กองทัพคันโต (6) : สู่เมืองฮาร์บิน
นับตั้งแต่เหตุการณ์ทะเลสาบริวโจโคะที่มีการวางระเบิดรางรถไฟ เรื่อยจนไปถึงการที่กองทัพคันโตเข้าไปควบคุมเมือง Mukden และ หัวเมืองหลักตามเส้นทางรถไฟสาย South manchuria เหตุการณ์เหล่านี้นับได้ว่าเป็นเหตุการณ์ปฏิวัติแมนจูเรียในมุมมองของญี่ปุ่น
ในภาษาญี่ปุ่นเรียกเหตุการณ์นี้ว่า มันชูจิเฮง (満州事変)
คำว่า มังชู (満州) หมายถึง แมนจูเรีย
จิเฮง (事変) หมายถึงเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงสำคัญขนาดใหญ่ ซึ่งใน ณ ที่นี้ของใช้คำว่าปฏิวัติ
ผู้พันโดะฮิฮะระ เคนจิ (土肥原賢二大佐) ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการของหน่วยปฏิบัติการพิเศษในเมือง Mukden ได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการผู้ว่าเมือง
ผู้เป็นลูกน้องของโดะอิฮะระ อดีตกัปตัน (元大尉) อะมะคะสุ มะสะฮิโคะ (甘粕正彦) ผู้อำนวยการหน่วยปฏิบัติการพิเศษภาคเอกชน ได้สร้างสถานการณ์ปาระเบิดในเมือง Mukden หลายแห่ง เพื่อจะได้เอาเป็นเหตุผลในการส่งทหารไปยังเมืองฮาร์บิน ในวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 1931 (พ.ศ. 2474) กองทัพคันโตได้แสดงความประสงค์ว่าอยากส่งกองกำลังทหารไปยังเมืองฮาร์บินเพื่อเป็นการปกป้องผู้อยู่อาศัย แต่กองทัพบกกลางของญี่ปุ่นไม่อนุมัติ
เมืองฮาร์บิน เป็นเมืองเกิดใหม่ในจีนทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีอาหารให้กินอิ่ม มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เป็นเมืองที่ถูกสร้างโดยรัสเซียในปี ค.ศ. 1898 ซึ่งเรายังคงเห็นโบสถ์สไตล์รัสเซียที่หลังคาทรงหัวหอมตั้งตระหง่านในใจกลางเมืองได้ในปัจจุบัน
ภาพบรรยายกาศในเมืองฮาร์บิน สังเกตได้ว่าป้ายร้านมีตัวอักษรซีริลลิก (ที่ใช้ในภาษารัสเซีย) อยู่ด้วย
แม้นกองทัพคันโตจะเริ่มต้นสงครามจากการจู่โจมแบบฉับพลัน แต่จางเสฺวเหลียง มีขุมกำลังอยู่เหนือกว่ามาก ด้วยเหตุนี้กองทัพคันโตยื่นเรื่องขอกองกำลังสนับสนุนจากกองทัพญี่ปุ่นที่ประจำอยู่ที่โจเซน (เกาหลี)
ผู้บัญชาการกองทัพโจเซน ที่มีนามว่า ฮะยะชิ เซนจูโร่ (林銑十郎) ได้ตัดสินใจเองเพียงคนเดียวที่จะส่งกองกำลังสนับสนุนข้ามแนวชายแดน โดยหลักการแล้วการจะส่งทหารออกไปนอกอาณาจักรจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิญี่ปุ่น แต่ทว่าฮะยะชิกลับไม่ปรึกษาทั้งรัฐบาลและกองทัพบกกลาง และส่งกองทหารข้ามเส้นแบ่งชายแดนออกไป นายกรัฐมนตรี ณ เวลานั้นวะคะซึคิ เรจิโร่ (若槻禮次郎) คัดค้านกับการส่งกำลังทหารออกไป แต่ก็ต้องมาอนุมัติภายหลังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เหตุการณ์ปฏิวัติแมนจูเรียนับว่าเป็นตัวอย่างแรกในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลหรือกองทัพบกกลางอนุมัติให้กับกองทัพ ณ สมรภูมิรบ หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว กองทัพคันโตหลังจากที่ได้รับกองกำลังสนับสนุนจากกองทัพโจเซน ก็ขยายแนวรอบออกไปให้ใหญ่มากขึ้น และในที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1932 ก็เข้าไปควบคุมเมืองฮาร์บิน เพราะเหตุนี้กองทัพคันโตก็ควบคุมทุกพื้นที่ของแมนจูเรียได้ทั้งหมด
ทักทายพูดคุยกับวสุ ได้ที่ >>> Facebook Wasu’s thought on Japan
เรื่องแนะนำ :
– กองทัพคันโต (5) : บุกรุกเมือง Mukden
– กองทัพคันโต (4) ระเบิดสร้างสถานการณ์สู่ปฏิวัติแมนจูเรีย
– กองทัพคันโต (3) การวางระเบิดสังหาร จางจั้วหลิน
– กองทัพคันโต (2) : ความร่วมมือกับผู้นำจีน ก่อนการลอบสังหาร
– กองทัพคันโต (1) กองทัพกวางตุ้งของญี่ปุ่น
อ้างอิง
– https://rinto.life/94085/2
– http://beforeww2photographs.seesaa.net
– http://j-strategy.com
#กองทัพคันโต (6) : สู่เมืองฮาร์บิน