การประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G7summit ครั้งที่ 42 ที่จัดขึ้นที่เขตอิเสะ ชิมะ (Ise Shima) จังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 26 – 27 พฤษภาคม 2559 ทำให้ต่างชาติได้ทำความความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณนี้มากขึ้นค่ะ
การประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G7 Summit ครั้งที่ 42 ที่จัดขึ้นที่เขตอิเสะ ชิมะ (Ise Shima) จังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 26 – 27 พฤษภาคม 2559 ทำให้ต่างชาติได้ทำความความรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณนี้มากขึ้นค่ะ
แต่ก่อนอื่น มาทำความรู้จักกับ G7summit แบบย่อๆ กันจิ๊ดนึง…
G7 ย่อมาจาก Group of Seven หมายถึงกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนํา 7 ประเทศ เริ่มมีการประชุมผู้นำประเทศกันครั้งแรกในปีค.ศ.1975 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยในตอนแรกมีแค่ 6 ประเทศ ( G6) คือ ฝรั่งเศส อังกฤษ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ในปีต่อมามีแคนาดาเข้าร่วมอีกประเทศ กลายเป็น G7 จนถึงปัจจุบัน มีการประชุมเป็นประจําทุก ๆ ปี โดยหมุนเวียนเปลี่ยนสถานที่จัดประชุมไปตามประเทศของสมาชิกทั้ง 7
สำหรับการประชุมครั้งที่ 42 ซึ่งญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ จัดขึ้นในเขตอิเสะ-ชิมะ จ.มิเอะ จึงเป็นชื่อเรียกการประชุมในครั้งนี้ว่า 伊勢志摩 サミット : Ise-Shima Summit
อิเสะ-ชิมะ เป็นชื่อเรียกพื้นที่ส่วนหนึ่งทางตะวันออกของจังหวัดมิเอะ ซึ่งประกอบด้วย เมืองอิเสะ โทบะ ชิมะ และบางส่วนของมินามิอิเสะ
เท่าที่ตามข่าวมา ว่ากันว่าจ.มิเอะได้เปรียบกว่าเมืองอื่นๆ ที่ยื่นเสนอเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมครั้งนี้ เนื่องจาก ศาลเจ้าใหญ่อิเสะ ศูนย์รวมทางจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น ซึ่งสมเด็จพระจักรพรรดิ์และเชื่อพระวงศ์เสด็จเยือน รวมไปถึงระดับผู้นำประเทศจากประเทศต่างๆ มาสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้อยู่บ่อยครั้ง จึงมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนากว่าเมืองคู่แข่งอื่นๆ และที่สำคัญคือ นายกฯ อาเบะ มีความเคารพศาลเจ้าใหญ่อิเสะมาก ถึงขนาดมาเยือนเป็นประจำทุกปีในช่วงหลังวันหยุดปีใหม่
ในยุคหลังๆ นี้ การประชุม G7 เปลี่ยนสถานที่จัดประชุมจากในเมืองใหญ่ๆ ไปตามสถานที่ปิด เช่นปีที่แล้ว จัดประชุมที่รีสอร์ท Schloss Elmau ประเทศเยอรมัน ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาไกลโพ้น ผู้ก่อการร้ายจะวางแผนทำอะไรคงลำบากเกิน
เกาะคาชิโกะ (賢島:Kashikojima) สถานที่จัดการประชุมในครั้งนี้ จึงเหมาะสมสอดคล้องกับเหตุผลข้างต้น เนื่องจากเป็นเกาะที่มีถนนหลักเข้าถึงเกาะได้แค่ 2 เส้นทาง และถูกรอบล้อมด้วยทะเล สามารถควบคุมระบบการรักษาความปลอดภัยได้ง่าย เมื่อได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัดประชุม จึงต้องมีการขอความร่วมมือจากพลเมืองที่อาศัยบนเกาะคาชิโกะ ทำ I.D.Card เป็นบัตรประจำตัวของแต่ละคน ใช้แสดงตนในยามเดินทางเข้าออกจากเกาะ

นอกจากนั้น อิเสะ-ชิมะ (Ise Shima) ยังอยู่ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติเซ็นแทร์ ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ คงนั่งรถไฟใช่ไหมคะ แต่ผู้นำประเทศระดับโลกขนาดนี้ ทางญี่ปุ่นจัดเฮลิคอปเตอร์ซิ่งตรงจากสนามบินเซ็นแทร์ ไปยังเกาะคาชิโกะค่ะ ยกเว้นประธานาธิบดีโอบามาเท่านั้น ที่เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่ทางสหรัฐฯ จัดมาเอง
ถึงตรงนี้ก็ปล่อยให้ท่านผู้นำประชุมกันไปนะคะ เราไปตระเวณสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ในแถบอิเสะชิมะกันดีกว่าค่ะ
ศาลเจ้าใหญ่อิเสะ (伊勢神宮)
สถานที่สำคัญทางศาสนาซึ่งมีความเก่าแก่นับ 2000 ปี ด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นที่สถิตย์ของ Amaterasu-Omikami เทพแห่งดวงอาทิตย์ เทพเจ้าผู้สร้างทุกสรรพสิ่งตามความเชื่อของศาสนาชินโต และจักรพรรดิราชวงศ์อิมพิเรียลสืบเชื้อสายมาจากเทพแห่งพระอาทิตย์นี้ ศาลเจ้าอิเสะจึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนญี่ปุ่นคิดว่า “ ต้องไปสักการะสักครั้งให้ได้ในชีวิต”
ศาลเจ้าอิเสะประกอบด้วยส่วนหลัก ๆ 2 ส่วนคือ ศาลเจ้าส่วนใน ( Naiku ) และศาลเจ้าส่วนนอก ( Geku ) ซึ่งสามารถเดินทางไปสักการะทั้งสองแห่งได้ โดยรถประจำทางหรือแท็กซี่ประมาณ 10 นาที หรือเช่าจักรยานขี่ไปใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
หินแต่งงาน Meoto Iwa (夫婦岩)
ศาลเจ้า Futamiokitama มีหินสองก้อนใหญ่เล็กริมทะเลที่เชื่อมกันด้วยเชือกชิเมะนาวะ เป็นสัญลักษณ์ของคู่สามีภรรยา จึงเป็นอีกสถานที่ยอดฮิตสำหรับการขอพรเรื่องความรัก ถ้าคู่รักได้มาขอพรก็จะมีความสุขรักกันยืนยาว ส่วนใครที่ไร้คู่มาขอพรให้เจอเนื้อคู่ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของไปเยือนคือช่วงฤดูร้อนค่ะ เพราะเชื่อกันว่า ถ้าได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นระหว่างหินสองก้อนนี้ล่ะก็ จะเป็นนิมิตหมายที่ดี ประสบความสำเร็จสมหวัง
เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (ミキモト真珠島)
อยู่ที่เมืองโทบะ แม้จะใช้ชื่อว่าเกาะไข่มุก แต่ไม่ต้องนั่งเรือไปค่ะ เพียงแค่เดินข้ามสะพานไปก็จะได้พบกับเกาะของราชาไข่มุก คุณโคคิชิ มิกิโมโตะ ผู้ที่เพาะเลี้ยงไข่มุกสำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก มีพิพิธภัณฑ์ให้เดินชมประวัติความเป็นมา กรรมวิธีผลิตมุก คุณภาพของมุก ฯลฯ ทั้งยังมีตารางเวลาแสดงการดำน้ำตัวเปล่าเก็บหอยมุกของหญิงนักดำน้ำ เรียกว่า อะมะ และที่สำคัญที่สาวๆ อดใจไม่ไหว คงจะเป็นร้านขายเครื่องประดับมุกซึ่งมีหลากแบบหลายราคา ตั้งแต่มุกจิ๋วๆ พอซื้อไหว ไปถึงราคาแพงหูฉี่
อ่าวอะโกะ (英虞湾)
อยู่ที่เมืองชิมะ เป็นจุดชมวิวเกาะใหญ่น้อยบริเวณอ่าว จุดเด่นของที่นี่คือเป็นที่เพาะเลี้ยงหอยนางรม ที่ให้กำเนิดมุก จึงมีแพหอยมุกเลี้ยงกระจายอยู่ทั่วท้องน้ำ สามารถชมวิวได้จากจุดชมวิวบนเขา Yokoyama หรือโดยการล่องเรือ ซึ่งจะต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือของเกาะ Kashiko เกาะซึ่งใช้เป็นที่ประชุม G7 Summit ในครั้งนี้นั่นล่ะค่ะ ใครอยากจะไปตามรอยบรรดาผู้นำประเทศเศรษฐกิจของโลก ก็ไปกันได้นะคะ
พบปะ “เจ๊เอ๊ด” และ #ทีมเจ๊เอ๊ด ได้ที่ >>> www.facebook.com/jeducationfan
ข้อมูลเรียนต่อญี่ปุ่น-เรียนภาษาญี่ปุ่น >>> www.jeducation.com
เรื่องแนะนำ :
– เรียนทำเบเกอรี่ที่ญี่ปุ่น
– แทนที่การ “ตัด” ด้วยการ “เติม”
– มารยาทในการชมบุไต (ละครเวที) ที่ญี่ปุ่น
– นักเรียนไทยกับการทำไบ้ท์ (งานพิเศษ) ที่ญี่ปุ่น
– ข้าวญี่ปุ่นหลากหลายพันธุ์ อร่อยต่างกันยังไง!?
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.g7ise-shimasummit.go.jp/
https://www.g7germany.de/
http://toba.or.jp/sites/en/