Ouchijuku หมู่บ้านโบราณอายุเกือบ 400 ปี ปัจจุบันยังคงให้เห็นสภาพดั้งเดิมแบบสมัยก่อน บ้านเก่าๆ โรงเตี๊ยมโบราณ หลังคามุงหญ้าหนาๆ เรียงสองข้างทางถนนดิน เติบโตมาจากการเป็นเมืองท่าหยุดพักระหว่างทางของซามูไรที่ต้องเดินทางไปมายังเมืองเอโดะ
บทความโดย : Ataya Aoki
จขกท.ผู้อาศัยอยู่เมืองเซนได จ.มิยะกิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น (เรียกกันว่า โทโฮะกุ) อาทิตย์ก่อนได้รวมแก๊งชาวไทยขับรถจากเซนไดกันไป 3 ชั่วโมง ไปเที่ยวหมู่บ้านโบราณ Ouchijuku(大内宿)จ.ฟุคุชิมะกัน หมู่บ้านนี้มีอายุเกือบ 400 ปี ปัจจุบันยังคงให้เห็นสภาพดั้งเดิมแบบสมัยก่อน

บ้านเก่าๆ โรงเตี๊ยมโบราณ หลังคามุงหญ้าหนาๆ เรียงสองข้างทางถนนดิน เติบโตมาจากการเป็นเมืองท่าหยุดพักระหว่างทางของซามูไรที่ต้องเดินทางไปมายังเมืองหลวงเอโดะ (โตเกียว)

ปัจจุบันร้านรวงต่างๆ ในหมู่บ้านยังคงรูปแบบเดิม ขายของท้องถิ่นและอาหารพื้นบ้านแก่นักท่องเที่ยว


โรงเตี๊ยมสมัยก่อนก็ยังมีหลงเหลือ และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพักอีกด้วย การพักแบบนี้เหมือนพักบ้านคนท้องถิ่น เรียกที่พักแบบนี้ว่า Minshuku (民宿) แขกจะนอนบนเสื่อทะทะมิ ใช้ห้องน้ำห้องส้วมร่วมกัน อาหารเย็นและเช้าลงมาล้อมวงรอบเตาทานด้วยกัน ค่าที่พักตกราวๆ 7500 เยน รวมอาหาร 2 มื้อ จขกท.กับแก๊งพักกันที่โรงเตี๊ยม Honke Ogiya (本家扇屋) ซึ่งมีอายุเก่ากว่า 300 ปี ในหมู่บ้านนี้มี Minshuku 3 หลัง



สองข้างทางที่ยาวประมาณ 500 เมตร เป็นร้านรวงแบบโบราณ หน้าร้านเป็นทางน้ำไหล ใสสะอาดจนอดไม่ได้ที่จะเอามือลงไปแกว่งดู..เย็นเจี๋ยบเลย เป็นน้ำจากภูเขา ทั้งๆ ที่ตอนไปเป็นหน้าร้อน น้ำเย็นจนชาวบ้านใช้แช่ของแทนตู้เย็นได้เลย


ถามร้านค้าแถวนั้นดูว่าทางน้ำไหลนี่มีไว้เพื่ออะไร เขาเล่าว่าสมัยก่อนเป็นที่ๆ ผู้เดินทางพักให้ม้ากินน้ำ ส่วนชาวบ้านแถวนั้นก็ใช้เป็นที่ล้างผัก ซักผ้า
จขกท.เดินอยู่จน 5 โมงเย็น ถึงเวลาปิดร้านก็ได้ยินเสียงสัญญานอะไรสักอย่าง จากนั้นทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่พากันฉวยเครื่องมือ กวาดทางน้ำกันอย่างกระฉับกระเฉง ทราบว่าเป็นเวลาต้องทำความสะอาดทางน้ำกัน ดูทุกคนช่างสามัคคี ไม่มีใครอ้อยอิ่งกันเลย แล้วยังทำโดยไม่เกี่ยงว่าตรงนั้นเป็นหน้าร้านตัวเองหรือเปล่า คุณป้าเจ้าของโรงเตี๊ยมที่จขกท.พักก็มากวาดเสียไกลจากบ้านตัวเอง มิน่าเล่าน้ำที่ไหลช่างดูใสสะอาดอยู่ตลอดเวลา ตลอดเวลา 400 ปีที่ผ่านมา


หากมาถึงที่นี่แล้ว อาหารที่มาแล้วต้องทานของหมู่บ้านนี้คือ Negi soba หรือโซบะที่ใช้ต้นหอมเป็นตะเกียบคีบทาน

ข้าวปิ้งทามิโสะ แล้วนำไปย่างไฟ เรียกว่า Shingoro ก็อร่อย

เดินทอดน่องไปเรื่อยๆ ระหว่างทางมีพิพิธภัณฑ์แสดงความเป็นอยู่ของหมู่บ้านนี้เมื่อสมัยที่ซามูไร ไดเมียวมาพักกัน


เดินเข้าไปจนสุดหมู่บ้านก็จะถึงภูเขา มีบันไดหินไต่ขึ้นไปข้างบน ซึ่งมีวัดวิหารและเจ้าแม่กวนอิมที่ประทานพรให้บุตร วันที่ไปนั้นเห็นคนท้องมาไต่ขึ้นบันไดหินเพื่อไหว้เจ้าแม่ ..อดห่วงไม่ได้ จากข้างบนมองลงมาจะเห็นวิวทั้งหมู่บ้านน่าดูมากเลย




วิธีไป ดูได้จากเว็บไซต์นี้ http://ouchi-juku.com/index.php?Traffic%E3%80%80Information
หากขับรถไป ให้จอดรถที่ที่จอดรถฝั่งตรงข้ามทางเข้าหมู่บ้าน อย่าขับเข้าไปในหมู่บ้านเชียวนะคะ เพราะเป็นทางให้คนเดินเท่านั้น ถ้าพัก Minshuku เขามีที่จอดรถให้ข้างหลัง บอกล่วงหน้าว่าต้องการขับรถไป
ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 พฤศจิกายน พศ.2558 มีรถบัสวิ่งไปกลับจากสถานี Yunokami Onsen ไปลงปากทางเข้า Ouchijuku นับว่าสะดวกมากสำหรับผู้ที่ไม่ขับรถ นี่คือตารางเวลารถค่ะ มีรถวิ่งวันละ 6 เที่ยว ใช้เวลาวิ่ง 20 นาที

มาเที่ยวที่นี่แล้ว แนะนำว่าให้เที่ยวต่อที่อื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงกันด้วย จขกท.กับแก๊งค้างที่นี่ 1 คืนแล้วพากันต่อไปยัง ปราสาท Tsurugajo, บ้านซามูไร, สวน Oyakuen และที่อื่นๆ ในเมือง Aizu ก่อนกลับเซนไดในวันรุ่งขึ้นค่ะ
บทความโดย : Ataya Aoki