การเล่นทดสอบความกล้าหรือคิโมะดาเมะชิ นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมสนุกๆ (?) ที่คนญี่ปุ่นแทบทุกคนต้องเคยผ่านมาแล้ว โดยเนื้อหาของการละเล่นนี้ก็คือ เราต้องรวบรวมคนที่เข้าร่วมทดสอบความกล้า แล้วพาไปทดสอบความกล้าในสถานที่ๆ น่ากลัว

ถ้าพูดถึงฤดูร้อน สำหรับคนไทยแล้ว คงเป็นอะไรที่สุดแสนจะธรรมดา (เพราะอากาศเมืองไทยร้อนตลอดปี!) แต่สำหรับคนญี่ปุ่น นับได้ว่าเป็นฤดูที่มีสีสัน มีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้ทำ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ในละติจูดที่สูงกว่าประเทศไทย ทำให้มีฤดูกาลมากกว่าไทย คือมีทั้งหมด 4 ฤดู
ฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นมีช่วงระยะเวลาอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน แต่ช่วงที่ถือว่ามีอากาศแบบ “ฤดูร้อน” จริงๆ ก็คือ กลางเดือนกรกฎาคมไปจนถึงกลางเดือนกันยายนค่ะ เพราะมีช่วงระยะเวลาสั้นๆ แค่ 2 ถึง 3 เดือน ทำให้ช่วงฤดูร้อนถือเป็นช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นรอคอยที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่สามารถทำได้ในฤดูอื่นๆ อย่างเช่น ว่ายน้ำกลางแจ้ง ไปทะเล (ปิดตาตีแตงโม!) ไปชมหิ่งห้อย ไปงานเทศกาลชมดอกไม้ไฟ (花火大会) เทศกาลบงโอโดะริ (お盆) แล้วยิ่งถ้าเป็นนักเรียนมัธยมปลายก็จะมีกิจกรรมมากเข้าไปใหญ่ เช่น ไปทัศนศึกษา เข้าค่ายฝึกซ้อมของชมรม (合宿) รวมไปถึงการทดสอบความกล้า (肝試し)

ในที่นี้เราจะขอพูดถึงการเล่นทดสอบความกล้า (คิโมะดาเมชิ, 肝試し) ที่มักจะปรากฎอยู่ในการ์ตูนและอนิเมชั่นบ่อยๆ กันค่ะ การเล่นทดสอบความกล้าหรือคิโมะดาเมะชิ (Kimodameshi) นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมสนุกๆ (?) ที่คนญี่ปุ่นแทบทุกคนต้องเคยผ่านมาแล้ว โดยเนื้อหาของการละเล่นนี้ก็คือ เราต้องรวบรวมคนที่เข้าร่วมทดสอบความกล้า แล้วพาไปทดสอบความกล้าในสถานที่ๆ น่ากลัว เช่น ศาลเจ้า สุสาน บ้านร้าง โรงเรียนร้าง โรงพยาบาลร้าง ป่าที่มีบรรยากาศน่ากลัว บนภูเขา เป็นต้น และไม่ใช่แค่ไปเดินผ่านสถานที่เหล่านั้นแล้วจบ ยังมีการมอบหมายภารกิจให้ผู้เข้าร่วมทำด้วย เช่น ภารกิจเขียนชื่อบนกระดานในห้องเรียนที่มีเรื่องเล่าว่ามีคนเคยผูกคอตาย ไปหยิบของที่กำหนดเอาไว้ในห้องดับจิตของโรงพยาบาลร้าง แค่จินตนาการตามก็ขนลุกแล้ว

คนญี่ปุ่นมีความเชื่อเกี่ยวกับวิญญาณว่า ในช่วงฤดูร้อนเหล่าวิญญาณจะมีพลังแกร่งกล้าและออกมาเพ่นพ่านในโลกของมนุษย์กันมาก ทำให้การเล่นทดสอบความกล้าเป็นอะไรที่ยิ่งน่าตื่นเต้น น่าขนหัวลุกเข้าไปใหญ่
การเล่นทดสอบความกล้าจะจัดเฉพาะในตอนกลางคืนเท่านั้น โดยจะมีการแบ่งคนที่มาเข้าร่วมเป็นกลุ่มๆ หรือบางทีก็ให้ไปคนเดียว ไปทำภารกิจหรือเดินวนรอบสถานที่ๆ น่ากลัวนั้น แน่นอนว่าถ้าให้ผู้เล่นเดินเฉยๆ ก็คงจะไม่สนุกไม่เร้าใจนัก คนที่เป็นพ่องานแม่งานก็จะมีการตระเตรียมเสียงเพลงสุดระทึกพร้อมซาวนด์เอฟเฟคต์เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูน่าสยองขวัญ และแน่นอนว่าต้องมีการเตี๊ยมให้มีคนแสดงเป็นผี ที่เรียกว่า โอบะเกะยะคุ (お化け役) คนที่แสดงเป็นผีนี้จะเป็นคนที่คอยโผล่ไปหลอกผู้เล่นให้ตกใจวิ่งหนี พร้อมคอยขัดขวางไม่ให้ทำภารกิจสำเร็จ

จุดมุ่งหมายของการละเล่นนี้ แน่นอนก็คือเพื่อทดสอบความกล้า ทดสอบผู้เข้าร่วมว่ามีจิตใจแข็งแกร่งพอที่จะทนต่อสิ่งที่น่ากลัวได้หรือไม่ นอกจากนี้ก็ยังมีเป้าหมายแฝงอยู่อีกด้วย คือ การเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพวกพ้อง การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และการไม่ทิ้งกันแม้ในยามที่กลัวหรือพบความยากลำบาก จากจุดนี้เห็นได้ว่าการทดสอบความกล้า ไม่ใช่แค่การเล่นเพื่อความสนุกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีจุดมุ่งหมายให้คนสามัคคีกันอีกด้วย
พอมาถึงตรงนี้แล้ว มีใครอยากจะลองเล่นทดสอบความกล้ากันบ้างไหมคะ? สำหรับเราแล้วก็อยากลองเล่นดูบ้าง แต่ไม่รู้ว่าผีที่ไทยจะน่ากลัวกว่าผีที่ญี่ปุ่นหรือเปล่านี่สิ ถ้าตอนนี้ใครยังอยู่ในวัยเรียนอยู่ มีเวลาว่างๆ ก็ลองชวนเพื่อนๆ ไปทดสอบความกล้าในช่วงวันหยุดเพื่อเป็นประสบการณ์ที่ดีในวัยเรียนกัน!
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ:http://ja.wikipedia.org/wiki/%E8%82%9D%E8%A9%A6%E3%81%97