ตามไอดอลไทย AKIRA KURØ ไปล่าฝันในโลกใต้ดินญี่ปุ่น! บทที่ 3 : เวทีในความทรงจำกับวง MAZE… สำหรับคนที่ไม่รู้จักหนู วงอากิระ คุโระคือวงไอดอลใต้ดิน หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า “จิกะไอดอล” ค่ะ หนูมีความสุขมากที่มีโอกาสเขียนบทความนี้ เพราะเอาเข้าจริงวงการของหนูยังไม่ได้อยู่ในกระแสหลักมากถ้าเทียบกับไอดอลวงใหญ่ ๆ แต่เหตุผลนี้แหละที่ทำให้ประสบการณ์นี้พิเศษกว่าครั้งอื่น
อีกหนึ่งความตั้งใจของหนูและสมาชิกวง AKIRA KURØ คือการได้ขึ้นเวทีร่วมกับวง Maze ค่ะ สำหรับคนที่ไม่รู้จัก วงนี้คือวงไอดอลที่ Sxun อดีตมือกีต้าร์จาก Fear, and Loathing in Las Vegas เป็นเจ้าของวง เป็นวงที่เมมเบอร์แต่ละคนมีประสบการณ์การเป็นไอดอลสายนี้มานาน หนูมั่นใจว่าถ้าใครเคยได้ดูคอนเสิร์ตของ Maze สักครั้ง จะรู้เลยว่าสาว ๆ ทุกคนเก่งมาก นี่คือวงที่สามารถส่งพลังและส่งความสุขมาให้กับคนดูได้จริง หนูชื่นชมวง Maze มาตลอดเลยค่ะ
เวทีในวันที่ 3 ของพวกเราชื่อว่า Shibuya Malcom มีลักษณะเป็นบาร์ใต้ดินอีกแล้ว แต่สิ่งที่ต่างก็คือ เวทีมีขนาดเล็กมากแถมยังมีเสายื่นเข้ามาในเวทีบางส่วนอีกด้วย ซึ่งปกติแล้วเพลงของอากิระ คุโระมีไลน์เต้นที่ค่อนข้างใหญ่ ใช้พื้นที่เยอะ แถมมีสมาชิกตั้ง 10 คน ดังนั้นเมื่อเจอเวทีที่เล็กแบบนี้ เราก็เลยต้องแก้ไขสถานการณ์โดยการปรับท่าเต้นและลดขนาดไลน์เต้น เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น บางครั้งนอกจากจะต้องจำบล็อคกิ้งของตัวเองแล้ว ยังต้องจำบล็อคกิ้งของเพื่อนที่อยู่ด้านข้างด้วย จะไม่เบียดเพื่อนจนเกินไป ที่สำคัญ หนูกลัวตกเวทีค่ะ !
และนอกจากเรื่องพื้นที่บนเวทีจะเป็นอุปสรรคแล้ว การขาดไมค์ไป 4 ตัวก็เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน ยิ่งตัวหนูเองที่เป็นสมาชิกใหม่ การขาดไหวพริบและประสบการณ์เป็นอุปสรรคที่ใหญ่มากสำหรับหนู หนูไม่เคยเจอสถานการณ์ที่ไมค์ไม่ครบ และต้องเปลี่ยนไมค์ในเวลาอันรวดเร็วมาก่อน หนูพูดตามตรงว่าตอนซ้อมหนูทำไม่ได้เลย พลาดบ่อย พยายามแค่ไหนก็ทำไม่ได้ พอถึงวันแสดงหนูเลยเครียดมาก นั่งร้องไห้ทั้งวัน ไม่คุยกับใครเลยค่ะ
ตอนนั้นหนูรู้สึกว่าหนูไม่เหมาะกับที่ตรงนี้ รู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันยากเกินไปสำหรับหนู เรียกได้ว่าวันนั้นหนูถอดใจกับการเป็นไอดอลไปแล้ว แต่เรื่องที่หนูจะจำไปตลอดชีวิตก็คือความน่ารักของพี่ ๆ ในวงค่ะ ทุกคนไม่ได้มองข้ามความรู้สึกหนู แถมยังเป็นห่วงหนูด้วย พี่ ๆ เข้ามากอดหนู ให้กำลังใจหนู แถมยังร้องเพลงกล่อมไม่ให้หนูร้องไห้ด้วยนะ บางทีคุณค่ของการได้มาทัวร์ต่างประเทศก็คงเป็นช่วงเวลาแบบนี้ล่ะค่ะ
หนูบอกตัวเองเสมอว่า แม้หนูจะไม่ได้เชื่อมั่นในตัวเอง แต่พี่ ๆ ทุกคนกลับเชื่อมั่นในตัวหนู สิ่งนี้ทำให้หนูรู้สึกว่าหนูไม่ได้อยู่คนเดียว และต่อให้ในการเดินทางนี้หนูจะวิ่งช้าที่สุดหรือล้มระหว่างทาง พี่ ๆ ในวงก็จะไม่ปล่อยให้หนูต้องอยู่คนเดียว และจะช่วยดึงหนูเดินไปด้วยกัน ความคิดนี้ทำให้หนูรู้สึกว่าตัวเองโตไปอีกขั้น และยังเป็นการเติบโตด้วยความรักอย่างแท้จริงด้วยค่ะ
สเตจที่ 3 เป็นสเตจสุดท้าย และเป็นสเตจที่ยากที่สุดในชีวิตหนูเลยค่ะ บอกตรง ๆ ว่าแม้จะพยายามกันแค่ไหน แต่เราก็ไม่ได้คาดหวังเลยว่าโชว์ครั้งนี้จะออกมาดี แต่ผลลัพธ์หลังจบการแสดงกลับลตรงกันข้ามกับที่คิดไว้ พวกเรารับส่งไมค์กันได้ไหลลื่นมาก ! แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้รวดเร็ว ไม่เกิดอุบัติเหตุขณะแสดง และยังเป็นโชว์ที่ทำออกมาได้ดีที่สุดตั้งแต่ที่หนูเคยเป็นไอดอลมาเลย
หนูจำได้ดีว่ามีพี่เมมเบอร์ในวงของหนูบอกว่าเคยเห็นตั้งแต่ยังเต้นไม่ได้เลย และไม่ใช่แค่เริ่มต้นที่ศูนย์นะคะ แต่เป็นติดลบเลยด้วยซ้ำ แต่ในสเตจนี้เขาได้มองเด็กที่เคยร้องและเต้นไม่ได้อยู่ข้างหน้าบนเวทีเดียวกันตรงนี้ แถมยังทำออกมาได้ดีมาก ๆ มันเป็นความภูมิใจของพวกพี่และทุกคนที่รักหนูค่ะ
เรื่องแนะนำ :
– ตามไอดอลไทย AKIRA KURØ ไปล่าฝันในโลกใต้ดินญี่ปุ่น! บทที่ 2 ออกเดินทาง
– ตามไอดอลไทย AKIRA KURØ ไปล่าฝันในโลกใต้ดินญี่ปุ่น! บทที่ 1 จุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งความฝัน
– “จอห์นนี่ คิตากาว่า” นักปั้นไอดอลชายให้ดังที่สุดในญี่ปุ่น
– คาวาโกะ ฮินะ อดีตไอดอล Nogizaka46 กับเรื่องที่ไม่ได้อยากถาม แต่แค่อยากรู้
– Papa Idol เรื่องราวความรักต้องห้ามกับไอดอล
#ตามไอดอลไทย AKIRA KURØ ไปล่าฝันในโลกใต้ดินญี่ปุ่น! บทที่ 3 เวทีในความทรงจำกับวง MAZE