ทริปเที่ยวเองที่ Kansai..เริ่มต้นวันที่ 3 ด้วยการตื่นค่อนข้างสาย (9 โมงกว่า) อาบน้ำแต่งตัวเก็บของ Check-Out ออกจากโรงแรมก็ปาเข้าไป 10 โมงนิดๆ แถมยังต้องสะพายเป้ลากกระเป๋า…
เรื่องและภาพโดย : The 23rd Ronin www.marumura.com
เริ่มต้นวันที่ 3 ด้วยการตื่นค่อนข้างสาย (9 โมงกว่า) อาบน้ำแต่งตัวเก็บของ Check-Out ออกจากโรงแรมก็ปาเข้าไป 10 โมงนิดๆ แถมยังต้องสะพายเป้ลากกระเป๋าดิ่งไปที่ Toyoko inn Senba Higashi เพื่อฝากกระเป๋าใบใหญ่ก่อนจะเดินทางไปเกียวโต เราเลยรีบตรงดิ่งไปที่ สถานี Shinsaibashi เพื่อนั่งรถไปลงที่ สถานี Tanimachi ตามที่ดูจากแผนที่โรงแรม ตอนนั้นในใจคิดอย่างเดียวว่าต้องรีบๆๆๆ อย่างน้อยต้องถึง Kyoto ก่อนเที่ยง จากแผนเดิมที่วางไว้ 10 โมง เพราะเราวางโปรแกรมไว้ค่อนข้างแน่น

พอถึงสถานี Tanimachi เราก็กางแผนที่โรงแรมออกมา เค้าบอกว่าให้ออกประตู 8 และเดินเลี้ยวซ้ายประมาณ 5 นาที เราก็รีบจ้ำๆๆ เดินมาซัก 10 นาที แล้ว??? ไหนอะโรงแรม ยืนงงสักพัก กางแผนที่อีกรอบ นับบล็อค ดูชื่อถนน แล้วก็ยืนงงอีกพัก
ดูนาฬิกา 11.30 น. ถอนหายใจ ตั้งสติ แล้วก็นึกได้ว่าเรามีของวิเศษอยู่ Google Map!!! เปิด Search มันก็ค่อยๆ โหลด หมุนๆ สักพักเด้งออก!!! เหมือน Application มันซ้ำเติม เปิด Search อีกรอบ คราวนี้เจอที่หมาย แต่มันขึ้นว่าต้องเดินไปอีก 12 นาที เราก็งงๆ ไม่รู้จะเชื่อแผนที่ของโรงแรม หรือ Google Map ดี แต่มาตามแผนที่โรงแรมแล้วมันไม่เจอนิ่ เชื่ออากู๋ละกัน
เราก็ออกเดินๆๆ ตามเส้นทางของ Google Map จนมาถึงที่หมายตามนั้น เราก็หยุดมอง ไหนอะ!!!??? มองซ้าย ขวา หน้า หลัง บน ล่าง ไม่มีวี่แววของโรงแรม แล้วเราก็เจอคนญี่ปุ่นจอดรถขนของอยู่ เอาวะคงจะรู้น่ะ เข้าไปหาและยื่นแผนที่โรงแรมให้ดู เค้าก็กลับหัวกลับหางตะแคงดูแผนที่ แล้วยื่นกลับมาให้เรา พร้อมกับพูดอะไรบางอย่าง แต่คงจะไม่รู้จัก ตายล่ะหว่า สุดท้ายต้องยอมที่พึ่งสุดท้าย Taxi ชั่วโมงนั้นต้องยอมละ ถึงแม้รู้ว่าค่าโดยสารจะโหดแค่ไหนก็ตาม ดิ่งตรงไปที่ Taxi ยื่นแผนที่ ปรากฏว่า Taxi งง???!!!! เค้าก็ดูสักพัก แล้วเปิดประตูลงจากรถ เปิดกระโปรงท้าย หยิบเอาหนังสือหนาๆ ประมาณสมุดหน้าเหลืองขึ้นมา เราก็ชะโงกหน้าไปดู มันคือแผนที่แต่ละหน้าละเอียดยิบ เปิดไปเปิดมาสักพัก ก็ Bingo!!! ท่าทางว่าจะเจอนะ ออกรถสตาร์ทที่ 660 Yen ขับเลี้ยวไปเลี้ยวมา จนเราสงสัยว่าพาอ้อมใช่มั้ย ขับมา 5 นาทีก็จอด แล้วหันมาบอกว่าถึงแล้ว
จากนั้นเราก็ขนกระเป๋าลงไปฝากที่โรงแรม พร้อมกับบ่นและด่าในใจว่า (((แผนที่โรงแรมคุณทำไมมั่วโคตรอย่างนี้อะ))) จัดการกับกระเป๋าเสร็จก็รีบวิ่งไปที่สถานี Tanimachi มาถึงทางลงสถานีก็สังเกตเห็นว่าเป็นทางออกประตู 8 อ้าวตอนแรกเราก็ออกประตู 8 ทำไมไม่ใช่อันนี้อะเลยกางแผนที่ดูจึงถึงบางอ้อว่า Tanimachi มันมีทั้งหมด 3 สถานี Tanimachi4-Chome, Tanimachi6-Chome, Tanimachi9-Chome แต่สถานีตามแผนที่ของโรงแรมคือ Tanimachi4-Chome แต่เราดันไปลงที่ Tanimachi6-Chome ก็หลงดิฮะ สรุปมันคือผลพวงของการตื่นสาย และสะเพร่าในการดูแผนที่


มาเดินทางกันต่อ นั่งรถจาก Tanimachi4-Chome มาลงที่ Umeda และเดินต่อนิดหน่อยขึ้นรถที่สถานี Osaka ตอนนี้บอกตรงๆ เลยท้องร้องเพราะไม่มีเวลากินข้าวเช้า มองดูนาฬิกาก็เที่ยงแล้ว เลยต้องแบกท้องไปกินที่เกียวโต จัดแจงซื้อตั๋วรถสาย Hankyu ไปลงที่สถานี Omiya ใน Kyoto เพื่อจะ Check in ที่โรงแรม Toyoko inn Shijo-Omiya และเอาสัมภาระไปเก็บก่อน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที





มาถึงสถานี Omiya ก็รีบเดินหาโรงแรม แต่รอบนี้ง่ายเพราะอยู่ไม่ไกลจากสถานีนัก Check-in เก็บของเสร็จแล้วก็เดินกลับมาที่สถานี Omiya เพื่อจะมาซื้อตั๋ว Kyoto City Bus 1 Day Pass และเริ่มท่องเกียวโตกันเลย (ตอนนี้จะบ่ายสองแล้วT_T) Next Station Ginkaku-ji






ใช้เวลาเกือบ 20 นาที (รถค่อนข้างติด) ก็มาถึงป้าย Ginkaku-ji ลงมาหันซ้ายหันขวา ไหนอะวัด ไม่รู้ต้องเดินไปทางไหน แต่ก็ใช้วิธีสากลคือเดินตามคนเยอะๆ ไปเดี๋ยวดีเอง ระหว่างทางเข้าวัดก็บรรยากาศทั่วไปคือร้านค้าที่เรียงรายตามสองข้างทางที่คอยดักทรัพย์ของเรา ก่อนที่จะเข้าถึงตัววัด










ใช้เวลาที่ Ginkaku-ji อยู่เกือบๆ ชั่วโมงก็ได้เวลาอาหารมื้อแรก แถวๆ หน้าวัด และเป็นร้านแรกที่เรามีโอกาสหากินได้เองตามใจ เดินมาเจออยู่ร้านนึงหน้าตาน่ากิน แต่ก็ผิดหวังคือไม่อร่อยเลย งั้นเราไม่ต้องพูดถึงนักข้ามๆ ไปเลยละกานนนน



หลังจากผิดหวังกับอาหาร ตามแผนเราต้องไปเดินสงบจิตที่ Philosopher’s Path แต่ด้วยสถานการณ์ทำให้เราต้องเปลี่ยนแผนข้ามไปที่ Eikan-do เลย เพราะเวลาปาเข้าไปจะ 4 โมงแล้ว เดินทางโดยรถ Bus สาย 5 ไปอีก 4 ป้าย ลงเดินอีกนิดหน่อยก็ถึงวัด Eikan-do อย่างที่บอกว่าที่นี่คือ Hilight ของเรา เพราะฉายา “Temple of Maple Leaves” และค่าเข้าชมวัดที่แพงถึง 1,000 Yen ทำให้อยากรู้ว่าจะสวยแค่ไหนกันเชียว และสิ่งที่เห็นเมื่อเข้ามาในวัดนี้คือ “ดินแดนแห่งความฝัน”


ต่อไปเราจะปล่อยให้ชมภาพภายใน Eikan-do ให้เพื่อนๆ ได้ดูโดยที่ไม่มีคำบรรยายมารบกวนนะจ้ะ
ใช้เวลาที่ Eikan-do จนตะวันตกดินและเจ้าหน้าที่เค้ามาเชิญออก นี่ 2 ชั่วโมงกว่ายังรู้สึกไม่พอเลยนะ สวยมากๆ ออกจากวัดเราก็เดินหาป้ายรถเมล์ ด้วยวิธีเดิม คือเดินตามกลุ่มคนไป เดินมาสักพักก็เจอพวกบรรดาบ้านเรือน บรรยากาศเงียบๆ สงบๆ และกลุ่มคนที่เราเดินตามก็ค่อยๆ แยกย้ายกันเดินเข้าบ้าน จนเหลือแต่เรา อ้าว!!!??? นี่ไม่ได้เดินมาขึ้นรถกันหรอ เอาไงล่ะทีนี้ จะเดินย้อนก็ไกลอยู่ เอาน่ะเดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอป้ายรถเมล์ เดินมา 10 นาที ผ่านสวนสัตว์เกียวโตก็แล้ว ข้ามแยกก็แล้ว ยังไม่เห็นวี่แววป้ายรถเมล์ เดินมาเจอคนต่างชาติจีน เกาหลี ฝรั่ง อยู่ 2-3 กลุ่ม กำลังกางแผนที่ดู รู้เลยชะตากรรมเดียวกัน พอเดินมาที่หน้าโรงแรม Prince Miyako อะไรเนี่ย ก็เจอป้ายรถเมล์ แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช่ City Bus เพราะมันมีตารางเวลาเดินรถ ประมาณครึ่งชั่วโมงจะผ่านมาคันนึง และตั๋ว 1 Day Pass ไม่น่าจะใช้กับสายนี้ได้

นั่งรถมา 5 นาที มาลงป้ายที่ใกล้ Gion ที่สุด(ตาม GPS ของ Google Map) แล้วเดินทะลุซอยมาจนถึงร้านนึงที่น่าสนใจคือ Issen Yoshoku เป็นร้าน Okonomiyaki สไตล์ Kyoto หน้าร้านจะมีรูปน้องหมางับตูดเด็กอยู่ เห็นหน้ากินดีเลยจัดเป็นมื้อเย็นสำหรับวันนี้ Okonomiyaki ของที่นี่จะเป็นแผ่นแป้งพับมีไส้พวกเนื้อสัตว์ต่างรวมไปถึงผักและไข่ดิบ รสก็แปลกๆ ดี อร่อยไปอีกแบบ



กินอิ่มนั่งพักขาอยู่พัก ก็เดินเที่ยวต่อ ออกจากร้านเลี้ยวซ้ายก็เจอถนนช้อบปิ้งบนถนน Shijo เดินมาประมาณ 100-200 เมตรมองไปทางขวาก็เห็นถนนคลาสสิคอย่าง Gion เรารีบเดินข้ามไปด้วยความตื่นเต้นเพราะว่าเคยนั่งดูถนนนี้ผ่านแต่ใน Internet และเห็นบรรยากาศและภาพสวยๆ ภาพของ Maiko และ Geisha เลยฝันอยากจะมาที่นี่สักครั้ง และวันนี้ก็ทำสำเร็จ




เดินทอดน่องที่ Gion เสร็จก็เดินกลับมาขึ้นรถที่ป้ายรถหน้าโรงละคร Kyoto Shijo Minamiza เพื่อกลับโรงแรมที่พัก แต่ระหว่างนั่งรถกลับนั้นตลอดสองข้างทางบนถนน Shijo มีแต่สิ่งหน้าสนใจ เราเลยตัดสินใจลงอีกครั้งเพื่อเดินเล่นต่อ แหมก็มันชิลนี่เนอะอดใจไม่ไหว เดินๆๆ จนไปทะลุถนน Sanjo และถนนละลายทรัพย์ที่หน้าตาคล้ายๆ Shinsaibashi คือ Sanjo Meitengai ถนนช้อบใต้หลังคายาวๆ เดินเพลินๆ ดูของกันอยู่เกือบชั่วโมงก็นั่งรถกลับที่พัก




กลับถึงที่พักประมาณ 5 ทุ่มกว่าด้วยร่างที่พังแหลกเหลว แต่รู้สึกว่าสนุกมาก ทั้งหลง ทั้งงง แต่สุดท้ายก็มาถึงที่หมายด้วยตัวเอง แม้จะพลาดโปรแกรมที่ตั้งไว้หลายที่ แต่ก็รู้สึกมีความสุขและอิ่มเอมกับการได้เดินเที่ยวตามใจตัวเองเป็นครั้งแรก เลยชักจะเริ่มติดใจ และอยากให้เช้าของวันใหม่มาถึงเร็ว เพื่อที่จะได้ออกเดินอีกครั้ง กับพรุ่งนี้ที่ Arashiyama

เรื่องและภาพโดย : The 23rd Ronin www.marumura.com
เรื่องแนะนำ :
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 8 ร่ำลา Delay และประทับใจ
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 7 หมดเวลาสนุกแล้วสิ
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 6 Minoh ภูเขาและธารน้ำตกใน Osaka
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 5 Tsutenkaku-Rinku Town-Nipponbashi
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 4 รักจัง Arashiyama
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 2 Bye Bye Homestay…Hello Shinsaibashi”
– ทริปเที่ยวเองที่ Kansai : ตอนที่ 1 Yokoso Japan Homestay @Osaka”
– พาทัวร์โรงงาน Kikko Nihon “ชม ชิม โชยุ แบบสุดสะเทือนไต”