ในที่สุด Hanzawa Naoki ละครญี่ปุ่นเรตติ้งดีก็ได้ถูกนำมาฉายที่ประเทศไทยแล้วค่ะ เป็นละครที่ได้เรตติ้งในตอนสุดท้ายถึง 42.2% ถือว่าเป็นเรตติ้งที่สูงที่สุดในวงการละครญี่ปุ่น เพราะเหตุใด ละครเรื่องนี้ถึงได้ฮอตฮิตในญี่ปุ่น วันนี้จะมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ในที่สุด Hanzawa Naoki ละครญี่ปุ่นเรตติ้งดีก็ได้ถูกนำมาฉายที่ประเทศไทยแล้วค่ะ เป็นละครที่ได้เรตติ้งในตอนสุดท้ายถึง 42.2% ถือว่าเป็นเรตติ้งที่สูงที่สุดในวงการละครญี่ปุ่น เพราะเหตุใด ละครเรื่องนี้ถึงได้ฮอตฮิตในญี่ปุ่น วันนี้จะมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ก่อนที่จะไปดูว่าทำไมละครเรื่อง Hanzawa Naoki ถึงกวาดเรตติ้งได้อย่างถล่มทลายนั้น ขอเล่าถึงเนื้อเรื่องคร่าวๆ ของละครเรื่องนี้ก่อนค่ะ
Hanzawa Naoki เป็นละครที่สร้างมาจากนวนิยายของ “Ikeido Jun” อดีตนายธนาคารที่ผันตัวมาเป็นนักเขียน สำหรับเรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของนายธนาคาร Hanzawa Naoki หัวหน้าแผนกสินเชื่อ ถูกผู้จัดการสาขาบังคับให้ปล่อยเงินกู้จำนวน 500 ล้านเยนให้กับบริษัทเหล็กนิชิโอซาก้า ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และหลังจากนั้นอีกไม่นาน บริษัทนั้นก็ล้มละลายพร้อมกับเงิน 500 ล้านเยนที่สูญหายไป แม้เรื่องนี้จะเป็นคำสั่งที่ออกมาจากผู้จัดการสาขา แต่ทุกคนกลับโยนความรับผิดชอบให้ Hanzawa มารับความผิดแต่เพียงผู้เดียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Hanzawa นิ่งเฉยไม่ได้ ต้องหาเงิน 500 ล้านเยนคืนมา แล้วเอาคืนคนที่ทำร้ายเขาเป็น “2 เท่า!!!”
ละคร Hanzawa Naoki เป็นละครที่ได้เรตติ้งตอนสุดท้ายสูงที่สุดค่ะ แต่ถ้าเป็นเรตติ้งเฉลี่ยรวมทั้งเรื่องเนี่ยอยู่ที่ 29% อยู่ที่อันดับ 6 ส่วนละครญี่ปุ่นที่มีเรตติ้งเฉลี่ยรวมสูงสุดก็คือเรื่อง HERO ค่ะ แต่ถึงอย่างนั้น Hanzawa Naoki ก็ถือว่าเป็นละครที่มีเรตติ้งสูงขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนจบ และคว้าเรตติ้งตอนสุดท้ายได้มากที่สุดถึง 42.2% และไม่ใช่แค่มีเรตติ้งที่สวยงามอย่างเดียวนะคะ ละครเรื่องนี้กวาดรางวัลที่การันตีถึงคุณภาพมามากมายเลยค่ะ ทั้งละครยอดเยี่มแห่งปี นักแสดงนำยอดเยี่มแห่งปี นักแสดงสมทบยอดเยี่ยมแห่งปี ผู้กำกับยอดเยี่มแห่งปี เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ คราวนี้มาดูกันค่ะว่า เพราะเหตุใดละคร Hanzawa Naoki ถึงได้รับความนิยมจากคนดูอย่างมากมาย และประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นอย่างสูง
1. เรื่องราวเข้าถึงใจมนุษย์เงินเดือน
แม้ว่าละครเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของ “นายธนาคาร” มีเรื่องของเงินๆ ทองๆ แต่จริงๆ แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นในละครก็จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับมนุษย์เงินเดือนทั่วๆ ไปด้วยค่ะ เพียงแค่เรื่องนี้ขอเล่าเรื่องราวของมนุษย์เงินเดือนผ่านนายธนาคารคนหนึ่ง ในเรื่องนี้เราก็จะเห็นชีวิตของมนุษย์เงินเดือน (ที่เป็นนายธนาคาร) ในองค์กรใหญ่ๆ ใส่สูท ผูกไทเป๊ะๆ แบบ Japan Salaryman การประชุมที่ดุเดือด ฟาดฟันกันตลอดเวลา หรือเรื่องอำนาจของคนที่มีตำแหน่งสูงกว่ากับชั้นผู้น้อยคนธรรมดาๆ ความยุติธรรมและความอยุติธรรมในองค์กร ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่มีลูกน้องคนไหนกล้าออกมาพูดอย่างตรงไปตรงมาแน่ๆ แต่กลับถูก Hanzawa Naoki ออกมาเป็นฝ่ายพูดแทนมนุษย์เงินเดือนทุกคน พร้อมแสดงตัวอย่างให้เห็นว่ามนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ เนี่ย จริงๆ แล้วเราควรทำงานด้วยอุดมการณ์แบบไหน ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ละครเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในใจของมนุษย์เงินเดือนทุกคนค่ะ
2. พล็อตหักมุมเหนือความคาดหมาย
ความสนุกของเรื่องนี้ที่ทำให้คนดูญี่ปุ่นติดหนึบกันมาแล้วเนี่ย น่าจะเป็น “ความหักมุม” เนี่ยแหละค่ะ ในช่วงตอนท้ายๆ ของแต่ละตอน มักจะเป็นเรื่องราวเหนือความคาดหมาย และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ในละคร บางทีดูๆ ไปก็รู้สึกว่า Hanzawa ต้องแพ้ราบคาบแน่ๆ แต่กลับโชว์เหนือขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ หรือบางทีเรื่องราวก็เลวร้ายลงในชนิดที่ว่าคาดไม่ถึงเช่นกันค่ะ ด้วยความที่มันเดาไม่ได้ คาดไม่ถึง และไม่เคยมีละครที่มีเรื่องราวแบบนี้มาก่อน เลยทำให้คนดูหลายคนติดละครเรื่องนี้กันค่ะ
3. ละครแนวอาชีพผสมแนวสืบสวนสอบสวน
ความน่าสนใจของละครเรื่องนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การนำละครแนวอาชีพมาผสมผสานกับความเป็นละครสืบสวนสอบสวน ในเรื่องนี้ก็จะมีเรื่องราวสืบค้นถึงที่มาที่ไปของเงิน 500 ล้านที่หายไป Hanzawa Naoki เองก็ต้องคอยสืบจากหลักฐานต่างๆ เพื่อโยงเข้าไปถึงตัวคนที่เชิดเงินไป และหาเงินที่หายไปคืนมาให้ได้ รวมถึงเรื่องราวความไม่ชอบมาพากลของบริษัท เลยทำให้ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ละครแนวอาชีพธรรมดาที่บอกเล่าถึงชีวิตนายธนาคารเฉยๆ ว่าต้องทำอะไร พบเจออุปสรรคอะไรบ้าง แต่ยังมีเรื่องราวปริศนาที่รอให้เราสืบค้นไปพร้อมๆ กันกับ Hanzawa Naoki
4. วลีเด็ด “จะเอาคืนเป็น 2 เท่า”
ทันทีที่ละครเรื่องนี้ฉายไป วลีที่ติดหูคนดูหลายๆ คนก็คือ…
やられたら、やり返す!倍返しだ!
yararetara yarikaesu! baigaeshida!
“ถ้าใครทำร้ายฉันล่ะก็…ฉันจะเอาคืนมันเป็น 2 เท่า!”
ที่มาของวลีนี้ก็คือ Hanzawa เขาถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ธนาคารสูญเสียเงิน 500 ล้านเยนไป ซึ่งความจริงก็คือ เขาแค่ทำตามคำสั่งหัวหน้าเท่านั้น ต้นตอของปัญหาจริงๆ ก็คือหัวหน้าต่างหาก แต่ไปไปมามาทำไมเขาต้องมารับผิดชอบคนเดียวล่ะ? มันช่างดูไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
Hanzawa ก็เลยประกาศกร้าวว่า “ใครทำร้ายฉันล่ะก็…ฉันจะเอาคืนมันเป็น 2 เท่า!” เป็นประโยคที่ Hanzawa พูดอยู่บ่อยๆ แล้วน้ำเสียงของคำนี้มันได้อารมณ์มากค่ะ ได้ยินแล้วเกิดความฮึกเหิมอยากต่อสู้ขึ้นมา ถ้าให้เทียบให้เห็นภาพก็อารมณ์แบบคำว่า “สตรอง!!!” ของเมนเทอร์ลูกเกด ในรายการ The Face Thailand นั่นแหละค่ะ พอวลีนี้มันกลายเป็นวลีเด็ดขึ้นมา ก็ทำให้คนเริ่มสนใจค่ะว่า มันมาจากเรื่องอะไรเหรอ แล้วทำไมตัวละครถึงพูดแบบนี้ เลยทำให้เกิดเป็นกระแสได้รับความสนใจค่ะ
5. นักแสดงคุณภาพ
พอกวาดสายตามองไปที่นักแสดง ขอบอกว่านักแสดงแต่ละคนฝีมือปังๆ ทั้งนั้นค่ะ เรียกได้ว่าอยู่ในระดับท็อปของวงการละครญี่ปุ่น โดยเฉพาะนักแสดงที่รับบทเป็น Hanzawa Naoki อย่าง “Sakai Masato” นี่ ฝีมือไม่ธรรมดาค่ะ มีผลงานทางการแสดงมาแล้วหลายเรื่อง และอยู่ในวงการมาหลายสิบปี
และขอบอกว่าสำหรับบทนี้ Sakai ตีบทแตกกระจุยกระจาย ทั้งแววตา สีหน้า อารมณ์ ความรู้สึก ถ่ายทอดออกมาอย่างเต็มเปี่ยม รวมไปถึง “น้ำเสียง” ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของเขา ถ้าโกรธก็จะเสียงแบบดังสะใจมีจังหวะ มันทำให้คนดูอิน เข้าถึงอารมณ์ขณะนั้นจริงๆ คงไม่มีนักแสดงคนไหนที่จะมารับบท Hanzawa ได้ดีเท่าเขาอีกแล้วค่ะ เรียกได้ว่าเอาอยู่จริงๆ
มาที่บทเพื่อนสนิทของ Hanzawa อย่าง “Kondo Naosuke” (รับบทโดย “Takito Kenichi” : คนซ้าย) และ “Tomari Shinobu” (รับบทโดย Oikawa Mitsuhiro : คนขวา สวมแว่น) สองสหายคนสนิทของ Hanzawa Naoki ที่คอยอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่เขาเสมอมา
คนแรก Kondo จะเป็นคนที่มีปมนิดนึงค่ะ จากสภาวะความเครียดในการทำงาน ทำให้เขามีปัญหาทางจิต แต่ก็ได้รับการรักษาให้ดีขึ้น แต่ถ้าเขาไปเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เครียดมากๆ อีกก็มีสิทธิทำให้อาการป่วยกลับมาอีกครั้งได้ เป็นคนที่แสดงออกมาได้ดีอีกคนหนึ่งค่ะ ดูแล้วสัมผัสถึงอาการป่วยของเขาจริงๆ ปนกับความรู้สึกสงสาร เห็นใจไปตามๆ กัน ใครบอกว่างานไม่ทำให้คนบ้า ไม่จริงเลยนะคะ!
ส่วนเพื่อนคนที่สองอย่าง Tomari ก็จะเป็นหนุ่มฉลาด มีไหวพริบ แอบคอยช่วยเหลือ Hanzawa อย่างลับๆ ถ้าใครติดตามดูละครญี่ปุ่นมาเรื่อยๆ คงจะคุ้นหน้าคนนี้ในบท “ตัวร้าย” ค่ะ สำหรับเรื่องนี้ก็จะฉีกภาพเดิมๆ ที่เขาเคยมีมา แต่จะเป็นคนดีอย่างที่เห็นหรือเปล่า ต้องติดตามต่อไปเรื่อยๆ ในเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ
“Asano Tadasu” (รับบทโดย Ishimaru Kanji ) ผู้จัดการสาขา ผู้มีคำสั่งให้ Hanzawa ปล่อยสินเชื่อจำนวน 500 ล้านเยน แต่เมื่อบริษัทที่กู้เงินไปล้มละลาย ก็กลับโยนความผิดนี้ให้กับ Hanzawa แบบเต็มๆ สงครามระหว่างเขากับ Hanzawa ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
“Akira Owada” (รับบทโดย Kagawa Teruyuki) อีกหนึ่งตัวละครที่มาเฉือดเชือนปะทะอารมณ์กับพระเอกได้อย่างถึงพริกถึงขิง ดูเผินๆ ดูเหมือนเป็นคนไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่จริงๆ เป็นคนที่ร้ายกว่าที่คิด!
“Shunichi Kurosaki” (รับบทโดย Ainosuke Kataoka) อีกหนึ่งคู่กัดของ Hanzawa เป็นคนของสรรพากรที่ชอบเข้ามาตรวจค้น และพยายามยัดเยียดความผิดให้ Hanzawa แค่ตามหาเงินว่ายากแล้ว ยังมีเจ้านี้มาป้วนเปี้ยนกวนใจเพิ่มอุปสรรคไปอีก ทำให้ Hanzawa ก็ต้องชิงไหวชิงพริบเอาตัวรอดให้ได้ค่ะ
“Hanzawa Hana” (รับบทโดย Aya Ueto) หรือภรรยาของ Hanzawa Naoki ที่คอยสนับสนุนสามีมาโดยตลอด แต่เธอก็จะมีภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากแม่บ้านญี่ปุ่นทั่วไปที่เราเคยรู้จักค่ะ ถือว่าเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับแม่บ้านในยุคปัจจุบันคนหนึ่ง
มาถึงขวัญใจสาวน้อย สาวใหญ่อย่าง “Yuto Nakajima” จากวง Hey! Say! JUMP มารับบทเป็น “Nakanishi Eiji” เป็นลูกน้องของ Hanzawa Naoki ที่คอยตามติดและสนับสนุนลูกพี่ของเขา
6. ช่วงเวลาการฉาย
ละครเรื่องนี้ฉายในญี่ปุ่นเวลา 3 ทุ่มของวันอาทิตย์ค่ะ แม้จะไม่ใช่เวลาทองอย่างเวลา “Gatsu9” (วันจันทร์เวลา 3 ทุ่ม ช่องฟูจิทีวี) แต่ถือว่าเป็นช่วงเวลาทองของสถานีโทรทัศน์ TBS ค่ะ เป็นช่วงเวลาที่คนในครอบครัวอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา พร้อมใจกันดูละครทีวีกันมากที่สุด ทำให้ละครเรื่องนี้เข้าถึงคนดูหลายๆ คน
7. ข้อคิดสะกิดใจ
ข้อที่น่าสังเกตและเป็นประเด็นที่น่าสนใจในละครเรื่องนี้ก็คือ ละครเรื่องนี้ไม่มีพระเอก-นางเอก มีเพียง “ตัวละครเอก” อย่าง Hanzawa Naoki ไม่มีพล็อตเรื่องรักกุ๊กกิ๊ก แม้จะมีโมเม้นต์น่ารักๆ ระหว่าง Hanzawa กับภรรยาบ้าง แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นพล็อตหลัก เป็นเพียงองค์ประกอบเล็กๆ เท่านั้น นอกนั้นก็จะเล่าถึงชีวิตของนายธนาคารคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้กับความอยุติธรรมในองค์กร และต้องค้นหาเงิน 500 ล้านเยนกลับคืนมาให้ได้
แม้เนื้อเรื่องจะค่อนข้างไปทางแนวตึงเครียด แต่กลับเป็นละครที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น ส่วนตัวมองว่าละครเรื่องนี้เป็นละครแบบ Trendy Drama ซึ่งเป็นแนวละครญี่ปุ่นในปัจจุบันที่มุ่งเน้นนำเสนอเรื่องราวที่อิงกับชีวิตจริง พอเราเครียดจากงานแล้วกลับมาดูละครแบบนี้มันทำให้เรารู้สึกอินค่ะ ประมาณว่า “ดูฉากนี้สิ เหมือนชีวิตเราเลย” บางทีเวลาเรามีปัญหาเรื่องการทำงาน พอมาดูละครแนวนี้ก็จะได้แนวทางการแก้ปัญหาไปในตัวค่ะ คำพูดต่างๆ ในละคร ล้วนเป็นคำพูดที่นำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้ ได้ข้อคิดในการทำงาน และการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น
“ถ้ามนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ดีแต่ตอบว่าใช่ตลอดล่ะก็งานที่เราทำก็เป็นแค่เครื่องจักรธรรมดา”
โอวาดะ: “ท่านประธานคิดว่ายังไงครับ เขามีค่ามากกว่า 500 ล้านหรอครับ”
ท่านประธาน: “โอวาดะ คุณค่าของคนน่ะเอาเงินมาวัดไม่ได้หรอกนะ นั่นคือสิ่งที่ฉันเชื่อในฐานะนายธนาคารที่มีพลังความสามารถเคลื่อนย้ายเงินจำนวนมหาศาลได้ ถ้าเรารู้สึกเอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง พลังนั้นสามารถที่จะสร้างหรือทำลายชีวิตคนได้ นั่นแหละคือเหตุผลหลักที่ทำไมนายธนาคารจะต้องมองที่ผู้คนไม่ใช่ตัวเงิน”
ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจเช่นกันค่ะว่า เป็นละครที่ไม่ได้มีเนื้อหาที่ชวนพาให้หลีกหนีความเครียด เป็นเรื่องที่พาคนดูพุ่งเข้าสู่ความจริง (ที่แสนโหดร้าย) ด้วยซ้ำ แต่กลับทำให้คนดูรู้สึกชอบ และอยากจะติดตาม จะว่าไปการเผชิญความจริงผ่านละครก็คงเป็นอีกทางออกหนึ่งของชีวิตมนุษย์ก็เป็นได้ค่ะ
นี่ก็คือเหตุผลคร่าวๆ ที่ว่าทำไมละครเรื่อง Hanzawa Naoki ถึงได้รับความนิยมอย่างสูงในญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้ทั้งนี้เหตุผลของแต่ละคนที่ดูเรื่องนี้อาจจะแตกต่างกันออกไปค่ะ นี่เป็นเพียงความคิดเห็นของเราเองเท่านั้น
ถ้าอยากจะรู้ว่าละครเรื่องนี้มันสนุกขนาดไหน ทำไมถึงได้รับความนิยมขนาดนั้น เชิญลงไปสัมผัสด้วยตัวเองดูที่ทางช่อง ThaiPBS ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 – 21.10 น. ค่ะ ขอรับประกันถึงความสนุก และคุณภาพเลยค่ะ ^^
เรื่องแนะนำ :
– รวมคำคมเติมพลังชีวิตจากละครญี่ปุ่นปี 2015
– 6 ศิลปินญี่ปุ่นที่ร้องเพราะ! เต้นเป๊ะ!
– ทำไมศิลปินญี่ปุ่นเต้นไม่เป๊ะ!?
– รีวิว Tamiou พ่อลูกสลับร่างร่วมกันสร้างประเทศญี่ปุ่น
– 6 ศิลปินกลุ่มญี่ปุ่นคุณภาพที่ตัดสินใจยุบวง
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก
สถานีโทรทัศน์ ThaiPBS
http://koalasplayground.com/2013/10/06/japan-has-its-highest-rated-dorama-in-a-decade-with-hanzawa-naoki/
http://nani-kani.blogspot.com/2014/02/drama-review-hanzawa-naoki-2013.html
http://zdoramaagain.blogspot.com/2013/08/shades-of-joker-in-new-sakai-masato.html
http://blogs.wsj.com/scene/tag/hanzawa-naoki/
http://wiki.d-addicts.com/Hanzawa_Naoki