ตามเจ๊.. ไปเจแปนตอนนี้ จะชวนคุณผู้อ่านไปพักโฮมสเตย์กับครอบครัวคนญี่ปุ่นกันนะคะ แต่ก่อนจะเข้าบ้าน เจ๊จะขอปฐมนิเทศ สร้างความเข้าใจที่ตรงกัน พอหอมปากหอมคอก่อนจ้ะ : ))

ตามเจ๊.. ไปเจแปนตอนนี้ จะชวนคุณผู้อ่านไปพักโฮมสเตย์กับครอบครัวคนญี่ปุ่นกันนะคะ แต่ก่อนจะเข้าบ้าน เจ๊จะขอปฐมนิเทศ สร้างความเข้าใจที่ตรงกัน พอหอมปากหอมคอก่อนจ้ะ : ))
แม้ว่าเราจะต้องชำระเงินเพื่อที่จะเข้าพักแบบ Homestay กับครอบครัวญี่ปุ่น แต่เข้าใจตรงกันนี้ดดดด.. ว่าเราไม่ใช่แขกที่เข้าพักในโรงแรมนะคะ อย่าคาดหวังที่จะได้รับการบริการแบบพนักงานดูแลลูกค้าห้องพัก สิ่งที่เราจะได้รับคือประสบการณ์ และเรียนรู้วิถีการใช้ชีวิตแบบครอบครัวชาวญี่ปุ่นเสมือนกับเป็นสมาชิกคนหนึ่งในบ้าน ครอบครัวมีวิถีชีวิตยังไง เราก็ใช้ชีวิตแบบเดียวกับเค้านั่นล่ะค่ะ

การคัดเลือกครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่จะเป็นโฮสต์ให้กับเรานั้น สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ความร่ำรวยหรือบ้านที่ใหญ่โต แต่อยู่ที่ครอบครัวมีความสนใจวัฒนธรรมต่างชาติ มีใจที่เปิดกว้าง เต็มใจที่จะแนะนำคนต่างชาติให้ได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ประกอบกับเงื่อนไขบางอย่างของเรา ซึ่งจะมีแบบสอบถามให้เรากรอกเวลาสมัครพักโฮมสเตย์ค่ะ


อยู่โฮมสเตย์ได้อย่างมีความสุข เริ่มตั้งแต่การกรอกใบสมัคร
ในใบสมัครจะมีแบบสอบถามที่ซักถามอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวเรา “อย่าตอบว่า อะไรก็ได้ หรือไม่มีเงื่อนไขใดๆ” เริ่มต้นขอให้นึกและเขียนสิ่งที่เป็นความไม่ชอบของตนเองลงไปให้หมดค่ะ เช่น ไม่อยากได้บ้านที่มีเด็กเล็กๆ สุนัข แมว ไม่ชอบทานอะไรก็ใส่ลงไป อย่าเขียนว่าไม่มี ทานได้ทุกอย่าง หลังจากเขียนเสร็จทุกข้อแล้วก็ลองอ่านดูอีกครั้งด้วยนะคะว่า ถ้าเงื่อนไขเยอะมาก แนะนำให้เปลี่ยนไปอยู่ที่พักแบบอื่นจะเหมาะกว่าค่ะ เพราะคนที่เหมาะการจะอยู่โฮมสเตย์คือ คนที่พร้อมจะปรับตัวกับทุกสถานการณ์ กินง่าย อยู่ง่าย ไม่คิดมาก ไม่เยอะ

“อย่าลืมเตรียมอะไรเล็กๆ น้อยๆ ไปจากเมืองไทย” พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่า จะต้องเตรียมของฝากใหญ่โตอะไรไปนะคะ แต่คนญี่ปุ่นเป็นชาติที่ให้ความสำคัญกับของฝาก โดยเฉพาะเมื่อไปบ้านคนอื่น เราจึงควรเตรียมขนมหรือของที่ระลึกที่แสดงความเป็นไทยไปด้วย เพื่อเป็นการฝากเนื้อฝากตัวค่ะ ไม่จำเป็นต้องซื้อของฝากที่มีราคาแพงนะคะ เพราะจะทำให้ครอบครัวรู้สึกเกรงใจค่ะ
นอกจากนี้ พกรูปภาพหรือสิ่งของกระจุกกระจิกไปด้วย อย่างเช่น ภาพถ่ายของครอบครัวเราในเมืองไทย, ภาพเมืองไทย หรือของเล็กๆ น้อยๆ เป็นเครื่องปรุงอาหารสำเร็จรูป สิ่งเหล่านี้เป็นสื่อกลางในการสนทนาและทำกิจกรรมกับครอบครัวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีเชียว และทำให้มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้นด้วยล่ะค่ะ


การไปพักอยู่กับครอบครัวชาวญี่ปุ่นนั้น การสื่อสารโดยใช้ภาษาญี่ปุ่นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญนะคะ ดังนั้น เราจึงควรมีพื้นฐานความรู้ภาษาญี่ปุ่นไว้บ้าง ครอบครัวเจ้าบ้านมีความเข้าใจและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือคนต่างชาติในการเรียนรู้และการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องกังวลว่า เราพูดภาษาญี่ปุ่นไม่เก่ง พลอยจะไม่กล้าพูดกับครอบครัวไปนะคะ หากมีเรื่องที่ไม่เข้าใจหรือไม่ทราบว่าควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร ควรถามกับครอบครัวตรงๆ ค่ะ ทุกคนยินดีที่จะอธิบายให้เราเข้าใจและสามารถปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมค่ะ


ถ้าการได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวคนญี่ปุ่น ได้ทานอาหารร่วมกัน ช่วยกันทำงานบ้าน ได้พูดคุยและรับฟังเรื่องราวในแต่ละวันที่โรงเรียนหรือที่ทำงานของสมาชิกในครอบครัว เสมือนเราเป็นสมาชิกคนหนึ่ง.. คือสิ่งที่คุณผู้อ่านต้องการ “การพัก Homestay” คือคำตอบที่ถูกต้องค่ะ สุดท้ายแล้วสิ่งที่จะได้รับจากการพักแบบ Homestay คือการได้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ ได้ซึมซับและเข้าใจวิถีชีวิต วัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง รวมถึงการได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกันนั่นเองค่ะ
เปิดใจให้กว้าง เตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับครอบครัวใหม่ วิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่แตกต่างด้วยกันนะคะ ตอนหน้าเจ๊จะมาเล่าให้ฟังถึง ข้อควรระมัดระวัง อย่าไปเผลอทำที่บ้านโฮสต์ค่ะ : )))
พบปะ “เจ๊เอ๊ด” และ #ทีมเจ๊เอ๊ด ได้ที่ >>> www.facebook.com/jeducationfan
ข้อมูลเรียนต่อญี่ปุ่น-เรียนภาษาญี่ปุ่น >>> www.jeducation.com