้นของทิวลิปในประเทศญี่ปุ่นกันก่อนครับ เดิมทีนั้นทิวลิปเป็นดอกไม้ของยุโรป โดยที่มีชื่อเสียงสุดจะอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ครับ ทิวลิปเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นในช่วงยุค 80 ครับ มีการนำเข้ามาจากยุโรปในปี 1863 แต่ยังไม่นิยมแพร่หลายนัก และสำหรับเมืองโทะยะมะตอนนั้นโทะยะมะ ก็เป็นเมืองการเกษตรเนี่ยแหละ ทำไร่ ทำนา ตามปกติ แต่ปัญหาก็คือพอหมดฤดูเก็บเกี่ยว อย่างเช่นเริ่มเข้าหน้าหนาว พวกเขาก็ไม่สามารถทำไร่ได้ เนื่องด้วยสภาพอากาศและสภาพดินที่ไม่เอื้ออำนวย
เหตุนี้ชาวเมืองจึงคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเสียที เวลาผ่านไปเนิ่นนาน เรื่อยมาจนถึงปี 1948 ชายชื่อ “มิซึโฮะ” ก็เกิดแนวคิดว่า ทำไมไม่เอาทิวลิปมาปลูกในระหว่างที่ทำนาไม่ได้ล่ะ! พื้นที่เยอะขนาดนี้หากเปลี่ยนลานโล่งๆ เป็นดอกไม้ มันคงจะสวยงามน่าดูเลย
นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทิวลิปเริ่มเข้ามาในโทะยะมะ เรื่อยมาจนลงหลักปักฐานในโทนามิครับ (คือทิวลิปปลูกเยอะในญี่ปุ่นนะครับ ในโตเกียวอะไรแบบนี้สมัยก่อนก็มีแต่ด้วยความที่พวกเขาต้องการพัฒนาเมือง ประจวบเหมาะกับที่ชื่อโทนามิทิวลิปเริ่มติดตลาดขึ้น พวกเขาเลยขนย้ายทิวลิปมาไว้ที่โทนามิเป็นหลัก ให้กลายเป็นเมืองทิวลิปไปเลย กรณีเดียวกับการที่ย้ายบอนไซจากทั่วญี่ปุ่นมาลงหลักปักฐานในไซตามะนั่นล่ะครับ)

เวลาผ่านไปก็เกิดการเรียนรู้มากขึ้นเรื่อยๆ และจุดสำคัญที่ทำให้วงการทิวลิปญี่ปุ่นเจริญเติบโตจนวันนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับ Tonami Tulip Park ที่ศึกษาทิวลิปจนได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญถ่องแท้ จุดเด่นของพวกเขาคือพวกเขาสามารถกำหนดวันเวลาที่แน่นอนได้เลยว่าดอกไม้แต่ละดอกจะบานเมื่อใด และตายเมื่อใด ปกติแล้วทิวลิปมีอายุอยู่เพียงประมาณ 2 สัปดาห์ครับ (คือหลังจากนั้นก็จะค่อยๆ เหี่ยวเฉาลง ไม่สวยงามมากพอที่จะจัดแสดง) แต่ทิวลิปที่นี่จะมีอายุนานกว่าเดิมประมาณหนึ่งสัปดาห์ เพราะพวกเขาปลูกแบบอุตสาหกรรม กล่าวคือมีการกำหนดอุณหภูมิดิน อุณหภูมิน้ำอย่างชัดเจน ทำให้สามารถเค้นศักยภาพของทิวลิปแต่ละดอกมาได้มากที่สุด
อนึ่งดอกทิวลิปที่แข็งแรงที่สุดของดอกทิวลิป “สีเหลือง” นะครับ และปกติสวนแห่งนี้จะปลูกทิวลิปไว้จำนวนมากแบบนับไม่ถ้วนไว้บนกระถาง เพื่อที่ว่าเมื่อดอกใดเรื่มเหี่ยวเฉา (ด้วยความที่แกปลูกแบบวิทยาศาสตร์ ทำให้ดอกแต่ละดอกในกระถางมันจะบานและเหี่ยวพร้อมกันแทบจะเป๊ะๆ) พวกเขาก็จะยกไปเปลี่ยนทั้งกระถางเลย สลับแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้มั่นใจได้ว่านักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม จะได้เห็นดอกทิวลิปที่สวยงามเสมออย่างแน่นอนครับ
และสิ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ของทิวลิปเมืองโทนามิ ก็คือ Tonami Tulip Fair ที่ถือเป็นเทศกาลดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งและได้ชื่อว่าเป็น “สุดยอดสวนของประเทศญี่ปุ่น” งานนี้จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1952 เริ่มต้นขึ้นจากการเป็นเทศกาลระดับท้องถิ่น มีการจัดแสดงดอกไม้ และการแสดงของเด็กน้อยในละแวกเมือง (แต่งหน้าแต่งตัวมาแสดงกันอย่างจริงจัง และปัจจุบันก็ยังคงธรรมเนียมนี้ไว้ ดังนั้นคนที่มาร่วมงานดอกไม้ก็จะได้เห็นการแสดงของเด็กๆ ด้วย)

งานแห่งนี้มีทิวลิปรวมกันว่า 25 ล้านดอก !!! (ยี่สิบห้าล้าน) !!! และมีดอกไม้นานาชนิดกว่า 600 ชนิด !!! ที่สำคัญแนวคิดของสวนแห่งนี้คือให้ทุกคนสามารถสัมผัสดอกไม้ได้อย่างใกล้ชิด ไม่มีป้ายห้ามเข้าหรือห้ามจับแน่นอน (แต่ห้ามเด็ดกลับบ้านนะ) ใครอยากจะบุกฝ่าดงเข้าไปถ่ายภาพก็ทำได้ (คือถึงแม้เขายินดีและอนุญาต แต่เราก็ต้องเข้าไปแบบมีมารยาทนะครับ ไม่ใช่เหยียบดอกไม้พร่ำเพรื่อหมด แบบนี้ก็จะโดนเชิญออกได้เลย)
และถ้าใครอดใจกับความงามเหล่านี้ไม่ไหว อยากจะเด็ดกลับบ้านจริงๆ ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะดอกไม้กว่า 600 ชนิดที่ท่านเห็นในงานทั้งหมด “สามารถซื้อ” ได้ด้วย !!! คือคุณสามารถทำได้ทั้งแจ้งพนักงานให้หยิบดอกนู้นดอกนี้ได้เลย หรือถ้าเดินมาไกลแล้ว เพิ่งเกิดไอเดียว่าอยากได้ดอกนู้นมาผสมดอกนี้ ฯลฯ เป็นช่อดอกไม้แสนสวย คุณก็สามารถทำได้เหมือนกัน เพราะล่าสุดเขามีบริการเมนูดอกไม้พร้อมภาพจัดเอาไว้ให้คุณได้เลือกตามความต้องการมาจัดเป็นช่อดอกไม้ที่ระลึกกลับบ้านด้วย (ราคาก็แล้วแต่ชนิดไปครับ มีแจ้งไว้ชัดเจน)
เมืองโทนามิ เดินทางมาได้ง่ายขึ้นมาหลังจากการมาถึงของชินคังเซ็นครับ โดยห่างจากโตเกียวเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้นเอง (นักท่องเที่ยวใช้ JR PASS สบายเลย) นอกจากสวนทิวลิปแล้ว ในโทยามะยังมีอะไรให้ท่องเที่ยวอีกหลายอย่าง เช่นยอดเขามุโรโดะ, กำแพงหิมะ หรือสวนกลางเมืองที่ได้ชื่อว่ามีสตาร์บัคที่ได้รับรางวัลว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่น
และสำหรับใครที่อยากเดินทางมาชมทิวลิปที่โทนามิแห่งนี้ ก็มาลงรถไฟสถานี Tonami ได้เลย จะมีรถบัสฟรีพามาเลย โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้นครับ โดยงานแฟร์จะมีช่วงประมาณเดือนเมษาถึงพฤษภาคม สนนค่าเข้าเพียงคนละ 1,000 เยนเท่านั้น (ถ้ามาเป็นทัวร์เกินยี่สิบคน จะเหลือแค่คนละ 900 เยน)
หากใครอ่านแล้วยังไม่จุใจ อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือสอบถามเรื่องอื่นๆ ก็แอดทวิตเตอร์มาคุยกันได้ที่ @pumiiiiiiiiii ครับ !!!
เรื่องแนะนำ :
– การจากไปของ “Takahashi Minami” และความเปลี่ยนแปลงของ AKB48
– สุดยอดเกมมวยปล้ำญี่ปุ่นในตำนาน
– ทำไมต้องไปญี่ปุ่นกับทัวร์
– เกือบตายในบาร์ญี่ปุ่น : การเอาตัวรอดจากคลับบาร์ในเวลาที่โดนโกง
– การ์ตูนต้องไม่ใช่เหยื่อของสถานการณ์