สตรีเหล็กเร็นโฮ…ลูกครึ่งจีน-ญี่ปุ่น ที่มีจังหวะของชีวิตที่น่าสนใจ เธอเคยเป็นทั้งนางแบบ นักข่าว รวมไปถึงรัฐมนตรี ไปรู้จักกับเธอกันสักนิดค่ะ
ที่เมืองเกียวโต.. ผมได้พบเพื่อนเก่าที่รู้จักกันมากว่า 35 ปี ตั้งแต่ครั้งยังอยู่ร่วมชั้นเรียนเดียวกัน ปัจจุบันเพื่อนก็ยังทำงานอยู่กับหนังสือพิมพ์ฉบับเดิม ที่ทำงานแรกหลังเรียนจบ การทำงานที่เดิมที่เดียวจนจบชีวิตการทำงาน ทำด้วยความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อองค์กร ถือเป็นคุณธรรมอันสำคัญยิ่งของวัฒนธรรมองค์กรของญี่ปุ่น สำคัญกว่าความสามารถเสียด้วยซ้ำ
แม้ว่าจะมีความรู้ความสามารถสูงเท่าใด หากเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ ไม่รู้จักการทำงานเป็นกลุ่มแล้วบริษัทจะไม่เก็บคุณเอาไว้ ยิ่งหากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์พอจะรู้สึกได้ว่าคุณเป็นคนที่มีแนวโน้มไปในทาง “ข้ามาคนเดียว” แล้วละก็ องค์กรหรือบริษัทญี่ปุ่นจะขจัดคุณตั้งแต่ยื่นใบสมัคร
สังคมญี่ปุ่นยังคงกีดกันทั้งสตรีเพศและคนที่ไม่ใช่ญี่ปุ่นแท้…

ตอนหนึ่งของการสนทนา ผมเอ่ยชื่อนางมูราตะ เร็นโฮ ขึ้นมา ปฏิกิริยาแรกของเพื่อนคือ “เร็นโฮเป็นลูกครึ่งจีน She is half Chinese.”
เธอไม่ค่อยชอบให้คนเรียกชื่อเต็มๆ ว่าเร็นโฮ มูราตะ พ่วงชื่อสกุลของสามี แต่จะแนะนำตัวเองและบอกย้ำว่าให้เรียกเธอสั้นๆ ว่า “เร็นโฮ” ไม่ต้องมีอะไรต่อหน้าหรือเติมท้าย
เร็นโฮ เกิดที่กรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 1967 อายุเกือบเต็ม 44 ปี มีบิดาเป็นชาวไต้หวันอพยพมาทำงานและมีภรรยาชาวญี่ปุ่น เมื่อแรกเกิดเร็นโฮมีชื่อจีนว่าเซียะ เหลียน ฟาง (Hsien Lien-fang) เธอถือสัญชาติไต้หวันตามบิดา
ประเทศญี่ปุ่นไม่ให้สิทธิ์พลเมืองตามสถานที่เกิด ไม่เหมือนประเทศอังกฤษ ในเวลาใกล้ๆ กัน คงจำกันได้ว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เกิดที่เมืองนิวแคสเซิลริมฝั่งแม่น้ำไทน์ชื่อเต็มๆ ว่า Newcastle upon Tyne จึงได้สัญชาติอังกฤษตามถิ่นที่เกิด โดยอัตโนมัติ
เร็นโฮ เพิ่งได้สัญชาติญี่ปุ่นตอนเป็นสาวเมื่อทางการญี่ปุ่นเปิดโอกาสให้ลูกครึ่งที่เกิดในประเทศมีสิทธิ์ขอสัญชาติได้ เธอจึงได้ใช้ชื่อญี่ปุ่นและใช้นามสกุลไซโตะ ตามมารดา ส่วนเตี่ยก็ยังมีสัญชาติไต้หวันอยู่เหมือนเดิม ด้วยหน้าตาที่สะสวย รูปร่างดี บวกกับความเฉลียวฉลาด เธอได้งานนางแบบ เข้าประกวดและได้เป็น Clarion Girl ประจำปี 1988

Clarion เป็นเครื่องเสียงติดรถยนต์ชั้นนำของญี่ปุ่น ลองนึกดูนางแบบน้ำมันเครื่อง เหล้ายาปลาปิ้ง ภาพของนางแบบบนโปสเตอร์โฆษณา จะออกมาลักษณะค่อนข้างวาบหวิว เมื่อเทียบชื่อชั้นในขณะนั้นถือว่าเร็นโฮเป็นนางในปฏิทินยอดนิยมคนหนึ่ง
ต่อมาเธอได้เข้าสู่วงการข่าวโทรทัศน์ ทำทั้งรายงานข่าวภาคสนามและเป็นผู้ประกาศข่าว ทำงานไม่กี่ปีเธอก็สามารถไต่เต้าขึ้นเป็นนักข่าวระดับนำของประเทศคนหนึ่ง ชื่อเสียงเริ่มมี เธอพูดจีนกลางได้คล่อง ยิ่งเมื่อเข้าไปทำข่าวที่ประเทศไต้หวัน ยิ่งดังเป็นพลุแตกทั้งในไต้หวันและมีคนรู้จักในประเทศจีน คนจีนนั้นชาตินิยม เรียกเธอด้วยชื่อจีนว่า Lien-fang ไม่ใช่เร็นโฮ
เธอแต่งงานกับนายมูราตะ โนบุยูกิคนข่าวด้วยกัน ปัจจุบันเขาผันตัวเป็นอาจารย์พิเศษบรรยายอยู่ในหลายมหาวิทยาลัย และมีบุตรฝาแฝดด้วยกันคู่หนึ่ง

เร็นโฮเข้าสู่การเมืองเมื่อปี 2004 สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปไตยแห่งประเทศญี่ปุ่น (DPJ-Democratic Party of Japan) และได้รับชัยชนะในเขตเลือกตั้งกรุงโตเกียว เธอมีคารมคมคาย เป็นสตรีเหล็กที่กล้าต่อปากต่อคำกับนักการเมืองชาย ไม่ยอมลดราวาศอก เรียกว่าเถียงชนะเกือบทุกครั้งจนพวกผู้ชายหัวหดไปตามๆ กัน
ตลอดเวลาที่เป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน เธอในฐานะวุฒิสมาชิกเป็นเสมือนหินลองไฟ นโยบายจีนของญี่ปุ่น เร็นโฮ โจมตีนโยบายจีนเดียวและการไม่ยอมรับไต้หวันของรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างตรงไปตรงมา
เธอกล่าวว่า “ยามใดที่ติดต่อสัมพันธ์กับประเทศจีน รัฐบาลญี่ปุ่นมักจะทำตัวสุภาพอ่อนน้อม จนเกินขนาด ไต้หวันเป็นบ้านเกิดของพ่อของฉัน ทำไมจึงไม่ยอมรับเสียทีว่าไต้หวันนั้นมีสถานะเป็นประเทศๆ หนึ่ง”
เธอเดินทางไปเยือนไต้หวันหลายครั้งทั้งในช่วงที่เป็นนักข่าวและในฐานะนักการเมือง ทุกครั้งมักเป็นข่าวครึกโครม
เมื่อปีที่แล้ว (ค.ศ. 2010) เร็นโฮ ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายได้คะแนนสียง 1,710,734 สูงเป็นประวัติการของเขตการเลือกตั้งนั้นของกรุงโตเกียว นักวิเคราะห์การเลือกตั้งบอกว่าเธอได้คะแนนทั้งจากหญิงยุคใหม่ที่นิยมชมชอบเธอ รวมทั้งชายที่อายุ 40 ปีขึ้นไป พวกเขายังมีภาพโปสเตอร์ของสาวน้อยในชุดอาบน้ำชื่อเร็นโฮอยู่ในหัวใจ
เมื่อพรรค DPJ ได้เป็นฝ่ายรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง ไม่รีรอที่จะตั้งเร็นโตเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล

เร็นโต.. รัฐมนตรีผู้กำกับดูแลการปฏิรูประบบบริหารราชการ (Administrative Reforms) เธอมีหน้าที่ตัดลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น อันนี้รวมทั้งข้าราชการที่มีตำแหน่งลอยๆ เดินแกว่งไปแกว่งมา
ไม่เคยมีนักการเมืองคนใดไม่ว่าชายหรือหญิงที่จะกล้าบอกกับคนญี่ปุ่นตรงๆ ว่า อย่ามัวแต่คอยพึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐ เพราะต่อไปนี้จะไม่มีรัฐบาลที่ทำทุกอย่างให้ประชาชนอีกแล้ว จะมีแต่เพียงรัฐบาลที่ทำให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม รัฐบาลที่ช่วยคนที่ช่วยตัวเอง และทำงานหนักให้บรรลุเป้าหมายของชีวิต
ด้วยวัยที่ยังเยาว์ของเร็นโฮ ผู้คนในวงการเมืองญี่ปุ่นกำลังมองว่าเธอมีโอกาสไปได้อีกไกล สามารถก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นไปกว่านี้ แต่ยังไม่มีใครกล้าทำนายว่าเธอจะขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ
“เธอมีพ่อเป็นคนไต้หวัน” เพื่อนชาวเกียวโตของผมพูดแทรก คนแก่นั้นติดนิสัย “ย้ำคิดย้ำทำ” อยู่ร่ำไป
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.bloomberg.com/news/2010-06-09/former-model-gives-meaning-to-economic-change-commentary-by-william-pesek.html
http://www.tokyofreepress.com/article.php?story=20110327033109954&mode=print
http://radiotv-lover.livejournal.com/448098.html
http://www.japantimes.co.jp/life/2010/05/02/general/japans-fiscal-firebrand/
http://news.panorama.it/esteri/orientexpress/Da-modella-a-Ministro-il-personaggio-dell-anno-in-Giappone