ไปถึงร้านภาพเดิมๆ ก็ย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ ร้านที่เป็นที่แรกที่ผมเริ่มต้น ตีหัวคนครั้งแรกก็ที่นี่ นอนมาเกือบจะทุกพื้นที่ในร้าน ทั้งห้องครัว ใต้เคาน์เตอร์ หน้าร้าน นอกร้าน ที่จอดรถ ใช้เป็นที่ซุกหัวนอนมาหมดแล้ว
ภาพโดย : อ.วิโรจน์ สายดนตรี
ใจผมนึกถึงนาโกย่าแล้วครับในตอนนั้น เหตุผลเดิมๆ อยู่ที่ไหนนานๆ แล้วก็จะกลัว ไม่รู้จริงๆ ว่าที่กลัวนั้นมันคิดไปเองหรือว่ามันจะมีอะไรจริงๆ อย่างที่คิดไว้ เอาเป็นว่าเราทำอะไรเรารู้ดีที่สุด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นคงเป็นสัมผัสที่หกที่เราสัมผัสได้ว่าย้ายที่อยู่ดี กว่า
จริงๆ แล้วการทำงานกับนภาเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการที่จะทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง และเข้ามาอยู่ในระบบ เพื่อจะสามารถหาหนทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่ก็นั่นแหละความรู้สึกมันอยู่เหนือเหตุผลทุกครั้งของชีวิตผม รายได้ที่เกิดจากการทำงานกับนภายังไม่เห็นเลยครับ จะไปอีกแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะพูดกับเธอว่ายังไง กับทาโดะ ช่างมันเถอะ เพราะผมรู้สึกว่างานที่ทำกับมันใกล้ตารางเข้าไปทุกที แต่สุดท้ายก็ต้องรอว่า “ส้ม” เธอจะชวนผมหรือเปล่า
เย็นวันนั้นรีบปิดบริษัทให้นภา แล้วบอกเธอว่าจะไปหาพี่หงษ์ กลับดึกหน่อย ติดต่อให้ไดน่าไปส่งเหมือนเดิม เท่ากับว่าเธอไปด้วย ซึ่งเธอก็ยินดีและก็ชอบที่จะไปด้วยทุกครั้ง ไปถึงร้านภาพเดิมๆ ก็ย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ ร้านที่เป็นที่แรกที่ผมเริ่มต้น ตีหัวคนครั้งแรกก็ที่นี่ นอนมาเกือบจะทุกพื้นที่ในร้าน ทั้งห้องครัว ใต้เคาน์เตอร์ หน้าร้าน นอกร้าน ที่จอดรถ ใช้เป็นที่ซุกหัวนอนมาหมดแล้ว
ผมไปถึงพี่หงษ์นั่งอยู่กับส้มอยู่แล้ว คงนินทาผมอยู่ พนักงานคนเก่าๆ ก็ยังพอมีให้เห็นอยู่ มีคนหน้าใหม่ๆ เพิ่มเติมมาบ้าง วันนั้นทำอาหารไทยทานกัน ต่างคนต่างถามถึงความเป็นอยู่ซึ่งกันและกัน ไม่นานส้มก็เอ่ยปากชวนผมกลับไปทำงานอีก ผมก็บอกว่าอยากไป อยู่ในใจอยู่แล้ว ผมบอกพี่หงษ์กับส้มว่าอีก 2-3 เดือนผมอยากกลับเมืองไทย พี่หงษ์บอกว่าก็ไม่ยากอะไร แล้วถามว่าผมมีเงินเก็บแล้วหรือยัง ผมก็ตอบไปว่ามีแต่ไม่เยอะ ฝากไว้ที่ไดน่า ส่วนใหญ่เวลาหาเงินได้เป็นก้อนจะให้ไดน่าส่งไปเมืองไทยทันที ส้มจะพักอยู่ร้านพี่หงษ์อีก 2-3 วันเพื่อรอผม คืนนั้นก็คุยกันไปเรื่อยๆ แต่ใจผมคิดถึงนภาว่าจะพูดยังไงดี ส่วนไดน่าเธอคงชินแล้ว เพราะที่ผ่านมาผมก็ย้ายไปย้ายมาแบบนี้บ่อยๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมทำงานให้กับนภาเป็นปกติ พอแกมาถึงผมก็เข้าไปคุยกับเธอ เธอก็ไม่ว่าอะไรถามว่าคิดดีแล้วนะ ผมก็พยักหน้า เธอก็บอกว่าจะไปเบิกเงินค่าจ้างของผมให้รอตอนบ่าย ผมก็บอกไปว่าไม่เป็นไรไม่ต้องให้ผมก็ได้ แค่ได้ที่พัก ได้ประสบการณ์การทำงานก็ดีใจแล้ว แต่เธอก็ยังยืนยันว่าต้องรับเงินค่าจ้างจากเธอ
เธอก็เสียดายผมนะ ผมรู้สึกอย่างนั้น งานที่ทำเป็นผู้ช่วยไกด์นั้นไม่เท่าไหร่ แต่การที่ผมเป็นพ่อบ้านให้เธอด้วยนั้นเบาแรงเธอไปเยอะ ล้างถ้วยล้างจาน ถูกวาดบริษัท นภาดูจะพอใจกับเรื่องนี้
ช่วงบ่ายผมก็เก็บของแล้วก็ลา พนักงานทุกคนในนั้น ส่วนทาโดะ ก็ไม่มีอะไรมากมาเร็วไปเร็ว ไม่ได้ทันร่ำลากัน ไดน่ามารับแวะนอนบ้านไดน่าคืนหนึ่ง ไม่ได้คุยอะไรกันมาก ยังฝากของส่วนใหญ่ไว้ที่บ้านเธอ รวมทั้งเงินส่วนหนึ่งด้วย
ผมเดินทางไปนาโกย่ากับส้มกับเด็กคนไทยอีกคนที่ส้มขอให้พี่หงษ์หาให้ เอาไปช่วยงานที่ร้าน
ที่ร้านส้มเหมือนเดิมครับมีของขายมากกว่าเดิม หน้าร้านมีตู้ขายขนมต่างๆ มากขึ้น เธอเล่าให้ฟังหาเธอไปเรียนทำขนมมา ตั้งใจจะทำขนมขายเอง ผมก็เข้าพักห้องเดิมที่เคยอยู่ อย่างที่เคยบอกอยู่กับส้มค่อนข้างที่จะสบายเรื่องความเป็นอยู่ เธอค่อนข้างจะให้เกียรติ์ผมตลอดมา หน้าที่ผมก็เหมือนเดิมช่วยปิดเปิดร้านจัดของขายหน้าร้าน ร้านเธอดูสะอาดเรียบร้อย ในใจผมคิดว่าการกลับมาคราวนี้จะไม่ก่อเรื่องอีกเด็ดขาด
ช่วงกลางวันร้านเธอคนเยอะขึ้น ผมจำได้ว่าช่วงมื้อกลางวันเมนูข้าวหน้าปลาไหลของเธอขายหมดทุกวัน ผมกินไม่เป็นเลยครับ ผมผัดกะเพรากินเกือบทุกวัน ข้อดีของการอยู่ที่นี่ ได้ทำกับข้าวกินเองตามชอบใจ แล้วเครื่องปรุงอาหารไทย ร้านส้มมีเกือบทุกอย่าง
ส้มดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะการแต่งตัว การพูดจาดูดีเลยทีเดียว ไม่เหลือภาพที่เคยทำงานขายบริการที่ร้านพี่หงษ์เลย เธอทำชีวิตได้ดีจริงๆ โอกาสที่เธอได้รับจากพี่หงษ์และแฟนของเธอ เธอทำมันสำเร็จ แล้วเธอก็ได้นิสัยให้ความช่วยเหลือคนอื่นๆ มาจากพี่หงษ์ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับโอกาสนั้น แต่ผมต่างจากส้มตรงที่ผมใช้โอกาสที่ได้ไม่เป็นผลสำเร็จ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของนิสัยคน และกรรมของแต่ละคนที่มีที่มาที่ไปไม่เหมือนกัน
ร้านเธอมีพนักงานมากขึ้น เปิดขายตั้งแต่ 8โมงเช้า ถึงประมาณ 5 ทุ่ม จากร้านขายอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น แบบไทย อาหารจานด่วนตอนกลางวัน อาหารใส่กล่องกลับบ้านในตอนเย็น และจบด้วยขายเหล้าสาเกหน้าร้านตอนกลางคืน พนักงานที่ทำงานเกินเวลาที่กำหนดก็จะได้ค่าแรงล่วงเวลาเพิ่มเติม มีทั้งคนไทย – ลาว และญี่ปุ่น เธอได้กุ๊กคนไทยมาเพิ่มช่วงที่ผมออกไปคราวที่แล้วชื่อ “พี่วินัย”
พี่วินัยเป็นญาติเธอที่มาจากเมืองไทย ร้านปิดพี่วินัยจะนั่งทานเหล้านิดหน่อยก่อนเข้านอน พี่วินัยนิสัยดี ทำกับข้าวไทยเก่ง ร้านส้มลูกค้าเยอะมากโดยเฉพาะเวลาประมาณ 2-3 ทุ่ม คนมานั่งทานเหล้าสาเก โต๊ะเต็มทุกวัน เช้าๆ ผมตื่นเช้าออกไปตลาดจ่ายกับข้าวกับพี่วินัยทุกวัน บางครั้งส้มก็จะไปด้วยถ้าเธออยู่ เธอไม่ได้นอนที่ร้านเธอไปนอนกับแฟน แต่คราวนี้ผมยังไม่เห็นแฟนเธอเลย
ในชีวิตคนทุกคนต้นทุนในชีวิตไม่เท่ากัน แต่ผมเชื่อว่าในระหว่างที่ชีวิตดำเนินไปทุกคนจะได้รับโอกาสดีๆ เข้ามาเสมอ จะประสบความสำเร็จขนาดอยู่กับฝีมือของแต่ละคน บางคนก็จะคิดเลยไปว่าเป็นเรื่องของโชควาสนา ผมว่าโชควาสนาเป็นส่วนหนึ่ง การกระทำมากกว่าที่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตได้
ส้มเป็นตัวอย่างที่ดีมากสำหรับชีวิตที่เริ่มจากหญิงขายบริการในต่างแดน แล้วได้รับโอกาสที่ดีมีธุรกิจของตัวเอง แล้วคว้ามันเอาไว้ได้
อ่านญี่ปุ่นในมุมมืดทั้งหมด คลิ๊ก >>> ญี่ปุ่นในมุมมืด