ยากูซ่าเหมือนจะเป็นคำที่ใช้เรียกเพื่อเป็นการดูถูกคนกลุ่มนี้กลายๆ แต่เอาจริงๆ แล้ว เหมือนกลุ่มยากูซ่า คงไม่ได้แคร์ที่มาของคำๆ นี้ หากใครจะมาเรียกพวกตูว่ายากูซ่าคงช่างมัน ถ้ามันมาหยามตูมากๆ เมื่อใด “เดี๋ยวพ่อก็สอยซะหรอก”
เล่าโดย : วสุ มารุมุระ

ช่วงที่ผ่านมามีข่าวที่ทางการญี่ปุ่นออกมาระบุว่า มีปัญหาความขัดแย้งภายในกลุ่มยากูซ่าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นคือ กลุ่มยะมะกุจิ ซึ่งปัญหาเกิดจากความยากลำบากในการระดมเงินทุน
ความยากลำบากในการระดมเงินทุนที่ว่านี้เกิดจากข้อกฎหมายที่บังคับไม่อนุญาตให้ทางภาคธุรกิจให้การบริการ “กลุ่มผู้ใช้ความรุนแรง” ซึ่งอันได้แก่การเปิดบัญชีธนาคาร ทำธุรกรรมทางอสังหาริมทรัพย์ หรือการทำประกัน ซึ่งลักษณะข้อกฏหมายนี้ไม่ใช่มีเพียงแต่ในญี่ปุ่น แต่มีใช้กันสากลทั่วโลก โดยทั่วไปจะเรียกกันว่า Anti-money laundering หรือการต่อต้านการฟอกเงิน ในประเทศไทยเราก็มีการตรวจสอบครับ
กลับมาถึงคำว่า ยากูซ่า กันต่อ
คำว่า “ยากูซ่า” นี่มีความหมายว่า “ไม่มีค่า” ซึ่งมีที่มาจากเกมการละเล่นไพ่แบบหนึ่ง วิธีการเล่นคือการจับเอาไพ่มาสามใบมารวมคะแนน หาคนที่ได้คะแนนมากสุด หรือพูดง่ายๆคล้ายป๊อกแปดป๊อกเก้าบ้านเรา ซึ่งคำว่า “ยากูซ่า” นี่ สามารถแทนได้ด้วย 8 (ยะ 八) 9 (คุ 九) 3 (ซะ 三) ซึ่งรวมกันแล้วได้ 20 แต้ม ซึ่งลงท้ายด้วย “0” กลายเป็นหน้าไพ่ที่ไม่มีค่า
เพราะฉะนั้นแล้ว ยากูซ่าเหมือนจะเป็นคำที่ใช้เรียกเพื่อเป็นการดูถูกคนกลุ่มนี้กลายๆ แต่เอาจริงๆ แล้ว เหมือนกลุ่มยากูซ่า คงไม่ได้แคร์ที่มาของคำๆ นี้ หากใครจะมาเรียกพวกตูว่ายากูซ่าคงช่างมัน ถ้ามันมาหยามตูมากๆ เมื่อใด “เดี๋ยวพ่อก็สอยซะหรอก”
โดยทั่วไปแล้วอย่างที่ทราบกันดีว่า ยากูซ่า หมายถึง “กลุ่มผู้ใช้ความรุนแรง” ตามที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดไว้ ทางราชการจะสืบทราบว่าใครเป็นยากูซ่า และจะมีการประกาศรายชื่อบุคคลผู้เกี่ยวข้องว่าคนเหล่านี้อย่างเป็นทางการว่าเป็น “กลุ่มผู้ใช้ความรุนแรง”
ตรงนี้ผมคิดว่ายากูซ่า “มีแนวโน้ม” ที่จะใช้ความรุนแรงเป็น “เครื่องมือหลัก” ต่อการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางกายภาพ ความปลอดภัย ความสัมพันธ์ ความเคารพนับถือ และ ความสมบูรณ์องชีวิต (ว่ากันตามลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์)
แต่ขึ้นชื่อว่ายากูซ่า แล้วก็มีลักษณะเฉพาะของประเทศญี่ปุ่นครับ ซึ่งจะสรุปกล่าวเป็นข้อๆสั้นๆ ดังนี้คือ
1. ยากูซ่ามีรอยสัก รอยสักที่มีมากแสดงถึง “ความกล้าที่จะอดทนต่อความเจ็บปวด”
2. มีการ “หั่นนิ้ว” ตัวเองเพื่อแสดงความรับผิดชอบในความผิดที่ตนเองทำ หรือแม้แต่การขอโทษแทนลูกน้องของตนเอง ซึ่งการหั่นนิ้วนี้เป็นการแสดงว่า “ผมแสดงความขอโทษขนาดนี้แล้ว เรื่องที่ผ่านมาก็ให้แล้วกันไป” เป็นที่กล่าวขานกันว่าผู้นำระดับสูงบางคนในองค์กรตัดนิ้วเหลือแค่ 4 นิ้ว คือนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ทั้งสองข้าง
3. ยากูซ่ามีการนับญาติแบบพ่อลูก และสาบานตนผ่านการดื่มสาเก ซึ่งวัฒนธรรมการดื่มสาเก เพื่อแสดงถึงการเริ่มต้นความสัมพันธ์มีอยู่ในทุกที่ของญี่ปุ่น ไม่ว่าการดื่มสาเกช่วงแต่งงาน หรือ การดื่มสาเก ฉลองความสำเร็จของบริษัท ซึ่งคนญี่ปุ่นถือว่าการดื่มสาเกเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์เพื่อติดต่อกับพระผู้เป็นเจ้า
4. มีการเรียนรู้และสำรวจว่าปัจจุบันเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีเพื่อปรับตัว ยากูซ่าจะคอยศึกษา “ข้อกฎหมาย” เพื่อหาทางหนีทีไล่ให้กับตัวเอง
5. เมื่อมีเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ อย่างเช่นแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา ยากูซ่าจะออกมาขนของให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยความรวดเร็ว เพราะ “ยากูซ่า” เป็นกลุ่มคนที่ไม่จำเป็นต้องสนใจการประกาศของรัฐบาล ทำให้สามารถ “เคลื่อนไหว” ด้วยความรวดเร็ว และเป็นการ “สร้าง” ความสัมพันธ์ให้ผู้เดือดร้อน ซึ่งการกระทำในลักษณะโรบินฮู้ดนี้ ทำให้ยากูซ่า เป็นการสร้างภาพลักษณ์ “สีเทา”
บางข้ออาจจะไม่ได้มีแต่ในเฉพาะในยากูซ่าของญี่ปุ่นนะครับ แต่การเรียนรู้ถึงเศรษฐกิจในโลกรอบข้าง และการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลทั่วไป เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ยากูซ่ายังเอาตัวรอดอยู่ในสังคม เหมือนดั่งเช่นกลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งหลายตามนานาประเทศต่างๆ ทั่วโลก
คนทั่วไปอย่างเราๆ หากมีใครสามารถให้ความช่วยเหลือทางกายภาพ เช่นอาหารการกิน หรือความปลอดภัย เช่น การคุ้มครอง คนอย่างเราก็อาจจะคล้อยตามยากูซ่าได้ ตรงนี้จุดเด่นของยากูซ่าคือ “ความรวดเร็ว” ในการเทคแอคชั่น
ลักษณะของกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรง แบบนี้ก็มีที่ไหนในโลกเหมือนกัน ไม่ว่าที่ใดในโลกก็เพราะว่าโลกนี้เป็นสีเทา ไม่ได้แยกเป็นสีขาวและดำชัดเจนกันไปเลย คุณลองถามตัวเองดูว่าบางทีเราอาจจะมีเพื่อนที่ เรารู้สึกว่า “มันไม่ใช่คนดีต่อสังคมแน่นอน” แต่ว่า “มันดีกับเรา” แล้วเราจะรู้สึกอย่างไรครับ เลิกคบมันหรือโน้มน้าวมันให้มาเป็นคนดี “ตามมาตรฐานที่สังคมกำหนด” ครับ
หากคุณมีวิธีโน้มน้าวให้กลับมาอยู่ในสังคมที่ “ดี” ในมาตรฐานของ “พวกเรา” ก็แบ่งปันความคิดเห็นกันได้ครับ
ทักทายพูดคุยกับ Wasu ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan
เรื่องแนะนำ :
– ยากูซ่าสีเทา ตอนที่ 2