ทำไมซีรีส์ญี่ปุ่นไม่ค่อยรีเมค? ลองมาดูเสน่ห์ของซีรีส์ภาคต่อ
ถ้าเก็บลิสต์ซีรีส์ญี่ปุ่นมาไล่เรียงดูละก็ จะเห็นได้ว่า ซีรีส์ญี่ปุ่นมีการทำภาคต่อเยอะมากเลยค่ะ บ้างเรื่องก็มีถึงเกือบ 10 ภาคเลยทีเดียว ในขณะที่ละครรีเมคมีน้อยมาก ส่วนตัวก็เจอคำถามมาบ่อยๆ ว่า เอ๊ะ…ทำไมญี่ปุ่นถึงไม่ค่อยมีละครรีเมค แต่มีละครภาคต่อเยอะมากเลย นั่นก็เพราะว่าซีรีส์ภาคต่อมีเสน่ห์กว่าที่คิดค่ะ วันนี้เลยขอแชร์ในมุมมองของซีรีส์ภาคต่อของญี่ปุ่น ทำไมถึงน่าสนใจ และยังมีคนติดต่อดูอยู่ แม้จะเป็นซีรีส์เรื่องเดิม
1. เนื้อเรื่องยังไม่จบ
ส่วนใหญ่แล้วซีรีส์ญี่ปุ่นมักจะจบแบบงงๆ ค่ะ หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “จบเหมือนไม่จบ” ถ้าจะจบเลย #ให้จบแค่รุ่นเรา ก็ทำได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ด้วยความค้างคา จนแฟนๆ ต้องเอาไปคิดต่องจนนอนไม่หลับ ทำให้ซีรีส์หลายเรื่องได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาคต่อเล่าเรื่องราวต่อจากตอนจบในภาคแรกนั่นเองค่ะ ตัวอย่างซีรีส์ที่มีเรื่องราวงงงวย จนอยากดูภาคต่อไปให้ได้ ก็อย่างเช่นเรื่อง Keizoku SPEC, Unfair, Liar Game และเรื่อง Hanzawa Naoki เป็นต้นค่ะ
2. ฮันซาว่าก็คือฮันซาว่า
ในบางกรณีการสร้างภาคต่อก็ไม่ใช่เรื่องง่ายค่ะ เพราะบางทีนักแสดงเดิมจากภาคที่แล้วก็คิวไม่ว่าง หลายคนก็มีคำถามค่ะว่า แล้วทำไมไม่สร้างเป็นรีเมค และหานักแสดงท่านอื่นมารับบทบาทแทน แต่ทางนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกันค่ะ
ไม้เบื่อไม้เมาที่ตามกันจนมาถึงภาค 2
เพราะคนดูส่วนใหญ่มักจะติดภาพนักแสดงจากภาคก่อนๆ อย่างเช่นเรื่อง Hanzawa Naoki ก็เป็นอีกเรื่องที่ทันทีที่ฉายจบ แฟนซีรีส์ก็ลุ้นอยากให้มีภาคต่อเร็วๆ และในระหว่างที่รอคอยก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆ ว่าภาค 2 อาจจะเป็นนักแสดงท่านใหม่มารับบท Hanzawa นะ ซึ่งมีเสียงคัดค้านจากแฟนละครหลายคน จนในที่สุด Hanzawa Naoki ก็กลับมาในภาค 2 ด้วยนักแสดงคนเดิมอย่าง “ซากาอิ มาซาโตะ” เพราะฮันซาว่าก็คือฮันซาว่า จะเป็นใครอื่นไม่ได้นั่นเอง
3. พล็อตหลักเดิม ที่ไม่เก่าซะทีเดียว
ซีรีส์เรื่องเดิมก็น่าจะมีเนื้อหาเดิมๆ ใช่ไหมคะ อย่างเช่น ซีรีส์เรื่อง Dragon Zakura ที่ห่างหายไปนานนับ 10 ปี ก็ยังสร้างภาคต่อ แต่ไม่รีเมค ถ้าให้มองที่เนื้อเรื่องก็ยังคงคอนเซ็ปต์หลักเดิม ที่ตัวละครเอกต้องไปก้อบกู้วิกฤตโรงเรียนที่กำลังจะล้มละลาย และกลยุทธ์เด็ดที่จะใช้ก็คือ ปั้นเด็กสอบให้ติดม.โตเกียวให้ได้ ซึ่งพล็อตไม่ค่อยต่างจากภาคแรกเลยค่ะ แต่ถ้าดูให้จบเรื่อง เราก็จะเห็นว่า มันมีเนื้อเรื่องบางอย่างที่ปรับเปลี่บนจากเดิม เป็นตัวละครเก่าจากภาคแรกที่เติบโตขึ้น สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยน ปัญหาของวัยรุ่น หรือสภาพสังคม คงจะเล่าเรื่องเดิมๆ มาสะท้อนไม่ได้แล้ว รวมถึงยังมีพล็อตย่อยที่มาสร้างความตื่นเต้น และน่าติดตามเพิ่มเติมค่ะ ด้วยเหตุนี้เลยทำให้หลายคนมักชื่นชอบซีรีส์ภาคต่อ ที่เหมือนจะเป็นซีรีส์เรื่องเดิม แต่เนื้อหาไม่ได้เก่าซะทีเดียว แต่กลับมีเรื่องราวใหม่ๆ ในซีรีส์ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี
4. เซอร์ไพรส์นักแสดงเก่าๆ ที่กลับมารียูเนียนเล่นละครด้วยกันอีกครั้ง
มีซีรีส์ญี่ปุ่นเก่าๆ หลายเรื่องที่สร้างความประทับใจคนดูมาก ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ยังคิดคิดถึง และอยากจะกลับไปดูอีกครั้ง และซีรีส์ญี่ปุ่นเองก็เหมือนจะเข้าใจคนดูยังไงยังงั้น มักจะนำซีรีส์ในดวงใจของคนดูกลับมาทำภาคต่อให้คนดูหายคิดถึง ซึ่งเสน่ห์ของละครภาคต่อก็คือ เป็นรวมนักแสดงเก่าในภาคแรก กลับมาเล่นละครอีกครั้ง ซึ่งบางเรื่องก็ห่างหายไปนานเกือบ 10 ปี แต่ก็สามารถรวมนักแสดงเกือบทุกคนให้กลับมาอีกครั้ง เหมือนเป็นการรียูเนี่ยนกลุ่มนักแสดง รวมถึงตัวเราเองด้วย เหมือนได้มาพบเจอเพื่อนเก่าไม่ได้เห็นหน้าเห็นตามานาน และได้เห็นเขาในวัยที่เติบโตขึ้น ตัวอย่างซีรีส์ที่เซอร์ไพรส์คนดูสุดๆ ก็อย่างเช่นเรื่อง HERO นำแสดงโดย “ทาคุยะ คิมูระ” แม้จะสร้างมาหลายภาค แต่ทาคุยะก็ยังคงรับบทนำในทุกๆ ภาค แต่น่าเสียดายที่ตัวละครหญิงในภาคแรกได้เปลี่ยนคนไปค่ะ ซึ่งภาคล่าสุดในทีวีก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการนำนักแสดงหญิงในภาคแรกกลับมาเจอกันอีกครั้ง
หรือจะเป็นเรื่อง Dragon Zakura ที่พาตัวละครจากภาคเดิม กลับมายังซีรีส์ในตำนานเรื่องนี้อีกครั้ง ในวันที่ทั้งตัวนักแสดงเองและตัวละครเองเติบโตขึ้นกว่าเดิม
และล่าสุดเรื่อง Galileo ก็กำลังจะสร้างภาคต่อค่ะ โดยได้นักแสดงนำ “มาซาฮารุ ฟุคุยาม่า” และ “โค ชิบาซากิ” มารับบทนำประชันบทบาทกันเช่นเดิม
5. หนังสือเล่มเดิม อาจจบไม่เหมือนเดิม
จริงๆ คนดูละครรีเมคกับละครภาคต่อจะดูจากความรู้สึกที่คล้ายๆ กันค่ะ คือ หลงรักซีรีส์เรื่องนี้มาก จนอยากดูซ้ำ เคยไหมคะ ดูเรื่องนี้แล้วชอบ สารโดพามีนหลั่งทุกที ดูแล้วมีความสุข เลยอยากดูซ้ำๆ หลายรอบ แต่ความต่างก็คือ ถ้าเป็นซีรีส์รีเมค เราก็คงจะคาดเดาเนื้อเรื่องต่างๆ รวมถึงตอนจบได้หมดแล้ว แต่ซีรีส์ภาคต่อก็ยังคงเป็นซีรีส์เรื่องเดิม แต่มีพล็อตที่ต่างของไป รวมถึงมีเนื้อเรื่องที่ต่อจากตอนจบ คล้ายๆ การกลับไปอ่านหนังสือเล่มนี้ แต่อาจไม่ได้จบแบบเดิมนั่นเองค่ะ
นี่ก็คือเสน่ห์ของซีรีส์ญี่ปุ่นภาคต่อ ไม่ว่าจะทำมากี่ภาคก็ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนละคร และที่เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่านั้น ซีรีส์บางเรื่องที่เหมือนจะจบไปนานแล้วกว่า 10 ปี ในหลายๆ เรื่องก็มักถูกนำมาสร้างต่ออีกครั้ง เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งคือ ทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกว่า ซีรีส์ที่เติบโตมากับเรายังไม่ได้หายไปไหน แม้วันเวลาผ่านไป เรายังพบกันใหม่ได้อยู่เสมอ ในแบบที่ต่างฝ่ายต่างเติบโตขึ้นกว่าเดิม…
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับละครญี่ปุ่น และพูดคุยกับ ChaMaNow ได้ทาง FB: Sakura Dramas
เรื่องแนะนำ :
– 5 ซีรีส์ญี่ปุ่นนักสู้ชีวิต เพื่อช่วยเหลือคนอื่น
– ย้อนดู 5 ซีรีส์ญี่ปุ่น แนวเด็กวัยรุ่น วัยเรียน ในระดับตำนาน ที่เนื้อหาไม่เด็ก
– 3 ซีรีส์ญี่ปุ่นแนว Work Life Balance ที่ชวนให้อนุญาตตัวเองพักผ่อนบ้าง
– รีวิว Kikazarukoi niwa Riyuu ga atte ชีวิตที่แต่งแต้มด้วยความรักและความเรียบง่าย
– 5 ซีรีส์ดังของ “ซากาอิ มาซาโตะ” ไว้ดูรอ Hanzawa Naoki ภาค 2
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
– https://asianwiki.com/
– https://aramajapan.com/
– https://mantan-web.jp/
– https://alchetron.com/
#ทำไมซีรีส์ญี่ปุ่นไม่ค่อยรีเมค? ลองมาดูเสน่ห์ของซีรีส์ภาคต่อ