เมื่อไปช้อปปิ้งเสื้อผ้าที่ญี่ปุ่น…คุณผู้อ่านทราบไหมคะว่า ถุงนี้ใช้อย่างไร เพื่อนดิฉันบางคนนึกว่าให้เอาไปใส่กระเป๋าถือเลยลองใส่ดู (แล้วนางก็ค้นพบทีหลังว่าใส่ไม่ได้…โฮะ โฮะ โฮะ) บางคนถือเข้าไปในห้องแบบงงๆ แล้วก็ยัดใส่กระเป๋าเก็บไปทิ้งที่โรงแรม จริงๆ แล้วมันคือ…
ใครชอบช้อปปิ้งที่ญี่ปุ่นยกมืออออออ!!!
ค่ะ ดิฉันก็เป็นหนึ่งในสตรีผู้สะบักสะบอมกับทริปญี่ปุ่นทุกครั้ง ไปทีไรเหมือนไปละลายทรัพย์ ไอ้นู่นก็น่าซื้อ ไอ้นี่ก็น่าใช้ รู้ตัวอีกทีแบงค์หมื่นเยนใบแล้วใบเล่าก็โบยบินจากกระเป๋าไป
เสื้อผ้าญี่ปุ่น ถ้าเป็นเสื้อยืด เสื้อที่ใส่ด้านใน เฉลี่ยราคาตั้งแต่ตัวละประมาณ 3 พันเยน (1 พันบาท) ขึ้นไป ส่วนเสื้อโค้ท ถ้าราคาสัก 15,000 เยน (5 พันบาท) ขึ้นไปถือว่าคุณภาพใช้ได้ค่ะ ป้ายแม้จะเขียน Made in China แต่ขอบอกว่าญี่ปุ่นคุมคุณภาพ Supplier ดีมาก เสื้อผ้าส่วนใหญ่จะรีดง่ายและทนค่ะ (อยู่ญี่ปุ่นมา 8 ปี ใช้เตารีดไม่ถึงสิบครั้ง นอกนั้นใช้เทคนิคการสะบัดๆ เอา จนบัดนี้ก็ยังงงๆ ว่ารอดมาได้อย่างไร)
ทีนี้เวลาเราไปช้อปปิ้งเสื้อผ้า ร้านเสื้อผ้าในญี่ปุ่นจะมีธรรมเนียมที่แตกต่างกับบ้านเราเล็กน้อย ลองอ่านไว้เป็นความรู้นะคะ
1. บอกพนักงานนิดหนึ่ง
หากเป็นร้านขายเสื้อผ้าใหญ่ๆ อย่าง Uniqlo หรือ H&M เราสามารถหยิบเสื้อผ้าตัวโปรดเข้าไปลองได้เลย แต่หากเป็นร้านเล็กๆ หรือแบรนด์ทั่วไป บอกพนักงานสักนิดนะคะว่าจะลอง
หากไม่ทราบภาษาญี่ปุ่น หรือไม่อยากจำ ไม่เป็นไรค่ะ เอาชุดมาทาบๆ ตัว แล้วชี้ไปทางห้องลองก็ได้ พนักงานน่าจะเก๊ทค่ะ ส่วนท่านใดที่พอพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ลองใช้ประโยคนี้ดูค่ะ 「試着してもいいですか?-Shichaku shit e mo ii desuka?」แปลว่า “ลองใส่ได้ไหมคะ” เท่านี้ พนักงานก็จะรีบยิ้มหน้าบานพร้อมตอบ “ไฮ่ โดโสะ” ให้เราแน่นอน
2. กรุณาถอดรองเท้า
ส่วนใหญ่ทางร้านจะให้เราถอดรองเท้าค่ะ สังเกตง่ายๆ ให้ดูห้องข้างๆ ว่ามีรองเท้าวางอยู่หรือเปล่า (555) แต่ถ้าห้องข้างๆ ไม่มีใครลองเสื้อ ให้ดูพื้นห้องค่ะ หากห้องลองเสื้อเป็นแบบพื้นยกระดับเป็นขั้นสูงจากพื้นนิดๆ หรือเป็นพรมก็มีโอกาสสูงที่เราต้องถอดรองเท้าค่ะ
ข้อดีสำหรับร้าน คือ พนักงานเห็นได้ชัดเจนว่าห้องใดมีลูกค้าลองเสื้ออยู่ เพราะหากดูแค่จากผ้าม่าน บางทีผ้าม่านปิดอยู่แต่ลูกค้าออกไปแล้วก็มี อีกเหตุผลหนึ่ง คือ ห้องไม่ค่อยเลอะ พนักงานทำความสะอาดง่าย
ร้านลองเสื้อบางร้านก็น่ารักมาก ในห้องลองจะเตรียมรองเท้าส้นสูงวางไว้ให้เลย ใครจะลองใส่คู่กับชุดก็ลองใส่ได้เลยค่ะ


3. กรุณาใช้ Face Cover
ในบรรดา 3 ข้อ ดิฉันคิดว่าเราชาวไทยมึนกับข้อนี้มากที่สุดค่ะ
ก่อนเข้าห้องลองเสื้อ พนักงานมักจะยื่นถุงที่ทำจากเยื่อกระดาษบางๆ ให้ และพูดภาษาญี่ปุ่นรัวๆ นุนิเนะ มุโมะ ตบท้ายด้วย “โอเนงายชิมัส”

เพื่อนดิฉันบางคนนึกว่าให้เอาไปใส่กระเป๋าถือ เลยลองใส่ดู (แล้วนางก็ค้นพบทีหลังว่าใส่ไม่ได้…โฮะ โฮะ โฮะ) บางคนถือเข้าไปในห้องแบบงงๆ แล้วก็ยัดใส่กระเป๋าเก็บไปทิ้งที่โรงแรม
จริงๆ แล้วมันคือ ที่คลุมหน้าค่ะ! (ภาษาญี่ปุ่น ออกเสียงว่า “เฟซ คะบ้า” มาจากคำว่า Face cover ซึ่งเป็นศัพท์ภาษาอังกฤษที่คนญี่ปุ่นคิดค้นขึ้นมาเอง….555) จุดประสงค์ คือกันไม่ให้เครื่องสำอาง โดยเฉพาะแป้งรองพื้นกับลิปสติก เลอะเสื้อที่ลองค่ะ
วิธีใช้ ให้นำด้านยาวไว้ข้างหน้า ด้านสั้นไว้ข้างหลัง แล้วก็สวมเสื้อตามปรกติเลยค่ะ (บางทีดิฉันจะลองกางเกง แต่พนักงานก็ยื่น Face cover ให้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้ใส่ไปทำไม สงสัยเป็น input automatic ที่พนักงานขายญี่ปุ่นถูกโปรแกรมมา)


พอลองเสร็จก็ถอดทิ้งไปได้เลย ง่ายๆ ค่ะ ลองดูขำๆ นะคะ ดิฉันแนะนำให้ใส่เพราะถ้าเครื่องสำอางเราไปเลอะเสื้อร้านเข้า ก็ไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นค่ะ เกิดโดนปรับขึ้นมา แย่เลย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านสาวนักช้อปนะคะ ☺ สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณคุณ Ampere สำหรับข้อมูลและข้อสังเกตค่ะ^^
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> เกตุวดี Marumura
อ่าน Japan Gossip ทั้งหมด CLICK HERE
เรื่องแนะนำ :
– Quiz ทายมารยาทสังคมญี่ปุ่น (ที่คนญี่ปุ่นเองอาจยังไม่รู้)
– การสังสรรค์ของสาวญี่ปุ่น
– Sumikko…คาแรคเตอร์สะท้อนนิสัยคนญี่ปุ่น
– เมื่อเปรียบผู้ชายญี่ปุ่นเป็นสัตว์ประเภทต่างๆ
– เทคนิคการจัดจานอาหารสไตล์คาเฟ่ญี่ปุ่น