มันจะเป็นวันอาทิตย์ที่เงียบสงบ ถ้าไม่มีข่าวเรื่อง นักเรียนกระโดดกำแพงโรงเรียน เพื่อยืนหยัดในเสรีภาพ…
มันจะเป็นวันอาทิตย์ที่เงียบสงบ ถ้าไม่มีข่าวเรื่อง นักเรียนกระโดดกำแพงโรงเรียน เพื่อยืนหยัดในเสรีภาพ
ผมอ่านหนังสือเรื่อง 同級生 – “เพื่อนร่วมชั้น” ของอาจารย์ฮิกาชิโนะ เคโงะ
เรื่องเริ่มจาก มิยามาเอะ ยูกิโกะ ตายเพราะถูกรถชน และก็มีข่าวลือมาว่าเธอท้องอีก นิชิฮาระ โชอิจิ กัปตันทีมเบสบอลของโรงเรียนตัดสินใจสารภาพกับทุกคนว่าเขาคือพ่อของเด็ก และเพราะสงสัยเกี่ยวกับการตายของยูกิโกะเลยตั้งใจสืบคดีเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับ ‘คนรัก’ ทว่าระหว่างที่นิชิฮาระทำการสืบคดีก็ดันไปมีเรื่องกับครูแนะแนวที่นิชิฮาระสงสัยว่าเป็นคนทำให้ยูกิโกะตาย แต่แล้วอยู่ๆคุณครูคนนี้ก็ดันถูกพบเป็นศพและนิชิฮาระเองก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมอีกต่างหาก
เรื่องนี้มันส์ตรงที่
หนึ่ง ผู้เขียนใส่ให้ตัวละครเด็ก ห้าวหาญและมีก้าวร้าวสไตล์เด็กยุคใหม่
นิชิฮาระ ตามล่าหาความจริงอย่างพลุ่งพล่าน จริงอยู่ว่าในหนังสือ ตัวเอกไม่ได้มีปัญหากับโรงเรียนในมุมกฎระเบียบ การย้อมผม หรือการไม่เข้าเรียน (มันดันออกมาในรูปแบบว่าถ้ามันมีเรื่องที่สำคัญกว่า… ก็แค่เรียนโดยไม่ใส่ใจ)
ผู้เขียนใส่ความรู้สึ ความคิดที่พวกเราตอนเด็กๆ อาจสะเทือนจิตใจ
“พวกเราที่เป็นนักเรียนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอาจารย์ แต่อาจารย์รุกล้ำความเป็นส่วนตัวนักเรียนระดับที่พูดได้ว่าเพิกเฉยต่อมนุษยชน มันเป็นกลไกแบบนี้หรือ”
“ผมไปงานศพ แต่ไม่เคารพคนตายหรอก แต่จะไปเพื่อจะไปด่า ไปแช่งต่อหน้าศพอีกที ทำไมคนตายแล้ว ต้องเป็นคนดีทันทีหรือไง” (ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกแรงส์มากกอ่ะ)
สอง จะเขียนหนังสือฆาตกรรม ต้องเหมือนมียุทธศาสตร์ ต้องสร้างหลายทางยังกับแก้โจทย์เลข
ตอนเด็กๆ รุ่นพี่ในค่ายคณิตศาสตณ์โอลิมปิก สอนผมว่า เวลาทำโจทย์เลข เราต้องมีวิธีคิดหลายๆ ทางไว้ก่อนเลย
อย่างโจทย์เรขาคณิต ให้ลองคิดว่าจะลองลากเส้นตรงไหนเพิ่มไหม หรือจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง ให้ลองตั้งแกน X แกน Y สร้างพิกัด ตั้งสมการดูไหม
เช่นเดียวกับการเขียนเรื่องฆาตกรรม
ถ้าคนอ่านชักสงสัยว่า นี่เป็นฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตาย ต้องใส่ลากเส้นเรื่องเข้ามาตรงไหน คนอ่านจะได้สับสน
ถ้าจะพิสูจน์ ทำไมคนที่น่าจะเป็นฆาตกร ถึงมีหลักฐาน เราก็ต้องให้ตำรวจ หรือตัวเอก พูดอะไรบางอย่าง ให้คนอ่านคิดว่า “เออ ถ้าเป็นแบบนี้ ก็น่าจะมีหลักฐานปลอมได้สิ”
ซึ่งเรื่องนี้ ผมชื่นขอบกับ วิธีการนำเสนอของ อาจารย์ฮิกาชิโนะมาก ผมเชื่อว่าคนเขียนเรื่องนี้ ต้องมีกระดาษทด วาดความเป็นไปได้ไว้หลายๆ ทางตอนเขียนหนังสือแน่ๆ (อีกหน่อยผมจะเลียนแบบบ้าง)
สาม กดเม็ดที่จะบอกว่า ต้องให้มีตัวละครที่ฉลาดกว่าคนอ่าน
“เราเสียเวลามากเลยกับคดีนี้… เพราะมีคนโกหก”
“ใครอ่ะครับ”
“ก็คนตรงหน้านี้ไง”
มุขแบบนี้ ผมจำได้ว่าเจ้าพ่อนักเขียนเรื่องสั้นไทย วินทร์ เลียววาริณ ก็ใช้บ่อยมาก
อย่างตำรวจในเรื่อง พยายามสืบเสาะว่า ใครแอบรักใครหรือเปล่าเช่นครูแอบรักนักเรียน เพื่อนไปรักคนที่มีแฟน ถามตรงๆ ก็ดันไม่มีใครบอก“ดูตอนให้การ ก็สังเกตได้ถ้าคนมันรัก น้ำเสียงสีหน้า จะเปลี่ยนทันที”
“พอเราถามไปถึงผ้าพันแผล ที่มีโอกาสเป็นอาวุธสังหาร เธอก็ไม่มีอาการกังวล หรือถามอะไรกลับเลยว่ามันเกี่ยวอะไรกับคดี ฆาตกรทั่วไปจะต้องมีปฎิกริยาแน่ นั่นทำให้ตำรวจเชื่อว่านี่ไม่ใช่คนร้าย”
เอาล่ะ ถึงเรื่องสุดท้ายกับดราม่ารั้วโรงเรียนในช่วงนี้…
โรงเรียนญี่ปุ่นเองก็มีเครื่องแบบ เครื่องแบบกับเสรีภาพเป็นคนละเรื่องกัน เครื่องแบบกับความคิดสร้างสรรค์ก็เป็นคนละเรื่องกัน
ผู้เชียนไม่เคยคิดเลยนะ… ว่าโรงเรียนคือสถานที่ให้ความรู้ เพราะในโลกวันนี้ ความรู้หาได้ทุกที่ เผลอๆ ในอินเตอร์เนตก็มีมากกว่า ความรู้ที่โรงเรียนมีให้ทั้งโลกด้วยซ้ำ
และโรงเรียนทั่วโลกก็มีวิชาที่สอนแล้ว เด็กงงๆ ว่าเอาไปทำอะไร
แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ ทุกโรงเรียนสอนให้เรารู้จักวิธีใช้ชีวิต ต่อให้ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างหรือขัดแย้ง (มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนจากร้อยพ่อพันแม่ จะไม่แตกต่างหรือขัดแย้งกัน)
สรุปจบแบบงงๆ ละกันครับ
– หนังสือเรื่อง 同級生 – “เพื่อนร่วมชั้น” ดี ไม่เสียเวลามาหยิบอ่าน และมันจะช่วยให้เราคิดได้ว่าโรงเรียนไม่ใช่ สถานที่เราแค่เดินไปเรียนหนังสือ และก็สอบ เราควรทำอะไรมากกว่านั้น
– หน้าที่ของโรงเรียนที่แท้จริง เผลอๆ ไม่ใช่การให้ความรู้ด้วยซ้ำ… แต่ให้ พวกเขารู้จักโลก อย่างน้อยที่สุดที่ให้เขาอยู่รอดในได้เมื่อเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ต่างหาก
เรื่องแนะนำ :
– “The days” untold story วันวิบัติ อีกจักรวาล
– [เรื่องสั้นคืนวันเลือกตั้ง 18++] #ถึงเวลาเห็นของจริง
– [ทดความคิด] เลือกดูหนังสือ แล้วย้อนดูเลือกตั้ง
– Tokyo Marathon The Series: อะไรอยู่หลังเส้นชัย ของวันที่โตเกียวมีขา
– Tokyo Marathon The Series – สิ่งที่อยู่หลังเส้นชัย
– World Cup 2022 series Ep.4.5 “Memory”
[ทดความคิด] เขียนหนังสือฆาตกรรมให้มันส์ทำยังไง สู่คำถาม โรงเรียนมีไว้ทำอะไร