รู้หรือไม่ดอกไม้มงคลปีใหม่ควรประดับก่อนสิ้นปี
ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะดูเจริญ พัฒนาทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี บ้านเมือง นักวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังมีความเชื่อในเรื่องต่างๆ ที่เรายังไม่รู้อีกหลายเรื่อง แม้แต่คนญี่ปุ่นสมัยใหม่ในปัจจุบัน
วันนี้อยากจะมาแชร์เรื่องราวที่เพิ่งทราบไม่นานมานี้จากการเป็นสะใภ้ร้านดอกไม้ นั่นคือช่วงจังหวะในการประดับดอกไม้เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่
โดยปกติคนญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมการต้อนรับเทพเจ้าโทชิกามิ (歳神様) เข้าสู่ที่อยู่อาศัย จึงมีการประดับตกแต่งบ้านด้วยสิ่งต่างๆมากมายและหนึ่งในนั้นก็คือการประดับดอกไม้สดที่มีความหมายมงคล ถึงแม้ว่าสมัยนี้มีเทรนที่เปลี่ยนไปบ้าง ทำให้บางท่านอาจจะตกแต่งเป็นดอกไม้ประดิษฐ์มากขึ้น แต่ถ้าเป็นไปได้ควรจะใช้เป็นดอกไม้สด เพื่อความสดใหม่และความมงคล ต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึง วันนี้จะมาเล่าถึงดอกไม้และพืชมงคล รวมทั้งช่วงเวลาที่ถูกต้องในการตกแต่ง เพื่อเป็นสิริมงคลอย่างแท้จริง
สำหรับดอกไม้และพืชมงคลมีมากมายหลายชนิด โดยวันนี้จะมาแนะนำทั้งหมด 9 ชนิดด้วยกัน ซึ่งหลักๆ จะมี 3 ชนิดที่ถือว่ามงคลและขาดไม่ได้สำหรับคนญี่ปุ่น ซึ่งสมัยก่อน แต่เดิมได้รับความเชื่อมาจากประเทศจีน ถือว่าเป็น 歳寒三友 หรือ Three Friends of Winter โดยมี
1.ใบสนและลูกสน : จาก 7 ชนิดมีเพียงใบสนก็ถือว่ามงคลเกินกว่าครึ่งแล้ว เหตุผลคือใบสนหรือต้นสนนั้นไม่ผลัดใบจึงเขียวขจีทั้งปี ทนแดดทนฝน จึงถือเป็นสัญลักษณ์ของอายุที่ยืนยาว สุขภาพแข็งแรง
2.ต้นไผ่และใบไผ่ : ไม่ว่าฝนตก ลมแรงเพียงใดใบของต้นไผ่ก็ยังคงอยู่ทนและเติบโตเป็นเส้นตรง นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้เป็นของใช้ในชีวิตประจำวันและงานฝีมือมาตั้งแต่สมัยโบราณ จึงถือเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น และเป็นสัญลักษณ์แห่งจิตใจที่แข็งแกร่ง
3.ดอกบ๊วย : ดอกบ๊วยเป็นดอกไม้ที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบมาตั้งแต่สมัยโบราณ สังเกตได้จากบทกลอนในมังโยชู (Manyoshu) ซึ่งเป็นบทกวีเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นมีอายุมากกว่า 1,200 ปี จะกล่าวถึงดอกบ๊วยมากกว่าดอกซากุระ อีกทั้งดอกบ๊วยจะบานเร็วกว่าฤดูใบไม้ผลิ ถือเป็นดอกที่บานอย่างสวยงามท่ามกลางความหนาวและส่งกลิ่นหอม จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการก้าวหน้าและนำพาโชคลาภ
4.ดอกกล้วยไม้ : ดอกกล้วยไม้ถือเป็นดอกมงคลเนื่องจากเป็นดอกไม้ที่มีรูปลักษณ์เหมือนเจ้าชายในความเชื่อของคนจีนโบราณ
5.ดอกเบญจมาศ : ดอกไม้ชั้นสูงที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีนในฐานะที่เป็นยาอายุวัฒนะ จึงถือเป็นดอกไม้มงคล และมีความสูงส่งเพราะเป็นตราประจำของจักรพรรดิและเป็นสัญลักษณ์ของราชการ โดยมีความเชื่อว่า “โชคลาภจะมาเยือนเมื่อประดับ”
6.ดอกคามิเลีย : เป็นดอกไม้ที่บานสะพรั่งสวยงามในฤดูหนาว อีกทั้งมีสีแดงและสีขาวซึ่งถือเป็นคู่สีมงคลสำหรับชาวญี่ปุ่น โดยดอกคามิเลียสีแดง เป็นตัวแทนแห่งความสวยงามจากข้างใน และดอกคามิเลียสีขาว หมายถึง ความงามที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสมบูรณ์
7.ดอกเซนเรียว : มีใบเขียวและออกลูกแดงช่วงฤดูหนาว ถือว่าเป็นพืชที่มีความทนทาน ออกลูกเป็นร้อยเป็นพัน จึงเป็นสัญลักษณ์ของทรัพย์สมบัติที่จะเพิ่มพูน
8.ดอกนันเต็น : เป็นดอกไม้ลักษณะพวกๆสีแดงคล้ายกับดอกเซนเรียว แต่ต่างกันตรงที่ดอกนันเต็นจะห้อยลงเหมือนพวงองุ่น โดยมีคำพ้องเสียงกับคำว่า “จะผ่านอุปสรรค์ไป” จึงเปรียบได้ว่า “จะเปลี่ยนความยากเป็นความโชคดี”
9.ใบโบตั๋น : เป็นหนึ่งในพืชมงคลและถูกประดับตกแต่งช่วงปีใหม่ตั้งแต่สมัยเอโดะ เดิมทีจะประดับเป็นดอกโบตั๋นที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นดอกไม้มงคล แต่เนื่องจากมีราคาสูงและหาซื้อยาก จึงเปลี่ยนมาประดับด้วยใบโบตั๋น โดยถือเป็นพืชในตระกูลเดียวกับกะหล่ำปลี คะน้า การที่ใบไม้ย้อมสีแดงและสีขาวเป็นสาเหตุหนึ่งที่กล่าวกันว่าเป็นมงคลและยังหมายถึงสิ่งดีๆ ที่ซ้อนทับกันเมื่อใบไม้ทับกัน
นอกจากนี้ยังนิยมใช้ดอกกุหลาบซึ่งเป็นดอกไม้ที่มีความสวยสง่า ดอกกล้วยไม้ฟาแลนนอปซิส ที่มีความหมายดอกไม้ว่าความสุขจะมาเยือน หรือดอกสวีทพีซึ่งเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ฤดูใบไม้ผลิที่พึ่งจะเริ่มบานด้วย
นอกจากดอกไม้และพืชมงคลแล้ว มักจะมีของตกแต่งเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ได้แก่
1.มิซึฮิกิ : ลวดอ่อนมงคล ซึ่งคนญี่ปุ่นนิยมที่จะผูกกับสิ่งต่างๆในเทศกาลน่ายินดี เช่น ปีใหม่ แต่งงาน
2.นกกระเรียนหรือปีนักษัตร : นกกระเรียนมีความเชื่อว่าอายุยืนเป็นพันปี จึงถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งอายุยืนยาว
3.ตัวอักษรเกชุน : เกชุนหมายถึงการที่เราพร้อมต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ พร้อมที่จะรับสิ่งใหม่ๆที่กำลังจะเข้ามา
ทั้งนี้ทั้งนั้นคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะซื้อดอกไม้มงคลสำเร็จรูปมาประดับตกแต่งบ้านเอง หรือบางท่านจะส่งไปให้กับญาติผู้ใหญ่ที่นับถือเพื่อเป็นสิริมงคลของการเริ่มต้นปีใหม่ ซึ่งคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ช่วงเวลาที่ถูกต้องในการเริ่มซื้อมาประดับตกแต่งหรือส่งให้กับคนสำคัญ สิ่งที่สมควรที่สุดคือการที่ดอกไม้ยังดูสดใหม่ในวันที่ 1 มกราคมซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ หลายท่านจึงเข้าใจผิดว่าซื้อดอกไม้มาประดับในเย็นวันสิ้นปีก็ยังทัน
แต่คนญี่ปุ่นโบราณเชื่อว่าเทพเจ้าจะมาเยือนที่บ้านตั้งแต่เช้าวันที่ 31 ธันวาคมแล้ว ดังนั้นหากตกแต่งดอกไม้ตอนเย็นถือว่าสายเกินไป ส่วนประดับเช้าวันนั้นก็ดูจะเสียมารยาทที่ไม่มีการจัดเตรียมมาก่อน
ส่วนวันที่ 29 ธันวาคมถือเป็นวันที่ต้องหลีกเลี่ยงอีกวัน เพราะเลข 9 สำหรับคนญี่ปุ่นนั้นไม่ได้เป็นเลขมงคลเหมือนบ้านเรา กล่าวคือ 9 ในภาษาญี่ปุ่นจะออกเสียงว่า “คุ” ซึ่งจะพ้องเสียงกับคำว่า “ความทุกข์”
ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มประดับดอกไม้มงคลปีใหม่คือวันที่ 28 และ 30 ธันวาคม ทั้งนี้หากไม่ได้เคร่งหรือเชื่อสิ่งศักสิทธิ์สักเท่าไหร่ก็สามารถประดับวันไหนก็ได้ตามความสะดวก
เรื่องแนะนำ :
– ศูนย์อาหารในตำนาน Marukan
– Christmas Wreath แห่งการต้อนรับฤดูหนาว
– Noel de Hirosaki พายแอปเปิ้ลอันดับหนึ่งในใจ
– Kono Koi Atatamemasu ka ซีรีส์อุ่นหัวใจด้วยขนมหวานนอกจอ
– พิพิธภัณฑ์โรงเรียนโชวะ
#รู้หรือไม่ดอกไม้มงคลปีใหม่ควรประดับก่อนสิ้นปี