คุณอาจเป็นแฟนพันธุ์แท้นักร้องญี่ปุ่น ที่บ้านมีตุ๊กตาบลายด์ครบทุกคอลเลคชั่น หรือคุณสอบผ่านภาษาญี่ปุ่นระดับ 1 ตั้งแต่อายุ 17 ขวบ ที่บ้านคุณอาจมีการ์ตูนดราก้อนบอล หรือ วันพีซครบทุกเล่ม และคุณก็อ่านซ้ำไปมาจนขึ้นใจ ทว่าคุณ “รู้จัก” มากน้อยแค่ไหนกันค่ะ
คุณอาจเป็นแฟนพันธุ์แท้นักร้องญี่ปุ่น ….
ที่บ้านมีตุ๊กตาบลายด์ครบทุกคอลเลคชั่น …
หรือ
คุณกำลังเรียนเอกภาษาญี่ปุ่น และสอบผ่านระดับ 1 ตั้งแต่อายุ 17 ขวบ…
ที่บ้านคุณอาจมีการ์ตูนดราก้อนบอล หรือ วันพีซครบทุกเล่ม และคุณก็อ่านซ้ำไปมาจนขึ้นใจ
ทว่า … คุณ “รู้จัก” คนญี่ปุ่น มากน้อยแค่ไหนกันคะ
เขาว่ากันว่า มีแต่คนญี่ปุ่นด้วยกันเท่านั้น ถึงจะสามารถอ่านทีท่า สีหน้า อารมณ์ และความต้องการของอีกฝ่าย เพราะคนญี่ปุ่นมักไม่แสดงอารมณ์ และเก็บสีหน้าเพื่อรักษามารยาท คนต่างชาติจึงมีปัญหาเวลาพบปะพูดคุยหรือทำงานกับคนญี่ปุ่นเสมอๆ 8 ปีที่ผ่านมา อิฮั้นก็ลำบากลำบนมาแล้วนับไม่ถ้วน
10 คำถามต่อไปนี้ ออกแบบมา (อย่างมั่วๆ ซั่วๆ) โดยนักวิชาการสาขาญี่ปุ่นศึกษา (ที่ไร้ปริญญา) เพื่อวัดว่า คุณรู้จักและรู้ใจคนญี่ปุ่นได้ดีแค่ไหน เริ่มเลยนะคะ
1. อยู่ญี่ปุ่น เวลาถ่ายรูปต้องโพสท์ท่า…
A. ชู 2 นิ้ว
B. ไอเลิฟยู

[ตอบ A. เป็นท่าสากลประจำชาติญี่ปุ่น คาดว่าอาจได้รับการบรรจุในหนังสือเรียนวิชาสังคมเร็วๆ นี้ เคยถามคุณป้าคนญี่ปุ่นประมาณ 2 คนว่าทำไมคนญี่ปุ่นถึงชอบโพสท์ท่านี้ แกบอกว่าฉันก็โพสท์ท่านี้มาตั้งแต่ 30 ปีที่แล้วแล้ว เป็นธรรมเนียมสืบต่อกันมา ไม่รู้ทำไม]
2. คุณกับเพื่อนขึ้นรถไฟ พบว่ามีที่นั่งว่าง 2 ที่พอดี คุณกับเพื่อนอยากจะนั่งด้วยกันเหลือเกินแต่ที่นั่งตรงกลางระหว่างนั้นดั๊นมีคุณลุงนั่งคั่นอยู่ คุณจะ…
A. บอกคุณลุงให้ช่วยเขยิบให้หน่อย คุณจะได้นั่งกับเพื่อน
B. ยืนอยู่ตรงหน้าที่ว่างที่ใดที่หนึ่ง บอกเพื่อนให้นั่งสิ เพื่อนก็ไม่นั่งและบอกให้คุณนั่งแทน คุณก็ทำท่าไม่ยอมอีก คุณและเพื่อนทำทียื้อยุดกันอย่างนั้นจนกว่าลุงจะสำเหนียกและเขยิบให้

[ตอบ B. คนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยพูดอะไรตรงๆ ลืมไปได้กับการขอลุงแบบทื่อๆ มันรุกรานสิทธิส่วนบุคคลของลุงเกินไป เพราะฉะนั้นคุณต้องทำให้ลุงรู้เป็นนัยๆ ว่า คุณมากับเพื่อนและเราอยากนั่งด้วยกันนะ ในกรณีที่คุณมาคนเดียว และมีที่ว่างเกือบๆ พอที่จะนั่งได้ 1 คน ให้ไปยืนใกล้ๆ ที่นั่งตรงนั้น ยืนด้อมๆ มองๆ กดดันจนกว่าคนรอบข้างจะรู้สึกตัวและเขยิบให้ ไม่ต้องห่วงว่าถ้าไม่บอกแล้วเขาจะไม่เขยิบ คนญี่ปุ่นเขารู้แกวกันดี]
3. คุณไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงาน 3-4 คน ข้อใดเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรทำขณะที่พนักงานเสิร์ฟกำลังยกเครื่องดื่มมาให้คนอื่นๆ
A. จิบเบียร์/เครื่องดื่มของตัวเองรอ
B. เอาผ้าเย็นมาเช็ดหน้า ถูรักแร้

[ตอบ A. ธรรมเนียมของคนญี่ปุ่น ก่อนทานข้าวจะต้องมีการ “คัมไป” หรือ “ชนแก้ว”กันก่อนเริ่มทานอาหาร ถ้าใครแอบดื่มก่อนคนอื่น จะถูกสังคมเขม่นได้ว่าเป็นพวกไม่รู้จักอดทน ไม่รอคนอื่น ไม่เคารพกฎหมู่ บลาๆๆ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะหิวน้ำปางตายแค่ไหน ก็ต้องทนรอ “คัมไป” นะจ๊ะ อย่าเผลอดื่มก่อนเชียว]
4. ฤดูหนาว ณ กรุงโตเกียว หิมะกำลังตกปรอยๆ อย่างสวยงาม คุณกำลังเดินจะไปขึ้นรถไฟ ขณะนั้น คุณบังเอิญพบคุณป้าข้างห้องเดินสวนมาพอดี คุณจะทักทายคุณป้าว่า …
A. วันนี้ไปไหนมาเหรอคะ/ครับ
B. วันนี้อากาศหนาวจังนะคะ/ครับ

[ตอบ B. “วันนี้หนาวจัง” ทักไปเถอะค่ะ คุณอาจรู้สึกแปลกว่าหน้าหนาว อากาศมันก็หนาวทุกๆ วันอยู่แล้ว คนญี่ปุ่นเขาไม่รู้จะทักว่าอะไรกันจริงๆ ในทางกลับกัน ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อน คนญี่ปุ่นจะเปลี่ยนมาทักกันว่า “วันนี้ร้อนจริงๆ เลยนะคะ/ครับ” แทน ไม่ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยจะเฉียด 40 องศาทุกวันก็ตาม เวลาทักคนญี่ปุ่น ถ้าคุณไม่สนิทกับเขาจริง อย่าไปทักสไตล์ไทย เช่น “ไปไหนมา” หรือสไตล์อาม่า เช่น “กินอะไรมาหรือยัง” เชียวนะคะ เขาจะหาว่าล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล มายุ่งอะไรกับชีวิตส่วนตัวตู]
5. คุณพาลูกค้าญี่ปุ่นมาเที่ยวเมืองไทย ตอนทานข้าวใกล้เสร็จ คุณถามเขาว่าเขาจะเอาเครื่องดื่มอะไรเพิ่มมั้ย เขาตอบว่า “เอ่อ…ไม่เป็นไรครับ” คุณจะ…
A. ตอบว่า “เหรอครับ ถ้าจะสั่งเพิ่มก็ค่อยบอกผมแล้วกันนะครับ” แล้วปิดเมนูเก็บ
B. พูดว่า “ดื่มอีกสักหน่อยสิครับ” พร้อมคะยั้นคะยอให้เขาสั่ง

[ตอบ B. เป็นข้อปราบเซียน กรุณาสังเกตคำตอบของลูกค้าญี่ปุ่นให้ดี เขาบอกว่า “เอ่อ…” ซึ่งแปลว่า เขาอยากดื่ม แต่คิดดูอีกทีก็เกรงใจคุณซึ่งเป็นฝ่ายเลี้ยง จึงต่อด้วยประโยคที่ว่า “…ไม่เป็นไรครับ” เพราะฉะนั้น คุณจึงควรคะยั้นคะยอให้เขาดื่มเพราะคนญี่ปุ่นเขาขี้เกรงใจ ไม่กล้าพูดอะไรตรงๆ ในทางกลับกัน ถ้าเขาตอบทันควันว่า “ไม่เป็นไรๆ ผมอิ่มแล้ว” ก็แปลว่า เขาไม่ต้องการจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คุณก็ต้องดูสีหน้าและท่าทางประกอบด้วย แล้วถ้าเกิดคุณดันทำแบบข้อ A. คือปิดเมนูเก็บทันทีล่ะ ลูกค้าก็จะตำหนิคุณในใจว่า อีตาหมอนี่มันไม่เข้าใจจิตใจตูเลย ของแบบนี้ ทำดีเสมอตัว ทำไม่ดีก็เข้าตัวค่ะ]
6. ในตู้รถไฟ คนแน่นมาก มีผู้ชายคนหนึ่งพยายามแทรกแหวกคนเพื่อจะออก เขาเบียดชนคุณ คุณคิดว่าใครน่าจะเป็นฝ่ายกล่าวคำขอโทษ
A. ผู้ชายคนที่เบียด
B. ตัวคุณเอง

[ตอบ ทั้ง A. และ B. ผู้ชายคนที่เบียดกล่าวคำขอโทษเนื่องจากเขาชนคุณ สำหรับคุณ ก็กล่าวคำขอโทษเนื่องจากไปยืนเกะกะทางเขา (ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ก็ตาม) สังคมญี่ปุ่น ถ้อยทีถ้อยอาศัยค่ะ ในกรณีอื่นเช่นเดียวกัน เช่น คุณโดนเหยียบเท้า ถ้าฝ่ายตรงข้ามบอก “ซุมิมาเซ็น (ขอโทษ)” มา คุณก็เออออตอบ “ซุมิมาเซ็น” ตามไปเถอะค่ะ ปลอดภัยดี]
7. ในงานสังสรรค์ เพื่อนคุณแนะนำคุณป้าคนหนึ่งให้คุณรู้จัก คุณพูดว่า “คอน-นิ-จิ-วะ (สวัสดีครับ/ค่ะ)” พร้อมทั้งแนะนำชื่อตัวเอง แกจะพูดว่า …
A. “สวัสดีจ้ะ ป้าชื่อ….”
B. “หนูพูดภาษาญี่ปุ่นเก่งมาก” พร้อมทำหน้าตกใจ

[ตอบ B. คนญี่ปุ่นหลายคนยังตื่นเต้นกับการที่คนต่างชาติพูดภาษาญี่ปุ่นได้ เขาดีใจมาก แต่มีบางส่วน ชมเพราะว่าเป็นธรรมเนียม อยากให้กำลังใจคุณที่อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงญี่ปุ่นและจำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นได้ อย่าแปลกใจว่า แค่คุณอ้าปากพูดคำว่า “คอน-นิ-จิ-วะ” หรือ “อะ-ริ-กา-โต้” คนญี่ปุ่นจะชมคุณว่าคุณพูดภาษาญี่ปุ่นเก่งมากทันที]
8. สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยในรถไฟญี่ปุ่น
A. ลุงเมา
B. คนหลับ

[ตอบ B. แน่นอน ในรถไฟโดยเฉพาะขบวนดึกๆ จะเจอลุงถือกระป๋องเบียร์นั่งเมาแอ๋ แต่ภาพที่เห็นได้ตลอดในรถไฟญี่ปุ่นคือ คนหลับค่ะ หลับทุกรายไม่ว่าผู้ใหญ่เด็กเล็กแดงคนชรา อาจเป็นเพราะระยะเวลาที่นั่งรถไฟมันยาว หรือคนญี่ปุ่นเหน็ดเหนื่อยกับการเรียนและการทำงานก็ไม่ทราบ สังเกตว่าความสามารถพิเศษของคนญี่ปุ่นในการหลับบนรถไฟมี 2 อย่างคือ 1. หลับแบบก้มหน้า ดูผู้ดีดี ไม่อ้าปากท้าฟ้าเหมือนบ้านเรา 2. พอถึงสถานีที่ตัวเองจะลง จะลืมตาและลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่รู้ทำได้อย่างไร ไว้ใครมีโอกาสไปญี่ปุ่นลองสังเกตดู]
9. เมื่อเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่เมืองไทย คุณแปลกใจที่เห็นซูชิหน้า…
A. ปูอัด
B. อะโวคาโด้

[ตอบ A. ปูอัด คนญี่ปุ่นเห็นว่าปูอัดเป็นของที่เด็กกินเล่น ราคาถูก เอาไว้โรยผักสลัดหรือกินเล่น ไม่มีศักดิ์ศรีพอจะขึ้นแท่นซูชิค่ะ เพื่อนคนญี่ปุ่นของอิฮั้นมาเมืองไทยแล้วเห็นเรากินปูอัดกันเป็นล่ำเป็นสัน ยังประหลาดใจและถ่ายรูปเก็บไปเลยค่ะ นอกจากนี้ เขายังแปลกใจที่บางร้านเสิร์ฟกิมจิคู่กับเซ็ทอาหารด้วย (กิมจิเป็นอาหารเกาหลีค่ะ)]
10. ติ๊ต่างว่าคุณเป็นนักฟุตบอลชื่อดังของญี่ปุ่น และต้องเดินทางไปเตะบอลโลกแมทช์คัดเลือก 16 ทีมสุดท้ายที่ประเทศบราซิล เผอิ๊ญเผอิญช่วงนั้นเป็นช่วงที่ภรรยาคุณมีกำหนดคลอดพอดี คุณจะ
A. ตัดใจเดินทางไปบราซิล คุณมั่นใจว่าภรรยาคุณต้องเข้าใจ
B. อธิบายให้โค้ชฟังว่า เด็กเป็นลูกชายคนแรกของคุณ ภรรยาคุณขับรถเองไม่ได้ และขออยู่ดูแลภรรยา

[ตอบ A. คนญี่ปุ่นเรื่องงานมาก่อนเรื่องครอบครัวค่ะ โจทย์ข้อนี้ เพื่อนคนญี่ปุ่นอิฮั้นเคยถามค่ะ แกบอกว่า แกอ่านข่าวกีฬาเกี่ยวกับนักฟุตบอลไทยคนหนึ่งตัดสินใจไม่ไปเตะซีเกมส์หรืออะไรสักอย่าง เพราะภรรยาจะคลอด แกตกใจมากและบอกว่า ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่น นักเตะคนนี้โดนไล่ออกไปแล้ว คนอะไรไม่ทำเพื่อชาติ คิดถึงแต่เรื่องตัวเอง ถ้าคุณต้องทำงานกับคนญี่ปุ่น งาน (และลูกค้า) คือ พระเจ้า ระวังให้ดีนะคะ]
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตอบผิดถูกกันกี่ข้อเอ่ย ข้อที่ให้ตอบถูก 2 ข้อ (ข้อ 6.) ยกประโยชน์ให้นับเป็น 1 คะแนนค่ะ
ใครได้ 0 – 3 คะแนน:
ไม่ต้องเสียใจค่ะ คุณควรภูมิใจว่าคุณเป็นผู้ที่มีความเป็นไทยสูงมาก แนะนำให้ลองไปสอบบรรจุกระทรวงวัฒนธรรมดูนะคะ
ใครได้ 4 – 6 คะแนน:
คุณมีความรู้เกี่ยวกับคนญี่ปุ่นดีทีเดียว หรือไม่คุณก็เป็นคนที่เดาคำตอบเก่งมาก
ใครได้ 7 – 8 คะแนน:
คุณเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นเกิน 3 ครั้ง หรืออยู่ญี่ปุ่นเกิน 2 ปีหรือเปล่าคะ
ใครได้ 9 – 10 คะแนน:
คุณกลายเป็นคนญี่ปุ่นไปแล้ว! ขอเดาว่า
1. คุณรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับการใช้ชีวิตในเมืองไทย คุณเข้ากับคนไทยไม่ค่อยได้ หรือ…
2. คุณมีแฟนเป็นคนญี่ปุ่น หรือ…
3. คุณอยู่ญี่ปุ่นมาเกิน 5 ปี
สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ.
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura