ด้วยปัญหาโรคระบาด Covid-19 จำกัดการออกจากบ้านของผู้คน กลุ่มธุรกิจการรับส่งอาหารอย่าง Uber eats เจริญเติบโตมากขึ้น
“กระเป๋าขนอาหารวางไว้บนพื้นเนี่ย ไม่คิดถึงใจลูกค้าเลยว่าจะรับได้ไหม”
ด้วยปัญหาโรคระบาดจำกัดการออกจากบ้านของผู้คน กลุ่มธุรกิจการรับส่งอาหารอย่าง Uber eats เจริญเติบโตมากขึ้น
สิ่งดีๆ จากความสะดวกในการสั่งอาหารโดยมิต้องออกจากบ้านเพื่อเพิ่มระยะห่างทางสังคม แต่เหรียญย่อมมีสองด้าน เหรียญอีกด้านก็คือคำถามต่อสภาพการบริการของพนักงานรับส่งอาหารของ Uber eats
ปัญหาหลักๆ ที่พบเจอ ตามคำบอกเล่าของผู้คนที่ต่อว่า Uber eats บนอินเตอร์เนตมีอยู่สองข้อดังนี้
1. ระดับความสะอาดในบริการ
พนักงานวางประเป๋าที่ขนอาหาร ที่มีของกินอยู่ข้างใน วางไว้บนพื้น
จากกระเป๋าสีเขียวเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าสีดำ ร่องรอยความสกปรกอาจสังเกตเห็นยากมากขึ้นแต่ความสกปรกคงอยู่ตรงนั้นตามคำบอกเล่า
มีคอมเม้นต์ออนไลน์กล่าวไว้ว่า
“เห็นพนักงาน Uber eats เข้ามาในร้าน McDonald แล้วเข้าห้องน้ำ แต่ออกมาจากห้องน้ำเร็วมาก ไม่รู้เช็ดมือสะอาดหรือเปล่า แล้วก็ไปต่อคิวซื้ออาหาร”
ผู้บริโภคบางคนบอกว่า
“ฉันไม่อยากใช้ Uber eats เพราะพนักงานส่งเป็นใครก็ไม่รู้ ฉันเลือกร้านที่มีพนักงานในร้านมาส่งเองดีกว่า อุ่นใจกว่าเยอะ”
2. การขี่รถจักรยานที่อันตราย
พนักงานขนอาหารของ Uber Eats นั้นขนส่งอาหารโดยใช้รถจักรยาน แต่มารยาทในการขี่จักรยานนั้นก่อให้เกิดเสียงตำหนิติเตียน บอกกันว่าพนักงาน “ขี่รถเร็ว” “ฝ่าไฟแดง”
สิ่งเหล่านี้อาจจะมีสาเหตุมาจาก “การที่ต้องการทำเวลา” ของพนักงานส่งอาหาร
จริงๆ แล้วการส่งอาหารโดย Uber eats นั้น พนักงานส่งสามารถเลือกที่จะใช้รถมอเตอร์ไซค์ส่งหรือใช้รถจักรยานก็ได้
จากข้อมูลของเวบไซต์รวบรวมสถิติพบว่ามีคนลงทะเบียนใช้จักรยานกว่า 80 %
แน่นอนว่าจักรยานอาจจะเหนื่อยกว่า และดูช้ากว่า แต่เอาเข้าจริงในระยะทางสั้นๆ นั้นจักรยานเร็วกว่า ซิกแซกไปตามเส้นทางง่ายกว่า ส่วนมอเตอร์ไซค์นั้น คนขับมีภาระค่าน้ำมันที่ต้องจ่ายเพิ่มอีก
จักรยาน Uber eats ได้รับเสียงตำหนิ เพราะจาก gray zone ที่ไม่มีบทลงโทษผู้ขับขี่จักรยานที่ชัดเจน ก่อให้เกิดพนักงานที่มีนิสัยการขับจักรยานที่ไม่ดี
และอีกอย่างคือการเช็คมือถือไป ขณะขี่จักรยานไปก็ก่อให้เกิดความรู้สึกอันตรายต่อผู้พบเห็น
ประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน รู้สึกว่ามารยาทการขี่จักรยานในญี่ปุ่นค่อนข้างอันตราย (เรื่องเมื่อ 10 ปีที่แล้ว) จะพยายามแซงคนที่เดินบนทางเท้า โดยไม่พยายามให้สัญญาณคนที่เดินบนเส้นทางให้รู้ตัวเท่าใด (ผ่านมา 10 ปีแล้ว มารยาทในการขับขี่จักรยานของคนทั่วไปอาจจะดีขึ้นแล้วก็เป็นได้)
สำหรับปัญหาที่ญี่ปุ่นของ Uber eats ที่ญี่ปุ่น ผมคิดว่าอาจจะมาจากการขนส่งด้วยจักรยานที่
พนักงานขนส่งสินค้าที่ต้องแบกของข้างหลังจนหนัก ทำให้วางสินค้าบนพื้น เมื่อมีจังหวะหยุดพัก
ถนนหนทางที่ญี่ปุ่นที่เอื้อต่อการขี่จักยาน บวกความเร่งรีบของพนักงานจนอาจจะลืมนึกถึงคนร่วมใช้เส้นทาง
สุดท้ายแล้วก็เป็นสำนึกในการให้บริการของพนักงานส่งทุกคน Uber eats เองไม่ได้ผิดทั้งหมด
แล้วปัญหาลักษณะนี้ที่เมืองไทยเกิดขึ้นเหมือนกันหรือเปล่า?
แต่หากเรากลับมามองมุมในด้านดีของ Uber eats สำหรับบางคนที่งานลดลงในช่วงสถานการณ์โรคระบาดนี้ Uber eats ก็เป็นช่องทางในการสร้างรายได้ในช่วงโอกาสที่จำกัดของเขา
สุดท้ายก็อยากส่งแรงใจให้ผู้คนที่สู้ชีวิตในสถานการณ์นี้ไปด้วยกันทั้งหมดนะครับ
ทักทายพูดคุยกับวสุ ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan
เรื่องแนะนำ :
– ผู้คนยังคงพนมมือไหว้ 15 ปีหลังเหตุการณ์รถไฟตกรางที่ญี่ปุ่น
– คนญี่ปุ่นไม่คล่องอังกฤษทำงานไทยไม่ลำบาก
– Essay : ญี่ปุ่น Work from home และการตัดสินใจให้ไวขึ้น
– COVID-19 ที่ญี่ปุ่น ณ วันที่ 29 มีนาคม 2020
– อ่านอยู่บ้าน “สังหารจอมทัพอัศวิน” นวนิยายมุราคามิเล่มใหม่
อ้างอิง
– note.com
– www.noshift.com
– news.yahoo.co.jp
#Uber eats #Covid-19