Go hon no ki ต้นสน 5 ต้นตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนเนินเขา ท่ามกลางทุ่งโล่งในเมือง Kami Furano ที่ถูกกระแสของศิลปินดังอย่าง Arashi ทำให้โด่งดัง และมีชะตากรรมไม่ต่างกับ Tree of Philosophy (Tetsugaku no ki) เท่าไรนัก
เป็นที่น่าเสียใจและเสียดายอย่างมาก กับข่าวของ Tree of Philosophy (哲学の木 : Tetsugaku no ki) ต้นไม้แห่งปรัชญา หนึ่งในทิวทัศน์ที่สวยงามกลางทุ่งโล่งของบิเอ หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น ซึ่งถูกโค่นไปเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคล โดยไม่คำนึงถึงมารยาทและข้อควรปฏิบัติ
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2013 เคยมีปัญหาคล้ายๆ กันเกิดขึ้นกับต้นสน 5 ต้น ที่เมือง Kami Furano ซึ่งอยู่ติดกับเมือง Biei ค่ะ
5本の木 : Go hon no ki
ต้นสน 5 ต้นตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนเนินเขา ท่ามกลางทุ่งโล่งในเมือง Kami Furano ถูกใช้เป็นโลเกชั่นถ่ายทำโฆษณาเที่ยวบินภายในประเทศ ของสายการบิน JAPAN AIRLINES โดยมี 5 หนุ่มวงอาราชิ ศิลปินกลุ่มค่ายจอห์นนี่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ถูกขนานนามว่าเป็นไอดอลระดับชาติ มีแฟนคลับนับล้านเป็นพรีเซ็นเตอร์
โฆษณา JAL ต้นสนทั้ง 5 กับอาราชิ
ด้วยความที่มี 5 ต้นตั้งตระหง่าน สื่อถึงสมาชิกในวงที่มี 5 คน ในโฆษณาก็มีบทพูดประโยคหนึ่ง ซึ่งไอบะ มาซากิ หนึ่งในสมาชิกอาราชิพูดขึ้นว่า เรียกว่า 嵐の木 : Arashi no ki ต้นไม้ของอาราชิ ดีไหมนะ และมัตซึโมโต้ จุน ตอบว่า “อย่าเลย เพราะไม่มีชื่อนี่ล่ะ จึงสามารถมีชีวิตได้อย่างอิสระ” ฟังดูดีนะคะ
แต่หลังจากโฆษณาออกอากาศไป ก็มีแฟนคลับตามรอยโฆษณาไปท่องเที่ยวถ่ายรูปกับต้นสนทั้ง 5 ของอาราชิกันกระหน่ำ และพากันขนานนามเจ้าสนทั้ง 5 ต้นนี้ว่า 嵐の木 Arashi no ki กันไปเรียบร้อย
แม้การมาเยือนของแฟนคลับอาราชิจะทำให้การท่องเที่ยวของ Kami Furano คึกคักขึ้นมา แต่ผู้คนที่แห่กันมาก็สร้างปัญหารบกวนให้กับชาวบ้านในพื้นที่บริเวณนั้น ด้วยการเหยียบย่ำเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคล เพราะทุกคนต่างก็อยากจะเข้าไปถ่ายรูปใกล้ๆ กับต้นอาราชิ เลียนแบบท่าในโฆษณากัน
เริ่มแรกเจ้าของที่ดินแก้ปัญหาด้วยการเอาป้ายมาปักบอกไว้ว่าห้ามเข้า แต่ก็ยังมีคนไม่เชื่อฟัง บุกรุกเข้าไป ขนาดที่ว่าเจ้าของที่ดินโมโหและร้องตะโกนบอกให้ผู้คนออกไปซะ อย่ามาที่นี่อีก ไปจนถึงแจ้งตำรวจเนื่องจากถูกบุกรุกและทำพื้นที่เสียหาย แม้จะทำให้ปัญหาลดลงบ้าง ทำให้คนไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปใกล้ๆ ต้นสนทั้ง 5 แต่ก็ยังมีแฟนๆ พากันขับรถมาจอดริมถนนเพื่อถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง (ขอถ่ายจากไกลๆ ก็ยังดี) เจ้าของที่เลยคิดว่าจะจัดการมันซะ
แต่แทนที่จะตัดมันทิ้งไปซักหนึ่งต้น กลับเปลี่ยนวิธีแก้ปัญหาด้วยการปลูกสนอีก 2 ต้นเพิ่มลงไประหว่างกลางแทน ให้มันดูไม่ค่อยสวย หรือเพื่อจะได้ลบอิมเมจความเป็น 嵐の木 (Arashi Trees) ทั้ง 5 ต้นออกไป
สุดท้ายดูเหมือนว่าในพื้นที่จะมีการหารือกัน ต้นสน 2 ต้นเล็กนั้นก็ย้ายมาขนาบอยู่ข้างๆ แทน ในอนาคตคงโตกลายเป็น 7本の木 ไม่ใช่สัญลักษณ์ของ 5 หนุ่มอาราชิอีกต่อไป
เรียกว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาในอีกมุมมองที่ทำให้ไม่เกิดการสูญเสีย…
อย่างไรก็ตามกรณีของต้นอาราชินั้น แตกต่างจาก Tree of Philosophy เนื่องจากยังไม่ได้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป คนที่จะไปถ่ายรูปกับต้นอาราชินั้น จะมีก็แต่บรรดาแฟนคลับอาราชิเท่านั้นล่ะค่ะ ที่ไปแล้วจะรู้สึกฟินเฟ่อร์เป็นพิเศษ และหลังจาก JAL ออกโฆษณาชุดใหม่ บรรดาแฟนๆ ก็แห่ไปตามรอยโฆษณา ณ สถานที่ใหม่ๆ แทนด้วย การไปเยือนต้นสนทั้ง 5+2 เลยค่อยแผ่วเบาลงไปได้บ้าง
และประเด็นหลักคือ เจ้าของ Tree of Philosophy เองก็คงอดทนมานานหลายปีมากแล้ว แม้จะบอกเหตุผลที่ว่าต้นมันแก่ เกรงว่าจะล้มลงและเป็นอันตราย แต่เชื่อว่าปัญหาของนักท่องเที่ยวเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เจ้าของที่ตัดสินใจโค่นมันทิ้งไป
แต่ไม่ว่าจะเป็นต้นไหนหรือด้วยเหตุผลใด ก็ไม่มีใครอยากให้เกิดกรณีแบบ Tree of philosophy ขึ้นอีกใช่ไหมคะ ไม่อยากให้ Tree of philosophy เป็นตัวอย่างที่สูญเปล่า … มาเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี รักษามารยาทและกฎระเบียบกันดีกว่านะคะ
พบปะ “เจ๊เอ๊ด” และ #ทีมเจ๊เอ๊ด ได้ที่ >>> www.facebook.com/jeducationfan
ข้อมูลเรียนต่อญี่ปุ่น-เรียนภาษาญี่ปุ่น >>> www.jeducation.com
เรื่องแนะนำ :
– ตะลุย 29 สถานีรถไฟสายยามาโนเตะในวันเดียว กับ Tokyo Yamathon
– เปิดโลกอิสระที่แดนอาทิตย์อุทัย กับการเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้น
– ตีตั๋วความรักชั้นหนึ่ง สู่สถานีรถไฟแห่งความสุข Kofuku Station
– ตามเจ๊ไปเที่ยวหมู่บ้านที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
– ญี่ปุ่นเอาใจต่างชาติ เปลี่ยนสัญลักษณ์บนแผนที่ให้เข้าใจง่ายขึ้น
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://blogs.yahoo.co.jp/t_ori2001
http://northernworks.jugem.jp/?eid=1560
http://blog.kamifurano.jp/
http://blog.goo.ne.jp/eos2d/e/d3801aa34e5f796a7ae814d1768e2c42
http://guitarpro.blog.so-net.ne.jp/2014-08-22
http://community.travel.yahoo.co.jp/mymemo/kapimaru/blog/133111.html