ใครว่าละครญี่ปุ่นมีแต่แนวเครียดๆ กัน แนวฮาๆ ก็มีค่ะ และขอบอกว่าละครญี่ปุ่นแนวนี้นี่ ตลก ฮา รั่ว ถึงใจจริงๆ ชนิดที่ว่านักแสดงก็เล่นกันแบบลืมความหล่อ ความสวยไปเลย ส่วนคนดูก็ลืมความเครียด ความทุกข์ที่แบกไว้กันไปเลยทีเดียว วันนี้เลยจะมาแนะนำละครญี่ปุ่นสุดฮา 10 เรื่องที่จะมาเรียกเสียงหัวเราะ จะมีเรื่องอะไรบ้าง ตามมาดูกันพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ใครว่าละครญี่ปุ่นมีแต่แนวเครียดๆ กัน แนวฮาๆ ก็มีค่ะ และขอบอกว่าละครญี่ปุ่นแนวนี้นี่ ตลก ฮา รั่ว ถึงใจจริงๆ ชนิดที่ว่านักแสดงก็เล่นกันแบบลืมความหล่อ ความสวยไปเลย ส่วนคนดูก็ลืมความเครียด ความทุกข์ที่แบกไว้กันไปเลยทีเดียว วันนี้เลยจะมาแนะนำละครญี่ปุ่นสุดฮา 10 เรื่องที่จะมาเรียกเสียงหัวเราะ จะมีเรื่องอะไรบ้าง ตามมาดูกันพร้อมๆ กันเลยค่ะ
1. My Boss My Hero
ละครแนว School ในตำนาน ขวัญใจคอซีรีส์ละครญี่ปุ่นหลายๆ คน เรื่องนี้ขอรับประกันความฮาเลยค่ะ My Boss My Hero เป็นเรื่องราวของซากากิ มาซาโตะ (รับบทโดย นากาเซะ โทโมยะ) ทายาทแก๊งยากูซ่าผู้มีอิทธิพล เก่งด้านการต่อสู้ แต่เรียนไม่จบ พ่อของเขาเลยอยากให้มาซาโตะสัมผัสกับชีวิตของเด็กวัยเรียนสักครั้งหนึ่งในชีวิตบ้าง ด้วยเหตุนี้พ่อก็เลยมีข้อแม้ว่า ถ้าอยากสืบทอดตระกูลต่อ ต้องกลับไปเรียนให้จบ มาซาโตะเลยถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมปลาย ทั้งๆ ที่ตอนนี้เขาอายุ 27 ปีแล้ว! ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะให้เด็กในโรงเรียนไม่สงสัยในตัวตนของมาซาโตะ และก็เป็นไปตามคาด มีแต่คนสงสัยนั่นแหละค่ะ อารมณ์แบบเหมือนเด็กโข่งไปโรงเรียน นึกภาพเด็กโข่งต้องมาเรียนหนังสือ ต้องไปกายบริหารเวลามาสาย ต้องไปทำกิจกรรมแบ๊วๆ ตามประสาเด็กม.ปลาย มาซาโตะต้องปิดบังทั้งตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นยากูซ่า ใครมาหาเรื่อง มาข่มขู่ก็ต้องแกล้งทำเป็น โอ้ยยย ผมไม่สู้คน เตะ ต่อยไม่เป็นเลย และต้องซ่อนอายุจริงๆ ของเขาด้วย จากการได้มาใช้ชีวิตในโรงเรียนแห่งนี้ ทำให้มาซาโตะได้รู้เรียนมิตรภาพ ชีวิตวัยรุ่น วัยเรียน และความรักที่แท้จริง

2. Hanazakari no Kimitachi e
Hanazakari no Kimitachi e หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Hana Kimi ละครญี่ปุ่นที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อว่า “ปิ๊งรักสลับขั้ว” เรื่องราวของอาชึยะ มิซึกิ (รับบทโดย โฮริกิตะ มากิ) ที่ต้องปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชาย และเข้าไปในโรงเรียนชายล้วน เพื่อไปตามหาซาโนะ อิซูมิ (รับบทโดย โอกุริ ชุน) และโน้มน้าวให้เขากลับไปกระโดดสูงอีกครั้งให้ได้ ความฮาของเรื่องนี้ก็อยู่ที่ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี่แหละค่ะ ชอบปล่อยมุกฮาๆ เกรียนๆ ออกมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะหัวหน้าหอทั้ง 3 คน

และพระรองของเรื่อง “ชูอิจิ นากาซึ” (รับบทโดยโทมะ อิคุตะ) ชายหนุ่มที่หลงรักมิซึกิเข้าอย่างจัง แต่มิซึกิเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ!? ด้วยเหตุนี้ทำให้นากาซึรู้สึกสับสนกับตัวเองว่าจริงๆ เขาชอบเพศเดียวกันอยู่หรือเปล่า ในเรื่องเขาเลยต้องคอยเช็คสภาพตัวเองไปเรื่อยๆ ด้วยวิธีการต่างๆ แล้วก็ยังเป็นผู้ชายขี้มโน ชอบพูดคนเดียว มักวาดภาพถึงมิซึกิในแบบที่เกินจริงอยู่บ่อยๆ
ฉากนี้กำลังค้นหาตัวตนว่ายังชอบผู้หญิงอยู่หรือเปล่า โดยการเอาชุดชั้นในผู้หญิงที่ตกอยู่กลางทางมาใส่ มาเช็กว่า ได้สัมผัสแล้วใจยังเต้นแรงไหม แต่กลายเป็นว่า ถูกเพื่อนๆ มองว่าเป็นไอ้โรคจิต โจรขโมยชุดชั้นในที่ทุกคนกำลังตามจับตัวอยู่
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องนี้ที่ให้ทั้งความอบอุ่นในเรื่องมิตรภาพ และสร้างเสียงหัวเราะ ดูทีไรก็นึกถึงเรื่องราวในสมัยวัยเรียนทุกทีเลยค่ะ
3. Ouran High Scool
ละครแนว School อีกเรื่องที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะ เป็นเรื่องราวของชมรมโฮสท์คลับในโรงเรียนแห่งหนึ่ง โรงเรียนที่รวมลูกคุณหนู สุดไฮโซเอาไว้ และแล้ววันหนึ่ง “ฟูจิโอกะ ฮารุฮิ” เด็กสาวยากจนแต่เรียนดี ก็มีเหตุต้องเข้าไปพัวพันกับโฮสท์คลับนี้เข้า เมื่อเธอได้เผลอไปทำแจกันมูลค่า 8 ล้านเยนแตก!!! ด้วยเหตุนี้เธอต้องทำงานชดใช้แจกันที่แตกไป ด้วยการเป็นโฮสท์คลับในชมรม!
เรื่องนี้มีความพิเศษตรงที่ว่าตัวโจ๊กของเรื่องก็คือพระเอกนี่แหละค่ะ นางตกหลุมรักนางเอกเข้าอย่างจัง และทำทุกอย่างเพื่อที่จะครอบครองหัวใจ แต่ความพยายามที่ว่ามันดูบ๊องๆ บวมๆ เพี้ยนๆ ยังไงชอบกล บวกกับตัวละครอื่นๆ ในโฮสท์คลับที่มาสร้างสีสันให้กับเรื่อง เป็นอีกเรื่องที่ดูเพลินๆ ตลกๆ ดีค่ะ
4. Yama Onna Kabe Onna
ใครเป็นแฟนคลับสาวเคียวโกะ ฟูคาดะต้องหันมาทางนี้ค่ะ เรื่องนี้ถือว่าเป็นละครในยุคแรกๆ ของเธอเลยก็ว่า แถมเป็นละครแนวคอมเมดี้อีกด้วย เรื่องราวของพนักงานขายสาวสองคนที่ต้องมาแท็กทีมทำงานด้วยกัน “เมกุมิ” (รับบทโดย อิโต้ มาซากิ) พนักงานขายมากความสามารถ แต่กลับมีปมด้อยเรื่องหน้าอกหน้าใจ เคยได้รับฉายาในสมัยเรียนว่า “ยัยอกหน้ากระดาน” อยู่มาวันหนึ่งมีพนักงานสาวคนใหม่เข้ามาทำงาน นั่นก็คือ “มาเรีย” (รับบทโดย เคียวโกะ ฟูคาดะ) นอกจากความสามารถในการขายของที่โดดเด่นแล้ว หน้าอกหน้าใจยังโดดเด่นไม่แพ้กันด้วย ภารกิจการขายชั้นเลิศจากสองสาวต่างไซส์ก็ได้เริ่มต้นขึ้นและสร้างแรงบันดาลใจในอาชีพการขายให้ได้เห็นกัน
เรื่องนี้มันก็แอบทะลึงตึงตังนิดนึงค่ะ แต่ก็ไม่น่าเกลียดจนเกินไป ความฮาก็อยู่ที่เรื่องหน้าอกหน้าใจของทั้งฝ่ายมีน้อยและมีมากนั่นเอง เป็นละครที่ทั้งตลกเฮฮา แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างแรงบันดาลใจในอาชีพพนักงานขายไปในตัว
5. Nodame Cantabile
ละครที่มาพร้อมกับเสียงดนตรีและเสียงหัวเราะ เรื่องราวของ “จิอากิ” (รับบทโดย ทามากิ ฮิโรชิ) อัจฉริยะทางด้านดนตรี มีความสามารถเล่นดนตรีได้หลายๆ อย่าง แม้ว่าเขาจะเรียนเปียโนเป็นวิชาเอก แต่ก็มีความฝันอยากจะเป็นวาทยากรระดับโลก เขาเลยไปเป็นลูกศิษย์กับวิเอร่า วาทยกรระดับโลกจากยุโรป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อาจทำตามฝันได้ เพราะเป็นโรคกลัวเครื่องบิน และวันหนึ่งเขาได้พบกับ “โนดาเมะ” (รับบทโดย จูริ อุเอโนะ) ผู้หญิงสุดเพี้ยน ผู้เกลียดการอาบน้ำและการจัดห้อง อ่านตัวโน้ตก็ไม่เก่ง แต่กลับมีพรสวรรค์ด้านทางดนตรี เพียงฟังเสียงเพลงแค่ครั้งเดียว ก็สามารถกลับมาเล่นเปียโนได้อย่างเป๊ะๆ การพบเจอของเขาและเธอ นำไปสู่การสานฝันและเพียรพยายามเพื่อเสียงดนตรีที่รักพร้อมๆ ไปกับประสบการณ์ชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสัน เสียงหัวเราะ และความรัก

6. Unubore Deka
ใครว่าละครแนวสืบสวนสอบสวนจะต้องเครียดเสมอไป แบบฮาๆ ก็มีค่ะ ใครอยากดูแนวนี้ แต่ก็อยากหัวเราะไปด้วย ลองหันมาดูเรื่องนี้กัน เป็นเรื่องราวของ อุนุโบเระ เดกะ (รับบทโดย โทโมยะ นางาเสะ) นักสืบหนุ่มโสดวัย 30 ปี ตกหลุมรักคนอื่นได้ง่าย และที่พีคสุดๆ ก็คือ พี่แกเล่นตกหลุมรักผู้ต้องหาทุกรายในคดีที่รับผิดชอบ! และก่อนจะปิดคดี อุนุโบเระก็มักจะยื่นข้อเสนอว่า จะเลือกอะไรระหว่าง “โดนหมายจับ” กับ “แต่งงานกับเขา” แต่ก็น่าเสียดายที่สาวแต่ละคนกลับเลือกที่จะสวมกุญแจมือแทนการสวมแหวนแต่งงานของนักสืบสุดเพี้ยน และเรื่องก็ยิ่งกลับตาลปัตรเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อวันหนึ่งอุนุโบเระรู้เข้าว่า แฟนเก่าที่เกือบจะได้แต่งงานด้วยกันนั้น ดันเป็นภรรยากับตำรวจคู่หูของเขาด้วย! ช่างเป็นนักสืบที่อาภัพความรักเสียจริงๆ

นี่ก็คือละครสืบสวนที่ผสมความฮาที่น่าดู รับประกันความฮาจากโทโมยะ นางาเสะเลยค่ะ บทฮาๆ รั่วๆ แบบนี้พี่แกไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ
7. Monster
มาที่ละครสืบสวนอีกเรื่องที่เรียกเสียงฮาได้ไม่แพ้กัน เรื่องนี้ก็กำลังฉายอยู่ทางช่อง ThaiPBS ด้วยค่ะ รับบทนำโดยชินโงะ คาโตริ แห่งวง SMAP และยามาชิตะ โทโมฮิสะ หรือยามะพี เป็นเรื่องราวของตำรวจหน้าใหม่มาดคุณหนูอย่าง “ไซออนจิ” (รับบทโดย ยามะพี) ได้มาทดลองงานในแผนกสืบสวนสอบสวนที่เขาชอบ แต่งานที่เขาได้รับกลับเป็นต้องมาจับตาดู “ฮิราสึกะ” (รับบทโดย ชินโงะ คาโตริ) ตำรวจสุดเพี้ยน ที่ไม่มีใครอยากเข้ามาข้องเกี่ยวด้วย แต่กลับมีฝีมือการไขคดีที่ไม่ธรรมดา
เรื่องนี้ขอบอกว่ายามะพีมาแบบรั่วๆ นิดนึง ส่วนชินโงะเองก็เล่นได้ฮาไม่แพ้กันค่ะ แอบขำหน้าของชินโงะ ชอบโผล่มาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง และทำหน้าตาให้ดูน่าตกใจแกล้งยามะพีให้ตกใจเล่นอยู่เรื่อย
8. Legal High
ถ้าดูเรื่องย่อละครนี้ ก็อาจจะทำให้คิดว่าเป็นละครญี่ปุ่นเครียดๆ เนื้อหาแน่นๆ อีกเรื่องหนึ่ง ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอาชีพทนายความ ว่าความกันในเรื่อง แต่พอดูจริงๆ แล้ว ขอจัดละครนี้ให้อยู่ในหมวดละครคอมเมดี้อีกเรื่องหนึ่งเลยค่ะ ใครที่ติดภาพซากาอิ มาซาโตะ ในมาดเคร่งขรึมกับบทฮันซาว่า นาโอกิล่ะก็ โปรดลบภาพนั้นไปเลยค่ะ สำหรับเรื่องนี้เขาจะมารับบทนำเป็นโคมิคาโดะ เซนเซย์ ทนายสุดเกรียนที่ไม่เคยแพ้ใคร มาพร้อมกับท่าทางฮาๆ รั่วๆ คนละโลกกับฮันซาว่าเลย
ละครเรื่องนี้ก็จะเป็นแนวอาชีพทนาย ว่าความกันอย่างดุเดือด พร้อมคำพูดเสียดสี จิกกัดสังคมเบา ในแบบตลกร้าย พร้อมคาแร็กเตอร์ของโคมิคาโดะ เซ็นเซย์ ที่มาเรียกเสียงฮา หัวเราะจนท้องแข็ง
9. Tamiou
เรื่องนี้เกี่ยวกับแนวการเมืองค่ะ แต่อย่าเพียงเครียดกันไป เพราะเรื่องนี้มันฮาแบบสุดๆ เป็นเรื่องราวระหว่าง “มุโต ไทซัน” (รับบทโดย เอ็นโดะ เคนอิจิ) ท่านนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ที่จู่ๆ ก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน ดันสลับร่างกับ “โช” (รับบทโดย สุดะ มาซากิ) ลูกชายไม่เอาไหนของตัวเอง เลยทำให้โชต้องมารับบทบาทเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนท่านนายกก็ต้องกลับไปเป็นเด็กวัยุร่น วัยเรียนอีกครั้ง

เมื่อคนสองคนที่มีบุคลิก นิสัย และวัยที่แตกต่างกันต้องมาสลับบทบาทกัน งานก็เข้าน่ะสิคะ เรื่องฮาๆ ก็ได้เกิดขึ้นจากเรื่องวุ่นๆ นี้ค่ะ จากท่านนายกมาดเข้มก็กลายมาเป็นนายกหงอยๆ ส่วนโช ลูกชายนายก จากผู้ชายติ๋มๆ จู่ๆ ก็ดุดัน เอาซะตั้งตัวไม่ทันเลยทีเดียว
10. Niche Sensei
ปิดท้ายด้วยละครตลกประจำ Winter Season นี้ค่ะ เรื่อง Niche Sensei สร้างมาจากมังงะเรื่อง “Niche Sensei Konbini ni Satori Sedai no Shinjin ga Maiorita” ถ้าใครอยากคลายเครียด เบาสมอง แนะนำเรื่องนี้เลยค่ะเป็นเรื่องราวของร้านสะดวกซื้อร้านหนึ่ง ที่วันดีคืนดีก็มีพนักงานใหม่เข้ามาทำงาน นั่นก็คือ “โทโมฮารุ นิอิ” เด็กใหม่ที่ไม่ธรรมดา เป็นนักศึกษาจากคณะพุทธศาสตร์ บุคลิกนิ่งๆ เงียบๆ ขรึมๆ แต่มีวิธีการรับมือกับลูกค้าที่ไม่เหมือนใคร และได้รับสมญานามว่า “นิชเช่ เซ็นเซย์”
สำหรับเรื่องนี้เปิดเรื่องขึ้นมาด้วยวลีตลกร้ายของตัวละครเอกอย่าง “นิทเช่ เซนเซย์” ว่า “พระเจ้าตายแล้ว” เมื่อเจอลูกค้าพูดว่า พนักงานต้องปฏิบัติกับลูกค้าอย่างดีสิ เพราะลูกค้าเปรียบเสมือนพระเจ้า นอกจากนี้ ตัวละครตัวอื่นๆ ก็เพี้ยนๆ ดูไม่ปกติดีกันเลยสักคนค่ะ ฮ่าๆ ไล่ไปตั้งแค่ผู้จัดการร้าน พนักงานในร้านรวมถึงเพื่อนสาวของรุ่นพี่นิทเช่ เซนเซย์ ที่ตกหลุมรักหนุ่มธรรมะธรรมโมหน้าตายเข้าอย่างจัง! นักแสดงแต่ละคน เล่นใหญ่แบบจัดเต็ม และเล่นกันล้นมาก ไม่เว้นสาว “เรนะ” เห็นสวยๆ น่ารักๆ แบบนี้ ก็เล่นได้ฮาสะใจเลยค่ะ เป็นละครที่ช่วยโยนความเครียดเราทิ้งไปได้เลยจริงๆ
นี่ก็คือละครญี่ปุ่นแนวคอมเมดี้สุดฮา 10 เรื่องที่อยากแนะนำค่ะ จริงๆ แล้วละครญี่ปุ่นมีแนวตลกๆ เยอะมาก แต่สำหรับบทความนี้ขอคัดเลือกมาแค่ 10 เรื่องนี้ก่อน เป็นเรื่องที่ถ้าได้ดูแล้วจะไม่ผิดหวัง แม้ญี่ปุ่นจะมีละครแนวหนักๆ เครียดๆ เยอะ แต่บทจะฮาก็ฮาแบบขี้แตกขี้แตนเลยจริงๆ ใครกำลังหาวิธีคลายเครียดอยู่ล่ะก็ ละครญี่ปุ่นแนวคอมเมดี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ แต่ก็น่าเสียดายตรงที่ว่า แต่ละเรื่องนี่หาดูยากเหลือเกิ๊นนน กว่าจะหาดูได้ ดีไม่ดีอาจจะเล่นเอาเครียดกว่าเดิมก็ได้นะคะเนี่ยยย :p
เรื่องแนะนำ :
– ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้ละครญี่ปุ่น
– ชื่อละครญี่ปุ่นตั้งมาจากอะไร?
– แนะนำ 5 ละครรักญี่ปุ่นที่ให้มากกว่า “รัก”
– รีวิวละครญี่ปุ่น Aka Medaka เรื่องจริงของนักเล่า “ราคุโกะ”
– พระเอก-นางเอกในแบบละครญี่ปุ่น
ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูล :
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=j0ffy&month=06-10-2013&group=16&gblog=1
Ouran High School Host Club
http://wiki.d-addicts.com/