วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
ตามหาวิชาดาบอิไอ (ตอนพิเศษ) เพื่อนของผม ดาบของผม และการไล่ตามความฝันในวิชาดาบอีกครั้งของเพื่อนผมในวัย 45 ปี!!!
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน วันนี้ผมมีเรื่องแทรกที่แบบว่า เขียนไปนี่ก็ขนลุกซู่ด้วยปิติ เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนผมตั้งแต่สมัยมหาลัย “เฮียก๊อบ” นั้น แกมีกำหนดการที่จะไปเรียน “อิไอเฮียวโฮ” ซึ่งมีสอนที่สำนักมุไกริว กรุงเทพฯ ฉะนั้นวันนี้ ผมจะพาท่านผู้อ่าน ย้อนอดีตไปถึงเรื่องราวของเพื่อนผมคนนี้ จุดกำเนิดที่ว่าทำไมผมถึงเลือกเรียนวิชาดาบอิไอที่ญี่ปุ่น ไปจนถึงเรื่องราวของการ “คืนชีพดาบอิไอ” เพื่อที่เพื่อนผมจะนำเอาดาบมาใช้ในการเรียนในปี 2565 นี้ ไม่พูดเยอะละ เข้าเรื่องเลยครับ
อดีตนักกีฬาเคนโด้ทีมชาติ
เฮียก๊อบนั้นแกเป็นเพื่อนผมที่มหาลัยเดียวกันนั่นแหละ ด้วยความที่ได้มารู้จักคนที่ชอบวิชาต่อสู้ ตัวผมเองเลยพลอยมีความสนใจในวิชาต่อสู้ไปด้วย ซึ่งแกก็เรียนมาหลายอย่าง เคยเรียนมาทั้งคาราเต้ ยูโด ไอคิโด ไปๆ มาๆ ก็ได้เรียนเคนโด้ด้วยในยุคที่ชมรมเคนโด้แห่งประเทศไทยยังซ้อมที่จุฬาฯ แถมยังเคยได้เป็นนักกีฬาทีมชาติไปแข่งระดับอาเซียนที่สิงคโปร์เสียด้วย (ไม่ธรรมดาเลยนะครับเนี่ย)
อื้อหือ ไปแข่งตอนปี 2001 พูดอีกทีคือ 21 ปีก่อนเลยนะเนี่ยยย
นั่นแหละครับ เพราะผมมีเพื่อนเป็นนักเคนโด้ทีมชาติ (ถึงจะ Team B ก็เหอะ 55) พอผมได้ไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นในปลายปี 2003 เฮียก๊อบแกก็เลยคุยกับผมผ่าน msn (เก่าสัส) ว่า ไหนๆ เอ็งก็ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนถึงญี่ปุ่นละ ไปหาเรียนวิชา “ดาบอิไอ” หน่อยเถอะ เผื่อจะได้เอาวิชามาบอกต่อกัน
และผมก็เลยได้ไปเรียนดาบอิไอจนได้โชดังเมื่อปี 2005 นี่แหละ
สรุปก็คือ เป็นเพราะผมมีเฮียก๊อบเป็นเพื่อนแท้ๆ เลย ผมถึงได้มาเรียนดาบอิไอ
ฝึกพิเศษ “วิชาดาบอิไอ” ณ “แผ่นดินของพระเจ้า”
หลังจากผมเรียนจบจากที่ญี่ปุ่นในปี 2006 ผมก็กลับมาเมืองไทย มาทำงานบริษัทได้สักพักก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ก็ออกมาอยู่ว่างๆ เดินทางค้นหาตัวตนอยู่พักหนึ่ง ในปี 2007 ผมได้เขียนจดหมายติดต่อกับอาจารย์ดาบอิไอที่สมาคมอิไอโดอำเภอมิโน่ อาจารย์นิชิดะ (ไม่แน่ใจว่าจำชื่อถูกไหม) แกบอกว่าอาจารย์โอคาดะ ซึ่งก็เคยสอนที่สมาคมฯ ซึ่งผมก็เคยเจออยู่พักหนึ่งนั้น แกมาลองสเตย์ที่เชียงใหม่ ถ้ายังอยากฝึกอยากเรียนก็ลองติดต่อดู ผมก็เคยลองติดต่อไปว่าอยากจะพาเพื่อน (ซึ่งก็คือเฮียก๊อบ) ไปขอเรียนวิชาสักหน่อย ก็เลยกลายเป็นว่าผมกับเฮียก๊อบพากันนั่งเครื่องบินไปเชียงใหม่เพื่อไปหาอาจารย์ ซึ่งในการ “ฝึกพิเศษ” คราวนี้ อาจารย์แกหาสถานที่ให้เป็นคริสตจักรแห่งหนึ่ง ชื่อว่าคริสตจักร “แผ่นดินของพระเจ้า” โอ นี่เรากำลังฝึกฝนตนเองอยู่ในแผ่นดินพระเจ้าหรือนี่ 55
ภาพนี้ผ่านมาเกินสิบปีละ เอาให้เยาวชนรุ่นหลังดู (ฮา)
สำหรับเนื้อหาการฝึก ไม่มีไรมาก ก็แค่ว่าผมแสดงกระบวนท่าให้อาจารย์ดูว่า ผมได้รับการสอนกระบวนท่าโบราณของสำนักในส่วนที่เป็นท่าจากท่านั่งเซสะ (正座の部) ซึ่งเป็นท่าที่จะได้เรียนเมื่อขึ้นโชดังแล้ว ส่วนเฮียก๊อบก็เรียนท่าพื้นฐาน (ท่าบัญญัติ) ของสมาพันธ์เคนโด้ญี่ปุ่น ในการไปฝึกพิเศษครั้งนี้ เฮียก๊อบก็ได้ดาบเก่าจากอาจารย์โอคาดะมาหนึ่งเล่ม
ท่าฟันดาบลงมา เป็นท่วงท่าหนึ่งในกระบวนท่าจากท่านั่งเซสะ
เรื่องที่ฮาจริงๆ ในทริปนี้ ไม่ใช่เรื่องเรียนวิชาดาบเล้ย แต่เป็นเรื่องที่ว่าผมกับเฮียแก นึกไงไม่รู้ ไปเข้าร้านอาหารที่แบบ เป็นร้านคาราโอเกะสด ชื่อร้าน “เอื้องฟ้าล้านนา” ครับ (ซึ่งปัจจุบันเจ๊งไปละ พื้นที่เดิมกลายเป็นร้านทำป้ายไปเสียฉิบ) แล้วผมก็กินเหล้าอะไรก็ไม่รู้ผสมกัน ไม่แน่ใจ เลยนอนแบบว่า เฮียบ่นว่ามึงนอนกรนดังชิบหายเลย 555
แต่เชื่อไหมครับว่า มีสิ่งที่โคตรพีคยิ่งกว่านั้นอีก คือโรงแรมที่อาจารย์แนะให้มานอนนั้น ชื่อโรงแรมเซ็นเตอร์ปาร์ค (ตอนหลังกลายเป็น B2 resort) ที่พีคก็คือ หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีให้หลัง ผมที่เป็นคนกรุงเทพฯ ได้พบรักกับสาวเชียงใหม่ ซึ่งดันมีบ้านอยู่ในซอยแถวๆ ไอ้โรงแรมที่ไปนอนเพื่อมาฝึกวิชาดาบนี่แหละ อะไรจะโคตรบังเอิญขนาดนี้ พอแต่งงานกันแล้ว สุดท้ายมาก็ได้ย้ายมาอยู่กับเมียและลูก ณ บ้านที่ก็อยู่ใกล้ๆ โรงแรมนั่นน่ะแหละ อยู่มาเจ็ดปีจนกลายเป็นคนเชียงใหม่ไปแล้วผมน่ะ…
หรือว่านี่เป็น “ชะตาฟ้าลิขิต” (เสียงเฮียก๊อบ)
ผจญภัยถนนบาร์เกย์ ตามหาวิชาดาบที่พัทยา
ต่อมาหลังจากนั้น ไม่รู้ว่าเฮียก๊อบแกไปหามายังไง แกว่ามีอาจารย์ญี่ปุ่นท่านหนึ่ง ชื่อว่าอาจารย์ฮัตโตริ (ไม่ใช่ฮัตโตริ ฮันโซ นะ) แกมาสอนไอคิโดที่ยิมแห่งหนึ่งในพัทยา แต่ว่าแกมีวิชาดาบด้วย (จำไม่ได้ว่าเป็นดาบสำนักอะไร) แกก็ชวนผมไปพัทยา เอ้า เป็นไงเป็นกัน ตอนนั้นผมมันว่าง (งาน) อยู่แล้ว ไปพัทยาซะหน่อย พอดีเพื่อนรุ่นพี่ชื่อ “พี่เอก” โทรมา พอผมบอกพี่ครับตอนนี้ผมอยู่พัทยา พี่แกก็บอกว่าไป…สิ มี…สาวเชียงราย อย่างงี้เลย ผมก็ เอิ่ม พี่เอกครับผมมาตามหาวิชาดาบครับไม่ได้มาตามหาหอย (ฮ่าๆๆ)
ไปตอนนั้นจำไม่ได้ว่าคุยอะไรหรือได้ลองเรียนลองหัดอะไรบ้าง แต่การผจญภัยของจริงมีอยู่ว่า เดินๆ จะไปหาขึ้นรถกลับบ้านเนี่ย ผ่านซอยบาร์เกย์ด้วยนะเว้ยเห้ย เฮียบอกระวังอย่าหลุดเข้าไปนะ (ก๊ากๆๆ) สรุปว่าไปพัทยาคราวนี้นอกจากจะต้องระวังมาเฟียรัสเซียแล้วยังต้องระวังบาร์เกย์อีกด้วย (ฮ่าๆๆๆ)
หลังจากนั้นการตามหาวิชาดาบของผมกับเฮียก๊อบก็จางๆ ไป ในเมื่อหาที่เรียนเป็นประจำเป็นกิจจะลักษณะไม่ได้ ก็เลยไม่ได้เรียนอะไรต่อ และพอผมแต่งงานและก็ทำงาน เรื่องวิชาต่อสู้ทั้งหลายก็เลยจางๆ ไป
หลังจากนั้น ด้วยเหตุผลเรื่องความเชื่อบางประการ ผมได้ยกดาบอิไอของผมให้เฮียก๊อบ ซึ่งเฮียก๊อบก็บอกว่าจะเก็บไว้อย่างดี
คืนชีพดาบอิไอ 2021
เมื่อเวลาผ่านไปอีก หลายปี หลายปีทีเดียว ในขณะที่ผมตัดสินใจละจากวิชาดาบและไม่คิดจะถือดาบอีกต่อไป กระแสคลื่นแห่งกาลเวลาก็ได้พัดพาผมไปยังสภาวะต่างๆ ทั้งอ้วนหนักเกินร้อยโลเพราะกินเบียร์เกินขนาด (เกินขนาดแบบที่ตอนทำงานที่ระยองนั้นเคยทำสถิตินั่งกินเบียร์ที่กรุงเทพฯ แล้วซิ่งรถไปศรีราชาแล้วไปนั่งกินเบียร์ต่อมาแล้ว) และผมก็ได้ตัดสินใจพยายามดึงตัวเองกลับมาด้วยบราซิลเลียนยูยิตสู ซึ่งมาถึงเดือนธันวาคม ปี 2021 นี่ผมก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากแล้วกับการลดน้ำหนักได้จนถึงต่ำสุดที่ 80.7 กก. คือแทบจะเท่ากับตอนที่เรียนจบจากญี่ปุ่นมาใหม่ๆ เลย อย่างน้อยก็มีรูปร่างใกล้เคียงตอนหนุ่ม ส่วนความแข็งแรงก็ต้องฝึกกันต่อไป
หันกลับมาที่เฮียก๊อบ เพื่อนที่อยู่เป็นเพื่อนผมมายาวนานตลอดยี่สิบกว่าปี หลังจากที่ต้องฟันฝ่ากับปัญหาสุขภาพตามประสาคนวัยสี่สิบอัพ ในเดือนธันวานี้พี่แกก็ตัดสินใจที่จะไปเรียนวิชาดาบที่สำนักมุไกริว กรุงเทพฯ ด้วยเหตุผลที่ว่า “มันใกล้บ้านดี” ซึ่งการเรียนดาบอิไอนั้น มันต้องมีอุปกรณ์ คือ “ดาบอิไอ” (อิไอโต 居合刀) เน้นย้ำว่าต้องใช้ดาบอิไอที่เมดอินเจแปน ที่เขาทำมาเพื่อฝึกชักดาบโดยเฉพาะ เช่นของยี่ห้อ TOZANDO (ดาบอิไอของผมก็เป็นยี่ห้อนี้) ห้ามเอาดาบซามูไรจากจีนแดงที่เขาเอาไว้เป็นเครื่องประดับวางหิ้งสวยๆ มาใช้ฝึกเป็นอันขาด (ผมเคยจับแล้ว สัดส่วนของด้ามจับก็ใช้ไม่ได้ ศูนย์ถ่วงน้ำหนัก ทดสอบเวลาฟันลมนี่ โคตรไม่ได้) ชุดคงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว (ใช้ชุดเคนโด้ได้) สายโอบิคาดเอวใช้สอดเหน็บดาบแกก็มีอยู่แล้ว ที่เหลือคือสนับเข่า
ประเด็นก็คือดาบแหละครับ พูดถึงดาบอิไอ แกมีสองเล่ม เล่มหนึ่งได้รับมอบมาจากอาจารย์โอคาดะ อีกเล่มหนึ่งเป็นดาบของผมเองแหละแต่ยกให้เฮียไปแล้ว ซึ่งสภาพก็เก่าโทรมไปตามเวลา ทีแรกก็คิดว่าจะใช้ดีไหม ใช้อันไหนดี
ดาบสองเล่มนี้ อันที่ประกับดาบเป็นลายดอกเบญจมาศนั่นน่ะ ดาบของผมเอง ส่วนอีกอันก็มาจากอาจารย์โอคาดะ
ซึ่งเมื่อดูแล้ว หากคิดถึงสภาพการใช้งาน (คือฟันแล้วไม่กลายเป็นดาบบิน แบบว่า คมดาบหลุดจากด้าม) ละก็ ของผมยังน่าจะใช้งานได้มากกว่า แต่ว่าด้วยสภาพที่เก่าโทรมไม่สวยงาม เฮียแกก็เลยจัดการถอดชิ้นส่วนดาบซะ
นี่คือดาบที่ถูกถอดแยกชิ้นส่วนแล้ว มีใบดาบ ประกับดาบ (ทสึบะ 鍔) ด้ามดาบ (ทสึกะ 柄) และก็แหวนรองประกับดาบกับด้ามดาบ
อันนี้เป็นชุดเครื่องมือใช้ถอดชิ้นส่วนดาบ ไม่รู้แกไปหามาจากไหน
ประกับดาบสภาพโทรม สีที่ทาไว้หลุดลอก
หัวด้ามดาบ (ทสึกะกาชิระ 柄頭) เชียวเลย (ต้องขัด)
รูปแมลงปอในด้ามดาบ เป็นทองเหลือง สภาพเขียวปี๋เช่นกัน
แมลงปอทองเหลือข้างในก็ขัดเท่าที่ทำได้
อะไหล่ที่ซ่อมให้ดูดีแล้ว ประกับดาบพ่นสีใหม่ หัวด้ามดาบขัดใหม่
อันนี้คือน้ำมันทาดาบ ใช้ทาใบดาบนะครับ อันนี้ก็ของผมอีกละ ซึ่งยกให้เฮียพร้อมกับดาบ ไม่น่าเชื่อว่ายังข้ามกาลเวลามาได้ตั้งสิบกว่าปีแน่ะ
เพียงเท่านี้ก็มีดาบที่ (เกือบๆ จะ) เหมือนใหม่ เอาไปใช้เรียนได้แล้ว (อย่างน้อยก็อีกระยะหนึ่ง)
สำหรับตัวผมผมดีใจมากที่ดาบของผมได้คืนชีพอีกครั้งเพื่อให้เพื่อนผมได้ทำตามฝันอีกครั้งหนึ่ง (ตอนนี้พี่แกตั้งชื่อให้แล้วว่า “ดาบแมลงปอเขียว”)
ไม่มีอะไรน่าดีใจมากกว่านี้อีกแล้ว
ตัวผมเองก็ยังทำตามความฝันอยู่ ถึงผมไม่มีดาบและก็ไม่นึกจะจับดาบอีก อย่างน้อยผมก็มีร่างกาย ผมก็พยายามวิดพื้นบ้าง ฝึกดึงเส้นยางบ้าง เท่าที่เวลาจะมี อย่างน้อยก็ให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น
ผมดีใจที่ตัวเองยังมีโอกาสทำตามความฝัน และเห็นตัวเองพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ตามทางตัวเอง และผมก็ดีใจที่เพื่อนผมได้กลับมาทำตามความฝัน ชีวิตคนเราไม่ยืนยาวสักเท่าไหร่หรอก ในเมื่อมาถึงวัยกลางคนแล้ว อยากทำอะไร “ให้ลงมือทำเลย”
อาทิตย์หน้าเราจะมาอ่าน “คำภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิกันแบบ แกะจากภาษาญี่ปุ่นกันคำต่อคำ ประโยคต่อประโยค กันไปเลยนะครับ ขอท่านผู้อ่านเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับผม
เรื่องแนะนำ :
– Free Talk ต้อนรับปีใหม่ 2565 จากใจคน Gen X ที่โตมากับยุค JAPAN BOOM!!!
– เซนกับบราซิลเลียนยูยิตสู (12) ถึงทุกสิ่งล้วนเป็น “อนิจจัง” (มุโจ 無常) ก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป
– เซนกับบราซิลเลียนยูยิตสู (11) ฝึกวิชาต่อสู้เพื่อ “ชีวิต” ฝึกสมาธิจิตเพื่อ “เตรียมตัวตาย”
– เซนกับบราซิลเลียนยูยิตสู (10) “พลังลมปราณ” 気 (คิ) กับการจัดการกับความกลัว
– เซนกับบราซิลเลียนยูยิตสู (9) ว่าด้วยการฝึกฝน “กระบวนท่า” 形 (คาตะ) และการดำรงกายใจให้มั่นในโลกที่บูดๆ เบี้ยวๆ
#ตามหาวิชาดาบอิไอ (ตอนพิเศษ) เพื่อนของผม ดาบของผม และการไล่ตามความฝันในวิชาดาบอีกครั้งของเพื่อนผมในวัย 45 ปี!!!