พุทธพาณิชย์แบบญี่ปุ่น… ประเทศญี่ปุ่นนั้นจริง ๆ ไม่ได้นับถือศาสนาใดเป็นศาสนาประจำชาติ แต่เนื่องจากการค่อย ๆ รับอิทธิพลจากจีนโบราณมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7-8 ทำให้ได้รับอิทธิพลพุทธศาสนาแบบมหายานมาจากจีน (รวมทั้งจากเกาหลีบางส่วน) และหยั่งรากลึกวิวัฒนาการจนกลายเป็นพุทธแบบญี่ปุ่นหลายนิกาย เช่น…
ประเทศญี่ปุ่นนั้นจริง ๆ ไม่ได้นับถือศาสนาใดเป็นศาสนาประจำชาติ แต่เนื่องจากการค่อย ๆ รับอิทธิพลจากจีนโบราณมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7-8 ทำให้ได้รับอิทธิพลพุทธศาสนาแบบมหายานมาจากจีน (รวมทั้งจากเกาหลีบางส่วน) และหยั่งรากลึกวิวัฒนาการจนกลายเป็นพุทธแบบญี่ปุ่นหลายนิกาย เช่น
นิกายเท็นได (天台宗): เป็นนิกายที่เก่าแก่ที่สุดของพุทธศาสนาในญี่ปุ่น เชื่อมั่นในการบำเพ็ญภาวนาตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ปรากฏในสัทธรรมปุณฑริกสูตร(法華経) ซึ่งเป็นพระสูตรสำคัญของพุทธศาสนาทางฝ่ายมหายานที่เชื่อกันว่าพระพุทธเจ้าได้เทศนาไว้ในช่วง 8 ปีสุดท้ายก่อนปรินิพพาน นิกายเท็นไดนี้เป็นต้นกำเนิดของพุทธศาสนาอีกหลายนิกายในญี่ปุ่น
นิกายชิงงน (真言宗): เป็นนิกายที่เน้นความลึกลับ และพิธีกรรมที่น่าเกรงขาม เชื่อในการบำเพ็ญภาวนาผ่านการพิจารณาภาพมันดะละ (曼荼羅) (มันดะละ คือเสียงแบบญี่ปุ่นของคำว่า “มนตรา”) ซึ่งเป็นแผนภูมิของจักรวาลที่มีพระไวยโรจนพุทธะ (大日如来) เป็นพระพุทธเจ้าที่มีอำนาจสูงสุดในจักรวาล เป็นนิกายที่เน้นความขลังและความศักดิ์สิทธิ์
นิกายเซ็น (禅宗): เป็นนิกายที่ชนชั้นนักรบซามูไรญี่ปุ่นชื่นชอบ ทำให้กลายเป็นนิกายที่มีอิทธิพลกับสังคมญี่ปุ่นมาที่สุดจนกระทั่งปัจจุบัน (พิธีชงชาและดื่มชาแบบญี่ปุ่นก็เป็นอิทธิพลของนิกายเซ็น) เนื่องจาก“เซ็น” แปลว่า “ฌาณ” จึงเน้นการนั่งบำเพ็ญสมาธิแบบเข้าฌาณเป็นหลัก โดยนิกายเซ็นสำนักโซโต (曹洞宗) จะเน้นทำสมาธิเข้าฌาณอย่างเดียว ในขณะที่นิกายเซ็นสำนักรินไซ (臨済宗) จะเน้นทำสมาธิเข้าฌาณและมีการถามตอบปุจฉา-วิสัชนาเพื่อให้เกิดปัญญาด้วย
นิกายนิชิเร็น (日蓮宗): เชื่อมั่นตามคำสอนของนิกายเท็นไดที่เป็นต้นกำเนิดของพุทธศาสนาแบบญี่ปุ่นทั้งปวง คือนิกายนิชิเร็นจะเชื่อมั่นคำสอนของพระพุทธเจ้าในสัทธรรมปุณฑริกสูตรอย่างสุดจิตสุดใจ จึงนำสัทธรรมปุณฑริกสูตรมากราบไหว้เพื่อสวดมนต์บูชาแทนการบูชาพระพุทธรูป
นิกายสุขาวดี (浄土宗): เชื่อมั่นในพระอมิตาภพุทธะ (阿弥陀如来) ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับสำหรับพุทธแบบเถรวาทเพราะไม่พบในพระไตรปิฎก โดยนิกายสุขาวดีเชื่อมั่นในการท่องบ่นวลีว่า นะมุ อะมิดะ บุทสุ (南無阿弥陀仏) ที่แปลว่า ข้าพเจ้าเชื่อมั่นศรัทธาในพระอมิตาภพุทธะ และนิกายสุขาวดียังมีแตกย่อยเป็นนิกายสุขาวดีใหม่ (浄土真宗) ซึ่งพระสงฆ์ในนิกายสุขาวดีใหม่นี้สามารถแต่งงานมีภรรยาและบุตรได้ด้วย เนื่องจากเชื่อว่าการที่พระสงฆ์เข้าใจวิถีชีวิตของฆราวาสอย่างสมบูรณ์แบบจะช่วยให้นำคำสอนของพระพุทธองค์มาประยุกต์ใช้ได้ดีกว่าพระสงฆ์ที่ไม่มีครอบครัว
ประเทศญี่ปุ่นนั้น วัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะในนิกายใดดังกล่าวมา สามารถทำพุทธพาณิชย์ได้โดยไม่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เท่ากับวัดในเมืองไทย (คือมีโดนวิจารณ์อยู่บ้าง แต่ก็คือสามารถทำได้ ไม่ดราม่าหนักเท่าเมืองไทย) โดยมีกฎหมายรองรับอย่างชัดเจนให้วัดต่าง ๆ (รวมทั้งศาลเจ้าชินโต หรือโบสถ์ของคริสตศาสนาด้วย) สามารถจดทะเบียนเป็น “นิติบุคคลเชิงศาสนา (หรือ ชูเคียวโฮจิน: 宗教法人)” เพื่อให้สามารถถือครองอสังหาริมทรัพย์, มีหน้าที่ต้องทำและแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายให้โปร่งใส, ดำเนินกิจการในเชิงพาณิชย์บางอย่าง เพื่อให้วัดหรือโบสถ์ของตัวเองสามารถเลี้ยงตัวเองและสืบทอดเจตนารมณ์ในการเผยแผ่ศาสนาต่อไปได้
โดยกิจการพุทธพาณิชย์นี้สามารถมีได้หลายรูปแบบ เช่น
1) การขายเครื่องรางต่าง ๆ
2) การจัดงานศพ (ชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยนิยมทำพิธีแบบชินโตเมื่อเด็กเกิด, แต่งงานด้วยพิธีแบบคริสตศาสนา, แต่เมื่อเสียชีวิตนิยมประกอบพิธีแบบพุทธ)
3) กิจการร้านค้าปลีกของจุกจิกต่าง ๆ
4) กิจการร้านอาหารและเครื่องดื่ม
5) การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบพิธีกรรม หรือเพื่อจัดฝึกอรมใด ๆ บางแห่งเปิดเป็นธุรกิจที่พักแรมไปเลยก็มี
ซุ้มขายเครื่องราง
ในบรรดาพุทธพาณิชย์ของญี่ปุ่นนี้ อาจมีบางกิจการถึงกับทำให้ชาวต่างชาติช็อคได้ เช่น
1) กิจการร้านอาหารชนิด Fine Dining เช่น ร้าน Shigetsu (篩月) ซึ่งเป็นร้านอาหารเจของวัดเท็นริวจิ (天龍寺) ที่โด่งดังระดับได้ดาวมิชลินมา โดยวัดเท็นริวจินี้เป็นวัดในสังกัดนิกายเซ็นสำนักรินไซ
2) กิจการเคเบิ้ลคาร์ เช่น บริษัทคุระมะยะมะ-โคซะกุ-เท็ตสึโด (鞍馬山鋼索鉄道) ซึ่งเป็นบริษัทรถไฟฟ้าประเภทเคเบิ้ลคาร์ที่ดำเนินกิจการโดยวัดคุระมะเดะระ (鞍馬寺) ซึ่งเป็นวัดในสังกัดนิกายชิงงน
3) กิจการบาร์เหล้า เช่น บาร์ที่ชื่อ VOWS Bar (坊主バー) เป็นการเล่นคำว่า VOWS คือในภาษาญี่ปุ่นนั้นจะเสียงตัว V เป็นเสียงเดียวกับตัว B ทำให้ออกเสียง VOWS แบบญี่ปุ่นว่า โบ-สึ ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า โบ-สึ (坊主) ที่แปลว่าพระสงฆ์ โดยกิจการนี้ทำเอาเกิด talk of the town เพราะแม้แต่ในญี่ปุ่นก็ไม่คาดคิดว่าพุทธพาณิชย์จะบ้าได้ถึงขั้นเปิดบาร์เหล้า แล้วให้พระสงฆ์พวกหลวงพี่หลวงอามาเป็นบาร์เทนเดอร์ชงเหล้าให้เลย โดย VOWS Bar นี้เป็นกิจการของวัดไดโตะกุจิ (大徳寺) ในเกียวโต คือวัดอยู่ในเกียวโต แต่มาเปิดกิจการบาร์เหล้ากลางกรุงโตเกียวชนิดอยู่กลางชินจุกุกันเลย วัดไดโตะกุจิเป็นวัดในสังกัดนิกายเซ็นสำนักรินไซ
Tenryuji Temple Shigetsu
ดังที่ผู้เขียนเคยกล่าวถึงแนวคิด “อี้โทะโกะโดะริ (การเอาสิ่งที่ดีของชาติอื่นมาพัฒนาต่อจนกลายเป็นของญี่ปุ่น)” ไปแล้วใน https://www.marumura.com/iitoko-dori/ จะเห็นได้ว่า แม้ญี่ปุ่นจะรับพุทธศาสนาแบบมหายานมาจากจีน แต่ญี่ปุ่นเองมีการนำเอามาวิพากษ์วิจารณ์และพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็นพุทธแบบญี่ปุ่น และวิวัฒนาการเป็นนิกายย่อย และสำนักย่อยอีกมากมาย จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่หยุดวิวัฒนาการ ทำให้แนวคิดต่าง ๆ ในญี่ปุ่นไม่เคยหยุดนิ่งและปรับตัวอยู่ตลอดตามกระแสแห่งกาลเวลา พุทธพาณิชย์แบบญี่ปุ่นนี้จึงจัดเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ว่าพ้นไปจากเรื่องแค่ทำบุญหรือขายของขลัง ไปสู่การทำกิจการร้านค้า ที่พัก อสังหาริมทรัพย์ ไปจนทำรถไฟฟ้า และร้านเหล้าได้แล้ว
ติดตามผลงานเขียนทั้งหมดของวีรยุทธได้ที่ >> https://www.facebook.com/Weerayuths-Ideas
เรื่องแนะนำ :
– ทำไมหลักสูตร MBA ถึงไม่ฮิตในญี่ปุ่น?
– ไทโด (躰道): ศิลปะการต่อสู้ชนิดใหม่ในญี่ปุ่นที่มาแรง
– หลักการบริหารงานแบบตระหนักถึง “มนได (問題)” และ “คะได (課題)” สไตล์ญี่ปุ่น
– ปรากฏการณ์ “เทอิน-วะเระ (定員割れ)” ของระบบการศึกษาญี่ปุ่น
– การเรียนการสอนวิชา “มังงะ เกมส์ อนิเมะญี่ปุ่น” ที่คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://www.tenryuji.com/cn/shigetsu/
https://www.im.i.hosei.ac.jp/
#พุทธพาณิชย์แบบญี่ปุ่น