เรียวกังนี้ที่ Kawaguchiko มีคนญี่ปุ่นบอกว่าอยากให้มาลองนอนดูเพราะว่าเค้าไม่เหมือนโรงแรมทั่วไปในฟูจิ ซึ่งเคยนอนมาหลายที่ก็จะเป็นแนวผสมผสานแบบญี่ปุ่น + ตะวันตก แต่ไม่ใช่ว่าที่นี่จะไม่มีห้องแบบตะวันตกด้วย ก็มี..แต่ว่าการบริการเค้ายังยึดแบบเรียวกังจริงๆ คือพอลองได้มานอนแล้ว ก็จริง!
อากาศหนาว งานโชว์เนื้อหนังต้องมา!
ที่พี่พูดไม่ใช่ว่าพี่หุ่นดีนะจ๊ะ 55 แต่พี่แค่ชอบ ชอบแช่ เพราะมันดีต่อสุขภาพจริงๆ พูดจริงๆ ไม่ได้โม้!
เอาหล่ะ กลับมาก่อน กลับมาที่งานแช่ วันนี้อีฮั้นได้ไปถึง Kawaguchiko โน่น ไปทำภารกิจหลายประการเลย เอาเป็นเริ่มจากออกเดินทางกันเลยนะ!
วันนี้ออกเดินทางกันแต่เช้าหน่อย แต่อากาศไม่ดีเลย ครึ้มมากๆ ก็กะว่าจะไปเที่ยวให้ได้หลายๆ ที่เพราะบางทีชอบพลาดตกรถบ้าง หลงทางบ้าง ซึ่งเห็นเดินทางบ่อยๆ แบบนี้ อีฮั้นหลงบ่อยนะคะ กรุณาอย่าลอกเลียนแบบคร้าาาา 555
เริ่มตั้งต้นกันที่สถานีชินจุกุ ซึ่งอีฮั้นอ่ะจริงๆ บ้านอยู่ใกล้สถานีโตเกียวเลยตีตั๋วมาจากที่นั่นแล้วก็มาขึ้นรถไฟสายอาสึสะ (Azusa) กันที่ชานชาลาที่ 10 สถานี เจอาร์ ชินจุกุเนี่ยแหล่ะเจ้าคร้าาา สะดวกสุดๆ ในราคา 3,820 เยน อันนี้แบบจองที่นั่งนะ เราจะนั่งชิวไป ยาวไปจนถึงสถานี Otsuki แล้วไปต่อรถไฟสาย ฟูจิคิวโค ซึ่งจุดนั้นใครอยากขึ้นรถด่วนต้องชำระเงินสามร้อยกว่าเยนเพิ่ม ซึ่งเราเข้าแถวจะจ่ายเงิน แต่รถออกไปก่อนก๊ะ 5555
โก๊ะได้โล่! เลยต้องนั่งรถหวานเย็น ใช้เวลาทั้งหมดทั้งปวง 2 ชั่วโมงครึ่งไปสิ ดวงไม่ได้นั่งรถด่วนเจงๆ แต่รถเราก็น่ารักนะยะ แร๊พเป็นตัวการ์ตูนฟูจิเช่นกัน น่ารักกกก
จากนั้นเราก็เห็นรถสวนไปเป็นรถไฟที่แร็ปเป็นรูปรถไฟโทมัส(THOMAS & FRIENDS) ซึ่งเจ้าคาแรคเตอร์รถไฟนี่ที่ฟูจิคิวก็มีนะคร้าาาาาา หลานอีฮั้นช๊อบบบ ชอบ ถ้านางมา นางคงร้องนั่งแน่ๆ
วันนี้เราไม่นอนที่ไฮแลนด์ รีสอร์ท เราแค่แวะ แป๊บเดียว ไปเล่นแล้วเปลี่ยนแนว มานอนที่ “มารุเอะ” (Wakakusa no Yado Maruei) เดี๋ยวค่อยว่ากันว่าทำไมวันนี้เปลี่ยนแนวมานอนที่นี่
ดูรายละเอียดโรงแรมได้ที่นี่เลย >> Wakakusa no Yado Maruei
เมื่อเดินทางถึงสถานี Kawaguchiko เราก็ไม่รอช้าคร้าาาาา รีบเร่งเพื่อให้เที่ยวได้ชิวๆ เพราะหน้าหนาวเนี่ย สี่โมงเย็นก็มืดแล้ววววว 5555 เราก็ว่าจะไปขึ้นกระเช้าที่ kachi kachi ropeway ซึ่งวันนี้ขอแยกรีวิวออกมาคร่าวๆ ก่อน เพราะว่าจะขอรีวิวที่พักด้วยจ้าาาา ตอนนี้เราตั้งใจมากๆ ว่าจะเที่ยวแถวๆ สถานีคาวาฯ นั่นแหล่ะ ไม่อยากเร่งมาก อยากใช้เวลาพักผ่อนแบบเรื่อยเปื่อย ก็ไปนั่งรถ Mt.Fuji World Heritage Loop Bus ที่ชานชะลาที่ 1 ซึ่งสำหรับใครมีแพลนใช้เยอะๆ ลองสอบถามี่หน่วยงานท่องเที่ยวได้เลยว่ามีตั๋วพาส 1 วันแบบไหนบ้าง แต่ที่เราไม่ใช้เพราะว่าไม่ได้ไปไหนไกลแน่ๆ เลยตัดสินใจที่จะไม่ซื้อจากนั้นแล้ว เราก็ไปกันเลย 180 เยนลงที่โรฟเวย์เลยค้าาาาาา
เข้าแถวยาวไปนิดหน่อยแต่ถือว่าคุ้มมากๆ เพราะแต่ละคนต้องการจะไปดูใบไม้แดงกัน ซึ่งตอนนี้ใบไม้ที่ด้านบนยังไม่ได้แดงมากเท่าไหร่ยังมีจุดเขียวๆ บ้าง แต่ด้านล่างสิ กำลังแดงสวยเลย
เพื่อนๆ สามารถดูรายละเอียดเวลาทำการ และค่าธรรมเนียมการขึ้นโรฟเวย์ภาษาไทยได้ที่นี่ >> http://www.kachikachiyama-ropeway.com/th/

อีฮั้นได้ถูกน้องหลอกให้ขึ้นเจ้าเรือเป็ดนี่สิ 555 อยู่ฝั่งด้านหน้าโรฟเวย์เลย เป็นเพราะความน่ารัก มุ๊งมิ้งของเหล่าเป็ดน้อยที่จอดรอสินะ ทำให้น้องมันอยากขึ้นอ่ะ !!!

ร้อยวันพันปีไม่เค้ยยย ไม่เคยอยากจะขึ้น 30 นาที 2,000 เยน จร้าาา ใครชอบความโรแมนติก อีฮั้นขอแนะนำเลยยย
แต่สำหรับอีฮั้น มันเคว้งคว้าง อ้างว้างมากเพราะทะเลสาบมันใหญ่ เรือลำนิดเดียว 555 กรี๊ดดดดลั่นทะเลสาบตอนคลื่นเรือใหญ่ซัด ตอนแรกไม่ได้คิดจะกรี๊ดนะ แต่น้องมันดันบอกว่าถ้าเอาเรือหันเข้าหาคลื่นแล้วมันจะล่ม เรางี้ตกใจหมดเรยยยย แถมยังใส่กระโปรงถีบเรืออี๊กกกก โอ้ยยยย 555
หลังจากที่เหนื่อยเหน็ดกันไปเราก็นั่งรถกลับไปที่สถานี Kawaguchiko คร้าา เพื่อโทรเรียกรถโรงแรมมารับเรามาถึงก็มืดๆ แล้ว นั่นไงภูเขาไฟฟูจิจอมขี้อาย แอบบังตัวแล้วค้าาาา
เราไปรอรถด้านในศูนย์บริการหน่วยงานการท่องเที่ยวได้นะ ตรงบริเวณรถไฟ 1 ตู้ที่จอดอยู่เนี่ย หรือถ้าไม่หนาวเราก็ไปรอที่ป้าย เบอร์ 10 หน้าหน่วยงานการท่องเที่ยวรถโรงแรมจะมารับ เค้าบริการดี๊ดี
ถึงแล้วจร้าาาาา ที่เรียวกังนี้ มีคนญี่ปุ่นบอกว่าอยากให้มาลองนอนดูเพราะว่าเค้าไม่เหมือนโรงแรมทั่วไปในฟู จิ ซึ่งเคยนอนมาหลายที่ก็จะเป็นแนวผสมผสานแบบญี่ปุ่น + ตะวันตก แต่ไม่ใช่ว่าที่นี่จะไม่มีห้องแบบตะวันตกด้วย ก็มี แต่ว่าการบริการเค้ายังยึดแบบเรียวกังจริงๆ คือพอลองได้มานอนแล้วก็จริง!
มาถึงเช็คอินเสร็จ มีการให้นั่งรอที่ล็อบบี้ แล้วเอาชาเขียวที่ชงแบบโบราณมาให้ชิม ซึ่งอร่อยมากๆ แล้วก็มีขนม 1 ที จากนั้นก็พาขึ้นไปบนห้อง ก็ยังมีขนมอี๊ก พนักงานก็ต้มน้ำให้ แล้วก็บอกให้เรารับประทานขนมสะนะครับ แล้วก็รินชาให้ นั่งมองจนเราจิบชาแล้วจึงขาตัวลา 5555
โอ้ยยย นี่มันเรียวกังแบบสมัยก่อนชัดๆ นึกว่าอยู่อีซุ แต่จะบอกว่าขนมข้างบนอร่อยมาก ไม่รู้ขนมอะไร ข้างในมันหนึบๆ เหนียวๆ ข้างนอกเป็นแป้งแบบคุ๊กกี้ เหอะๆ อยากขอแถม 555




อิ่มเต็มๆ ของหวาน ของคาว จุดนี้แอบง่วงนะพูดเลย
แต่ไม่ได้คร้าาา ของดียังมีรอเราอยู่น้าาาา เราต้องไปที่อุโองค์เมเปิ้ลข้างทะเลสาบ โมมิจิไคโรคร้าาา ไปชมไลท์อัพกัน


แล้วเราก็กลับโรงแรมค้าาาาา เราจะไปอาบน้ำแช่น้ำแร่ออนเซ็นกัน ซึ่งที่นี่มีทั้งบ่อโอเพ่นแอร์แบบไม้ และแบบในอาคารด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะถ่ายรูปให้ชมน้าาา
ตอนนี้เค้าห้ามถ่ายบ่อหญิง และชาย จะสลับกันกรุณาดูที่โนเรง (ผ้าม่าน) ถ้าเป็นสีแดงจะของผู้หญิง สีน้ำเงินของผู้ชาย อ่อ แล้วที่โรงแรมมีบ่อแบบจองเวลาส่วนตัวด้วยนะ แต่จะมีค่าบริการเพิ่ม ซึ่งเราสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เคาน์เตอร์นะคะ
กลับมาถึงก็มีคุณป้ามาปูที่นอนนุ่มๆ ให้พวกเราเรียบร้อยยยยและหลับอย่างสบายๆ









ถึงไม่มีศิลปะแต่ก็มาจากใจเค้าน้าาาา ปีที่แล้วมามีแต่ใบ ฟูจิหาย ปีนี้ฟูจิมี แต่ใบหาย สงสัยปีหน้าต้องมาอยู่สักอาทิตย์ถึงจะพอดีนะ
สำหรับที่นี่มองว่าเป็นโรงแรมที่เหมาะกับคนที่ชอบความดั้งเดิม ถึงโรงแรมจะไม่ได้ดั้งเดิมที่ตัวอาคารสะทีเดียว แต่การบริการเค้าช่างเหมือนเรียวกังแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมมากๆ ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าประทับใจมากๆ สำหรับที่นี่
ทักทายพูดคุยกับ Nat Nana ได้ที่>>> Facebook ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ ของถูกในโตเกียว
เรื่องแนะนำ :
– สุดยอดความคิโมจี้เว่อร์ๆ กับ 3 เรียวกัง 3 สไตล์ในเมือง Minakami จังหวัดกุนมะ
– 10 สุดยอดสถานที่เที่ยวที่อลังการสุดๆ ในญี่ปุ่นที่หากคุณไปแล้วต้องร้องว๊าว พร้อมพิกัด
– ไม่ใช่กรูรูคิวชู ตอน ทริปเดียวเที่ยวได้ 2 ประเทศ ฟุกุโอกะ – ปูซาน ตอนที่ 1
– ไม่ใช่กรูรูคิวชู ตอน ถึงฟุกุโอกะแล้วไปไหนดีน้อ คอร์ส 1 วัน ภาค 1
– พลาซ่า ร้านเครื่องสำอางและสรรพสิ่งอื่นที่มีตั้งแต่สากเบือยันเรือรบ!