ถ้าพูดถึงเรื่องการรับปริญญาที่ญี่ปุ่นก็จะเป็นที่รู้กันว่ามักจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคมของทุกปีค่ะ ไม่ใช่แค่ระดับมหาวิทยาลัยเท่านั้นนะคะ พิธีรับประกาศนียบัตรของโรงเรียนอนุบาล ประถม และมัธยม ก็จะจัดขึ้นในเดือนนี้เช่นกันค่ะ เรียกได้ว่าเป็นเดือนที่มีภาพลักษณ์ของการเป็น “ฤดูกาลจบการศึกษา” กันเลยทีเดียว
เรียบเรียงโดย : ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น Jat
卒業式 (Sotsugyoo shiki)
งานรับปริญญาระดับมหาวิทยาลัย
สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งเดือนนึง คิดถึงกันบ้างรึเปล่าเอ่ย สำหรับคุณผู้อ่านที่อ่านคอลัมน์นี้อยู่หลายๆ คนคงเรียนจบมีการมีงานทำกันแล้ว วันนี้ก็เลยมีคำถามอยากจะถามสักข้อนึงค่ะ ว่าทุกคนรับปริญญากันตอนเดือนอะไรคะ?

ถ้าพูดถึงเรื่องการรับปริญญาที่ญี่ปุ่นก็จะเป็นที่รู้กันว่ามักจะจัดขึ้นในเดือนมีนาคมของทุกปีค่ะ ไม่ใช่แค่ระดับมหาวิทยาลัยเท่านั้นนะคะ พิธีรับประกาศนียบัตรของโรงเรียนอนุบาล ประถม และมัธยม ก็จะจัดขึ้นในเดือนนี้เช่นกันค่ะ เรียกได้ว่าเป็นเดือนที่มีภาพลักษณ์ของการเป็น “ฤดูกาลจบการศึกษา” กันเลยทีเดียว แต่ว่าที่ไทยดูเหมือนจะไม่ใช่เช่นนั้นสินะคะ

ได้ยินมาว่าที่ประเทศไทยเนื่องจากผู้เข้ารับปริญญาบัตรจะต้องเข้ารับจากพระหัตถ์ของพระบรมวงศานุวงศ์ทีละคน จึงมักจะจัดพิธีรับปริญญาหลังจากจบการศึกษาจริงหนึ่งปี เพื่อกำหนดวันพิธีรับปริญญาให้ตรงกับตารางงานของพระบรมวงศานุวงศ์นั่นเอง ดูเหมือนว่าที่ประเทศไทยจะไม่มี “ฤดูรับปริญญา” ที่แน่นอนในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น จะส่งตัวแทนนักเรียนหรือประธานนักเรียน ขึ้นรับประกาศนียบัตรจากอธิการบดี (หรือไม่ก็ให้ตัวแทนแต่ละคณะขึ้นรับจากคณบดี) ดังนั้นถึงแม้ทุกๆ มหาวิทยาลัยจะจัดพิธีในปลายเดือนมีนาคมพร้อมกัน ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด

และอีกอย่างพิธีดังกล่าวไม่ใช่การรับทีละคน ดังนั้นพิธีก็จะไม่กินเวลายาวนานค่ะ เผลอแป๊ปเดียวก็จบสิ้นพิธีการแล้ว แต่พิธีการของประเทศไทยนั้นเป็นงานที่ยิ่งใหญ่และมีเกียรติมากเพราะได้รับจากพระหัตถ์ของพระบรมวงศานุวงศ์ทีละคนซึ่งต่างจากที่ญี่ปุ่นมาก ดังนั้นคนญี่ปุ่นจึงตกใจมากเลยค่ะ ที่ก่อนมีพิธีการคนไทยต้องมีงานซ้อมใหญ่เพื่อฝึกฝนทบทวนท่าทางการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรด้วย (หลายๆ คนก็นำเอารูปถ่ายตอนที่ตัวเองรับพระราชทานปริญญาบัตรประดับตกแต่งที่บ้านด้วยใช่ไหมคะ)

พอตัวดิฉันเองมาที่ประเทศไทย ไม่นานนักก็มีโอกาสได้ไปงานรับพระราชทานปริญญาบัตรของเพื่อนบ้าง มีหลายเรื่องเลยค่ะที่ฉันประหลาดใจมาก
1. | เรื่องที่ญาติๆ เข้าไปในหอประชุมไม่ได้ ต้องรออยู่ข้างนอกหอประชุมตลอดพิธีการ (แถมงานก็กินเวลายาวนานมากกก) |
2. | เรื่องที่ส่วนใหญ่ผู้เข้ารับปริญญาจะมีช่างภาพของตัวเองไป |
3. | บริเวณใกล้ๆ ที่จัดงาน จะมีดอกไม้และตุ๊กตาวางเรียงรายขายเต็มไปหมด |
4. | คนอื่นนอกเหนือจากผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรที่มาร่วมงานมักแต่งตัวธรรมดา |

ที่ทึ่งสุดๆ เห็นจะเป็นเรื่องช่างภาพมืออาชีพนี่แหละค่ะ (คนที่ไม่ใช่ก็มี…) เรื่องที่คนไทยชอบการถ่ายรูปนี่ ดิฉันเองก็พอจะทราบมาบ้างนะคะ แต่การที่จ้างช่างภาพมืออาชีพมาถ่ายในงานรับปริญญาเนี่ยเป็นอะไรที่น่าตกตะลึงมาก เห็นแล้วก็เหมือนกำลังถ่ายภาพ Pre-Wedding งานแต่งงานเลยล่ะค่ะ ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นก็คงจะถ่ายกันเอง หรือไม่ก็ให้ญาติๆ ที่มาร่วมงานสลับๆ กันถ่ายค่ะ เท่าที่จำได้ดิฉันก็ไม่เคยไปร่วมงานรับปริญญาของเพื่อนคนญี่ปุ่นเลยนะคะ

ในส่วนของเครื่องแต่งกายของไทยและญี่ปุ่นก็ต่างกันมากค่ะ ของไทยนั้นได้ยินมาว่าเป็นชุดกาวน์ที่เรียกกันว่า “ชุดครุย” ใส่คลุมไว้ด้านนอก ชุดครุยนี้แต่ละมหาวิทยาลัยก็มีรูปแบบที่คล้ายกัน แต่ละคณะก็มีสีสันแตกต่างกันออกไป

ทีนี้ถ้าจะถามว่าที่ญี่ปุ่นล่ะใส่อะไรกัน มหาลัยที่ญี่ปุ่นไม่มีเครื่องแบบนักศึกษาค่ะ ดังนั้นก็ไม่ได้มีการกำหนดตายตัวว่าต้องใส่ชุดอะไร แต่ที่นิยมใส่กันในหมู่นักศึกษาชายก็เห็นจะเป็นชุดสูท ของนักศึกษาหญิงก็ใส่ชุดฮาคามะกันเป็นส่วนใหญ่ค่ะ (คนที่ใส่สูทก็มีค่ะ) ส่วนตัวดิฉันเองก็รับปริญญามาหลายปีแล้ว (55555) ก็ใส่ชุดฮาคามะเข้าร่วมงานค่ะ ถ้าจำไม่ผิดชุดฮาคามะนี่ใส่ครั้งเดียวในชีวิตตอนรับปริญญานี่แหละค่ะ

ที่ญี่ปุ่นสำหรับคนที่เรียนจบแล้วทำงานทันที ส่วนใหญ่จะเริ่มงานกันในวันที่1เมษายนหลังจากจบการศึกษาค่ะ ดังนั้นหลังจากเสร็จสิ้นพิธีรับปริญญาในเดือนมีนาคมแล้ว ที่ญี่ปุ่นจึงไม่มีการลาหยุดงานเพื่อไปเข้ารับปริญญาค่ะ แต่ทว่าที่ประเทศไทยการลาหยุดงานเพื่อไปเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเป็นเรื่องปกติมากๆ คิดว่านี่เป็นจุดหนึ่งทางวัฒนธรรมที่ประเทศไทยต่างจากชาวญี่ปุ่นอีกอย่างนะคะ แต่จะว่าไปงานรับปริญญาของไทยก็เป็นโอกาสที่ดีที่เพื่อนๆ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยจะได้มารวมตัวกันนะคะ คนที่จะเข้ารับปริญญาในรุ่นต่อๆ ไป แม้ว่าต้องลางาน อย่างไรก็จะต้องไปเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรให้ได้สินะคะ?
เรียบเรียงโดย : ทีมงานโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่น Jat
เอื้อเฟื้อโดย :
โรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นแจ๊ท Jat (JAT Japanese language school)
http://www.jatschool.com
ขอบคุณรูปภาพประกอบ
http://www.bangkoknavi.com
http://www.hakama-rental.com