จางจอมโหดกระทะเหล็ก : ต้องเฆี่ยนตีเด็กถึงจะดีหรือไม่?
จอมโหดกระทะเหล็ก (鉄鍋のジャン!) เป็นมังงะเกี่ยวกับการทำอาหารที่หมอชอบมากเรื่องหนึ่งเลยค่ะ ติดอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยมัธยม เก็บครบทุกเล่ม เหตุผลที่ชอบเพราะเนื้อเรื่องสนุก ตื่นเต้นเร้าใจ คาแรคเตอร์ตัวละครแปลก มีความแอบเถื่อน ผู้เขียนคือ อาจารย์ชินจิ ไซโจ มีคุณเคย์โกะ โอยามา เป็นที่ปรึกษาข้อมูลด้านโภชนาการและอาหาร เรื่องนี้ตีพิมพ์ในประเทศญี่ปุ่นช่วง พ.ศ. 2538 – พ.ศ. 2543 (ในไทยจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ) ปัจจุบันมีภาคต่อ “จอมโหดกระทะเหล็ก! สุดยอดกลยุทธ” (สำนักพิมพ์ฟินิกส์) ตอนนี้ถึงเล่ม 6
เรื่องย่อ: อากิยามะ จาง (พระเอก) เป็นหลานของอากิยามะ ไคอิจิโร่ (ปู่) ผู้ซึ่งเป็นตำนาน “จ้าวแห่งอาหารจีน” ปู่อาศัยอยู่กับจางกันสองคนและฝึกฝนจางอย่างหนัก เช่น ใช้การเฆี่ยนตี, ด่ารุนแรง เพื่อให้จางพัฒนาตนเองจนสามารถเป็นผู้สืบทอดเคล็ดลับการทำอาหารจากปู่ได้ มีบางตอนที่จางหลุดพูดออกมาว่าเขาเองไม่ได้ต้องการเป็นพ่อครัว แต่พอจำความได้ก็ต้องเป็นพ่อครัวแล้ว
หลังจากที่ปู่ของจางตาย จางต้องไปทำงานที่ร้านโกบังโจ ซึ่งเป็นร้านของโกบังโจ มิซึจู ผู้เป็นคู่หูและคู่แข่งของปู่ของจาง เขาก็ได้พบกับ โกบังโจ คิริโกะ ผู้เป็นหลานสาวของมิซึจู จางไม่ถูกชะตากับคิริโกะเพราะมีวิธีคิดเรื่องการทำอาหารและการใช้ชีวิตต่างกันมาก จางคิดว่า “อาหารคือการดวล” ดังนั้นเขาจะทำทุกวิธีที่จะทำให้อาหารที่เขาทำได้รับชัยชนะโดยไม่สนวิธีการ (มีความเกรียนเหมือนตัวร้ายมากกว่าพระเอก) แม้กระทั่งวิธีสกปรกเพื่อกำจัดคู่แข่งจางก็ทำโดยไม่สนโลก
ในขณะที่คิริโกะมองว่า “อาหารคือจิตใจ” โลกนี้สวยงาม คิริโกะรังเกียจพฤติกรรมของจาง ทำให้ตลอดทั้งเรื่องมีแต่การทะเลาะกัน จางและคิริโกะมีเพื่อนที่เป็นเด็กฝึกงาน ชื่อ โอโกโนงิ มีฝีมือปรุงอาหารเข้าขั้นแย่มาก โอโกโนงิเป็นคนคิดบวก ดีกับจางมากแม้จางจะมีนิสัยไม่ดีหลายอย่าง นอกจากนี้โอโกโนงิยังเป็นคนประนีประนอมเวลาที่จางกับคิริโกะทะเลาะกัน แก่นเรื่องหลักๆ คือ ศึกการแข่งขันเพื่อหาสุดยอดพ่อครัวอาหารจีน ทั้งจางและคิริโกะต่างลงแข่ง และได้พบกับพ่อครัวแม่ครัวของร้านอื่น
คู่ปรับคนสำคัญที่เกลียดชังและต้องการล้างแค้นกำจัดจางชื่อโอทานิ นิจิโด นักชิมอาหารฉายาลิ้นเทวดา เนื่องจากจางเคยทำให้โอทานิเสียหน้าตอนที่มาชิมอาหารที่ร้านโกบังโจ ในศึกการแข่งขันทำอาหารจางได้สร้างความตกตะลึงให้กับกรรมการและคนดู เพราะจางมีกลเม็ดเทคนิคการปรุงอาหารที่แสนจะร้ายกาจ “เวทย์มนตร์ของอากิยามะ” เนื้อเรื่องแสดงให้เห็นพัฒนาการของตัวละครเรื่องฝีมือการทำอาหาร และกลเม็ดเคล็ดลับที่เว่อร์วังมาก มีความรู้สนุกๆ สอดแทรก ภาพอาหารที่วาดออกมาและคำบรรยายถึงรสชาติ กลิ่น ชวนให้น้ำลายสอ (แต่อาหารบางอย่างดูประหลาดเกินไปไม่น่าจะกินได้)
สิ่งที่น่าสนใจ คือ แม้จางจะทำอาหารเก่งมาก แต่ทักษะเรื่องการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นในสังคมดูแย่มาก เช่น วิธีการพูดจาดูถูกคนอื่น, มั่นใจในตัวเองจนเกินไป, เห็นแก่ตัวไม่สนใจใคร แต่บางครั้งก็ดูน่าสงสารมาก เช่น ตอนที่แข่งแล้วแพ้ จางรับไม่ได้ ร้องไห้และทำร้ายตัวเอง โทษว่าตัวเองไม่เก่งไม่ดีทำให้ชื่อเสียงของปู่ต้องแปดเปื้อน ซึ่งที่มาที่ไปน่าจะมาจากการเลี้ยงดูของปู่ที่เข้มงวดจนเกินไป ทำโทษรุนแรงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ จนจางไม่ได้มีพัฒนาการวัยเด็กที่เหมือนคนอื่น ปู่ลาจากจางไปด้วยการฆ่าตัวตาย (ปู่เป็นมะเร็ง) ต่อหน้าจาง ยังดีที่ได้ฝากฝังให้จางไปทำงานที่ร้านโกบังโจ จางเลยยังพอมีที่พึ่งอยู่
คำถามที่ผู้ใหญ่ต้องกลับมาถามตัวเอง คือ การเลี้ยงเด็กด้วยวิธีการทำโทษทางกาย/ดุด่าทำร้ายจิตใจจะทำให้เด็กเป็นคนเก่งคนดีจริงหรือไม่?
>> ว่าด้วยเรื่องการทำโทษ
เป็นที่ถกเถียงกันมานานว่าการสั่งสอนเด็กด้วยการใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นการทำโทษทางร่างกายหรือการใช้คำพูดที่ทำร้ายจิตใจเป็นวิธีที่ถูกต้องหรือไม่ เพื่อให้เด็กทำตามในสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการ
@ การทำโทษทางกาย
แต่ละสังคมวัฒนธรรม มีแนวทางในการเลี้ยงดูเด็กที่แตกต่างกันไป เช่น ในสังคมไทยยังคงมีผู้ใหญ่บางส่วนเชื่อว่าการอบรมสั่งสอนเด็กต้องใช้การตี เด็กถึงจะได้ดี ดังนั้นต้องแยกว่าการทำโทษทางกายนั้น เป็นไปเพื่อการสั่งสอนด้วยเจตนาดี หรือเป็นการทารุณกรรมเด็ก (Child Abuse)
“การทำร้ายร่างกาย (Physical Abuse)” คือ การที่ผู้ดูแลเด็กทำอันตรายต่อร่างกายเด็กโดยเจตนา จนเด็กเกิดการบาดเจ็บ เช่น เตะ ต่อย ตี ตบ
@ การทำร้ายจิตใจ (Emotional Abuse)
ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่มักจะสร้างบาดแผลทางใจให้เด็กโดยไม่รู้ตัว เช่น การด่าว่ารุนแรง, พูดเปรียบเทียบ, ข่มขู่ว่าจะทิ้ง, ไม่สนใจดูแล จนเด็กรู้สึกตัวเองไม่มีค่า ไร้ความสามารถ ทำให้เด็กไม่มีความภาคภูมิใจในตัวเอง (Low self-esteem)
@ ผลเสียที่ตามมาจากการลงโทษรุนแรง
เด็กที่ถูกทำโทษรุนแรงจะมีผลเสียตามมาหลายอย่าง
- ทางด้านร่างกายและสมอง
- ทางด้านจิตใจ พฤติกรรม ความคิด
• ทางด้านร่างกายและสมอง
- การบาดเจ็บทางร่างกาย เช่น บาดแผล กระดูกหัก น้ำร้อนลวก
- สมองอาจมีความผิดปกติทั้งทางด้านโครงสร้างและการทำงาน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า, โรควิตกกังวล
• ทางด้านจิตใจ พฤติกรรม ความคิด
- เด็กที่ถูกทำโทษรุนแรงอาจมีความหวาดกลัว ไม่ไว้วางใจใครได้ ทำให้มีปัญหาความสัมพันธ์กับคนอื่นได้
- เด็กคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่สามารถรักตนเองได้ ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
- เด็กเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สับสน และอารมณ์ด้านลบต่างๆ เมื่อเด็กไม่สามารถทนต่ออารมณ์ความรู้สึกที่แย่ได้ เด็กจะแสดงออกเป็นปัญหาพฤติกรรม เช่น ก้าวร้าวเกเร, ใช้สารเสพติด, หงุดหงิดง่าย, เหม่อลอย แยกตัวออกจากโลกความจริง
- เด็กที่ถูกทำโทษรุนแรงบางส่วนเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่มีครอบครัว เด็กจะทำร้ายลูกของตัวเอง เหมือนกับที่ตนเองเคยโดนกระทำ
การที่ผู้ใหญ่จะเลี้ยงให้เด็กคนหนึ่งเติบโตมาเป็นคนดี มีพฤติกรรมที่ต้องการ เช่น มีน้ำใจ, มีความรับผิดชอบ มีวิธีการปรับพฤติกรรมหลายอย่างที่ไม่จำเป็นต้องเป็นการลงโทษรุนแรงเสมอไป (Harsh Punishment) เช่น ให้แรงเสริมทางบวก (Positive Reinforcement) ด้วยการชม สะสมดาว เพราะการลงโทษที่รุนแรงนั้นมีผลเสียทั้งในระยะสั้นและระยะยาว “จาง” เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจในเรื่องผลจากการเลี้ยงดูด้วยการลงโทษรุนแรง ถ้าว่างๆลองไปติดตามอ่านเรื่องนี้กันดูนะคะ:))
ทักทายพูดคุยกับหมอแมวน้ำเล่าเรื่องได้ที่ www.facebook.com/sealpsychiatrist
เรื่องแนะนำ :
– วิกฤติการณ์ COVID-19 ที่ญี่ปุ่น: เมื่อเราต้องเจอกับความเครียด
– ตุ๊กตาดารุมะ: ล้มแล้วลุกได้ตราบใดที่เรายังมีหวัง
– ความรักมันยากจังอยู่แบบโสดๆ จะดีกว่ามั้ย: เวอร์ชั่นคนญี่ปุ่น
– Sumikko Gurashi: ฉันรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในซอกมุม
– ฉันเป็นติ่งการ์ตูนญี่ปุ่น
คลินิก JOY OF MINDS
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ
https://www.facebook.com/Joyofminds/
Tel: 090-959-9304
#จางจอมโหดกระทะเหล็ก : ต้องเฆี่ยนตีเด็กถึงจะดีหรือไม่?