ความแตกต่างระหว่าง ซะเงียว (作業) และ ชิโงะโตะ (仕事): คุณกำลังเข้าใจว่า “กระบวนการ” คือ “งาน” อยู่หรือไม่?
ผู้เขียนเคยเขียนถึงหลักการบริหารงานแบบตระหนักถึง “มนได (問題)” และ คะได (課題)” สไตล์ญี่ปุ่นไปแล้วใน https://www.marumura.com/mondai-and-kadai/ ซึ่งเป็นวิธีรับมือกับปัญหาอย่างสร้างสรรค์ เพราะไม่ได้มองปัญหาว่าเป็นลบ แต่มองปัญหาพร้อมวิเคราะห์วิธีแก้ไขและวิธีป้องกันปัญหาอีกด้วย
วันนี้จะพูดถึงหลักการบริหารอีกหลักการหนึ่งที่ผู้บริหารชาวญี่ปุ่นที่เก่ง ๆ ให้ความสำคัญอย่างมาก นั่นคือการแยกให้ออกระหว่าง “ซะเงียว” และ “ชิโงะโตะ” โดยในที่นี้เราจะพูดถึงคำว่า “ซะเงียว” และ “ชิโงะโตะ” ในเชิงการบริหารจัดการในภาคธุรกิจเท่านั้น เพราะฉะนั้นจะเป็นคนละความหมายกับบริบทอื่น ๆ อย่างเช่นในสถาบันการศึกษาที่มักจะแปลทั้ง 2 คำออกมาเป็นความหมายเดียวกันคือ “งาน” โดยในเชิงการบริหารจัดการนั้น จะแปลดังนี้
ซะ-งโย
1) ซะเงียว (作業): ที่จริงควรออกเสียงว่า ซะ-งโย (さぎょう) แต่ระบบการเขียนภาษาไทยแสดงเสียงนี้ออกมาลำบาก จึงนิยมเขียน “ซะเงียว” ไปเลย โดยที่ ซะเงียว หมายถึงงานที่ไม่ค่อยมีค่างาน เช่น งาน routine ต่าง ๆ, งานเอกสารที่ซ้ำ ๆ ซาก ๆ, งานที่ทำทุกอย่างตามคำสั่ง, กระบวนการที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เป็นประจำ ที่ไม่ได้มีการสร้างคุณค่าเพิ่มหรือมูลค่าเพิ่ม อาจจะแปลเพื่อความเข้าใจง่ายไปเลยว่าเป็น “กระบวนการ” หรือ “Process”
2) ชิโงะโตะ (仕事): หมายถึง “งานที่แท้จริง” เป็นสิ่งที่สร้างทั้งคุณค่าและมูลค่ามาสู่องค์กรได้ คนที่จะทำชิโงะโตะได้ดีจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าการเป็นหุ่นยนต์ทำตามคำสั่ง จะต้องไม่ใช่คนที่แค่ชอบทำอะไรเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซาก ๆ แล้วพอใจว่าตัวเอง “ทำงานเสร็จแล้ว” อาจแปลเพื่อความเข้าใจง่ายไปเลยว่าเป็น “งาน” หรือ “Job”
ทั้ง “ซะเงียว” และ “ชิโงะโตะ” มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า สำหรับทุก ๆ องค์กรนั้นซะเงียวก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่ควรระมัดระวังไม่ให้องค์กรตัวเองมีซะเงียวมากจนเกินไป ควรหาทางลดซะเงียวลงให้มากที่สุด เช่น ลดการประชุมที่ไม่จำเป็นลง, ลดการใช้กระดาษแล้วหันมาใช้ paperless, ลดกระบวนการอนุมัติหนังสือเวียนต่าง ๆ, ลดกฎเกณฑ์บางเรื่องของบริษัทที่ไม่ตอบโจทย์การทำงานของบุคลากรยุคใหม่ลงไปบ้าง ฯลฯ
เพราะการที่มีซะเงียวมากเกินไป จะทำให้บุคลากรหมดเวลาไปกับการทำซะเงียว จนไม่ได้ทำชิโงะโตะซึ่งเป็นงานที่แท้จริงขององค์กร อีกทั้งจะมีบุคลากรจำนวนมากที่พอทำซะเงียวจนยุ่งหัวฟูไปหมด ในที่สุดจะเริ่มเข้าใจผิดแบบสะกดจิตตัวเองว่า “ซะเงียว คือ งาน” และใช้วันเวลาหมดไปกับซะเงียว จนรู้ตัวอีกทีก็ไม่สามารถทำชิโงะโตะซึ่งเป็นงานที่เกิดคุณค่าและมูลค่าให้แก่บริษัทได้ (ตัวอย่างเช่น การเน้นกระบวนการทำงานหรือกระบวนการอนุมัติเอกสารมากเกินไปจนกระทั่งทำงานใด ๆ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไม่ได้อีกเลย เน้นแต่กระบวนการมากกว่าเป้าหมาย ไปเสียได้) อาจซ้ำร้ายกว่านั้น คือพนักงานที่เข้าใจว่าซะเงียวคืองาน ก็จะเริ่มบังคับหรือโจมตีพนักงานคนอื่นที่พยายามจะทำชิโงะโตะ โดยบีบให้พนักงานสายชิโงะโตะหันมาทำซะเงียวกันมาก ๆ เพราะตัวเองเข้าใจผิดไปเรียบร้อยแล้วว่าซะเงียวคือภาระงานหลัก และนำไปสู่ความล้มเหลวระยะยาวขององค์กรได้
ปัจจุบันที่เราเกรงกลัวว่า AI หรือเครื่องจักรจะมาแย่งงานมนุษย์นั้น ซะเงียวคือเป้าหมายแรกที่มนุษย์จะถูกแย่งงาน ดังนั้นมนุษย์จึงควรลดสัดส่วนทำซะเงียวให้น้อยลง เพื่อจะได้มีเวลาไปทำชิโงะโตะให้มากขึ้น ยังย้ำว่าทุกองค์กรต้องมีซะเงียว เพียงแต่ต้องควบคุมสัดส่วนของซะเงียวให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อจะได้เอาเวลาและแรงงานไปทุ่มเทให้เกิดชิโงะโตะให้มากที่สุด
อีกทั้งในแง่ของการพัฒนาบุคลากรนั้น การมอบหมายชิโงะโตะให้พนักงานจะมีผลโดยตรงต่อการพัฒนาความสามารถในการทำงานของพนักงานคนนั้น ในขณะที่ การมอบหมายซะเงียวจะไม่มีผลใด ๆ ต่อการพัฒนาความสามารถของพนักงาน เช่น มอบหมายให้เย็บเอกสารจาก 100 ชุด ไปเป็นเย็บเอกสาร 500 ชุด ก็ย่อมจะไม่ได้พัฒนาทักษะการทำงานให้มีประสิทธิภาพขึ้นแต่อย่างใด (แบบนี้คือมอบหมายซะเงียว) ต่างจากการมอบหมายให้เลื่อนขั้นจากการเป็นหัวหน้างานที่มีลูกน้องเพียง 3 คนไปเป็นหัวหน้าโครงการที่มีลูกน้อง 20 คน (แบบนี้คือมอบหมายชิโงะโตะ)
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าองค์กรญี่ปุ่นทุกแห่งจะแยกแยะระหว่าง “ซะเงียว” และ “ชิโงะโตะ” ได้ทุกแห่ง ยังมีองค์กรญี่ปุ่นอีกจำนวนมากประสบปัญหาชั่วโมงการทำงานหนักมากแต่ไม่สามารถสร้างงานที่มีคุณค่าและมูลค่าได้ สามารถคาดเดาได้ว่าสาเหตุหนึ่งที่องค์กรไม่ประสบความสำเร็จก็เพราะเอาเวลาและแรงงานไปทุ่มเทกับซะเงียวมากจนไม่เหลือเวลาและแรงงานให้ชิโงะโตะ นั่นเอง
ผู้บริหารขององค์กรไทยแท้หรือองค์กรญี่ปุ่นในไทยเองสามารถเรียนรู้ทั้งตัวอย่างที่บริหารซะเงียวและชิโงะโตะได้เหมาะสม และ ตัวอย่างที่บริหารได้ไม่เหมาะสม และประยุกต์ใช้กับองค์กรตัวเองได้เช่นกัน แล้วทรัพยากรมนุษย์ของเราก็จะไม่ต้องกลัว AI แย่งงาน เพราะเราใช้ความสร้างสรรค์ของมนุษย์ไปกับชิโงะโตะมากขึ้น แล้วมอบหมายซะเงียวให้เครื่องจักรแทนได้
ติดตามผลงานเขียนทั้งหมดของวีรยุทธได้ที่ >> https://www.facebook.com/Weerayuths-Ideas
เรื่องแนะนำ :
– รีวิวหลักสูตรมังงะและอนิเมะศึกษาของมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไท
– Start-up สัญชาติญี่ปุ่นเตรียมผงาดหลังสถานการณ์ Covid-19 บรรเทาลง
– พุทธพาณิชย์แบบญี่ปุ่น
– ทำไมหลักสูตร MBA ถึงไม่ฮิตในญี่ปุ่น?
– ไทโด (躰道): ศิลปะการต่อสู้ชนิดใหม่ในญี่ปุ่นที่มาแรง
ขอบคุณรูปภาพจาก
https://www.adecco.co.jp/useful/work_style_35
#ความแตกต่างระหว่าง ซะเงียว (作業) และ ชิโงะโตะ (仕事): คุณกำลังเข้าใจว่า “กระบวนการ” คือ “งาน” อยู่หรือไม่?