เซ็คคุของดอกเก๊กฮวย
ภาพประกอบโดย WALK on CLOUD
บทความวันนี้จะมากล่าวถึงปฏิทินโบราณ(絶句:เซ็คคุ)วันสุดท้าย วันที่ 9 เดือน 9 ซึ่งเรียกกันว่า
重陽の節句
[โจโย โนะ เซ็คคุ]
ความหมายของคำว่า 重陽[โจโย] นั้นหากดูคันจิแต่ละตัว
重[โจ] มาจาก 重なる[คะสะนะรุ] ที่หมายถึง “ทับกัน”
陽[โย] หมายถึง ธาตุหยาง ของหยินหยาง
重陽[โจโย] จึงหมายถึง “ธาตุหยางที่ทับซ้อน”
ทำไมถึงเรียกวันที่ 9 เดือน 9 ว่าเป็น “ธาตุหยางที่ทับซ้อน“ กันละ
ในประเทศจีนนั้นเลขคี่เขาถือกันว่าเป็น “เลขหยาง” 陽数[โยซู] ซึ่งเลขที่มีค่ามากที่สุดคือเลข 9
วันที่ 9 เดือน 9 ที่เป็นเลขเก้าทับซ้อนจึงถือว่าเป็น 重陽の節句[โจโย โนะ เซ็คคุ] หรือ “ธาตุหยางที่ทับซ้อนกัน” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่มีการกินเลี้ยงเฉลิมฉลองเพื่อให้สุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัย หรือขอให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง
หาก “เลขหยาง” เป็นเลขดี วันที่ 9 เดือน 9 ก็น่าจะเป็นวันที่ดีมากๆใช่ไหม?
แต่ในความคิดของคนในอดีต เขากลับคิดกลับกัน หากมีเลขหยางทับซ้อนกัน จะเป็นเหตุให้ภัยพิบัตเกิดขึ้นได้ง่าย และอาจจะเกิดโชคร้าย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้น จึงมีธรรมเนียมที่จะปัดเป่าความชั่วร้ายในวันที่ 9 เดือน 9
ในช่วงแรกของยุคสมัยเฮอัน ปฏิทินของเซ็คคุทั้งห้าได้แพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่น เป็นหมุดหมายแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลสำหรับเหล่าครอบครัวผู้สูงศักดิ์ยุคเฮอัน
วันที่ 9 เดือน 9 ของปฏิทินโบราณนั้นตรงกับกลางเดือน 10 ของยุคปัจจุบัน เป็นช่วงที่ดอกเบญจมาศหรือดอกเก๊กฮวยกำลังบานเป็นที่น่าชวนชม มีความเชื่อกันว่าเก๊กฮวยเป็นต้นหญ้าที่มีพลังในการปัดเป่าความชั่วร้าย ในช่วงโจโยโนะเซ็คคุ ผู้คนเลยพากันไปชมดอกเก๊กฮวย และดื่มเหล้าที่ผสมดอกเก๊กฮวย แล้วขอพรให้ปราศจากโรคภัยและสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาว
และมีความเชื่อกันว่าเอาน้ำค้างที่ซับมาจากผ้าฝ้ายที่คลุมดอกเก๊กฮวย มาเช็ดผิวเพื่อเป็นการรักษาความเยาว์วัย คนก็เลยมาใช้เป็นไอเดียสร้างขนมที่ชื่อว่า “คิเซะวะตะ” (着せ綿 ซึ่งแปลตรงตัวว่า ฝ้ายคลุม) ซึ่งเป็นขนมที่นิยมเสิร์ฟกินในพิธีชา
ด้วยเหตุดังนี้ ช่วงวันปฏิทินโจโยโนะเซ็คคุจะนิยมเอาดอกเก๊กฮวยมาใช้ประกอบอาหาร ผู้คนจึงเรียกันว่า “เซ็คคุของเก๊กฮวย”
菊の節句
[คิคุ โนะ เซ็คคุ]
เซ็คคุของดอกเก๊กฮวย
กลายเป็นกิจกรรมสำคัญประจำฤดูกาลในหมู่ชาวบ้าน
แต่เมื่อเข้ามาในยุคสมัยเมจิ รัฐบาลเมจิได้ปรับปฏิทินมาเป็นแบบสากล จึงทำให้มีการประกาศยกเลิกปฏิทินเซ็คคุทั้งห้า แม้จะเปลี่ยนเป็นปฏิทินใหม่แล้ว ปฏิทินเซ็คคุอื่นๆก็ยังคงมีการทำกิจกรรมกันต่อ มีแต่เพียงโจโยโนะเซ็คคุที่ต่างกับชาวบ้านที่ผู้คนเริ่มที่จะละทิ้งมัน
นั้นเพราะว่าวันที่ 9 เดือน 9 ในปฏิทินใหม่นั้น ยังเป็นช่วงระยะเวลาที่ดอกเก๊กฮวยนั้นยังตูมอยู่เลย เป็นช่วงที่อากาศยังร้อนเหมือนหน้าร้อน ซึ่งสำหรับเซ็คคุที่เน้นถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลแล้ว วันที่ 9 เดือน 9 แบบปฏิทินใหม่จึงสูญเสียความรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลจึงทำให้ผู้คนเริ่มละเลยจากโจโยโนะเซ็คคุ
ในช่วงปฏิทินโจโยโนะเซ็คคุนั้น สิ่งที่ผู้คนนิยมรับประทานกันนั้นได้แก่
เหล้าคิคุ (คิคุสะเกะ 菊酒) หรือ เหล้าเก๊กฮวย โดยเอากลีบดอกเก๊กฮวยไปนึ่งแล้วไปจุ่มในสาเกเย็น สร้างความรู้สึกมีระดับในหนึ่งจอกของเหล้านั้น
ข้าวลูกเกาลัด (คุริโกะฮัง 栗ごはん) อาหารที่เป็นตัวแทนของฤดูใบไม้ร่วงคือลูกเกาลัด ทำให้ข้าวลูกเกาลัดเป็นอาหารประจำโจโยโนะเซ็คคุ ซึ่งจริงๆแล้วเกาลัดเริ่มจะมีให้เก็บเกี่ยวตั้งแต่กลางเดือน 8 เลยทำให้เรามีข้าวลูกเกาลัดให้กินทันในช่วงวันที่ 9 เดือน 9
วัฒนธรรมการกินข้าวลูกเกาลัดเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยยุคเอะโดะ ทำให้ในหมู่ชาวบ้านเรียกโจโยะโนะเซ็คคุในชื่อว่า “เซ็คคุของเกาลัด”
栗の節句
[คุริ โนะ เซ็คคุ]
เซ็คคุของเกาลัด
+++
นี่คือเรื่องราวของเซ็คคุ ที่ผมเขียนไปทั้งหมด
ปฏิทินเซ็คคุนั้นทำให้ผู้คนได้รู้สึกเห็นความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลครับ
ภาพประกอบ WALK on CLOUD
เรื่องแนะนำ :
– เทศกาลดวงดารา วันที่ 7 เดือน 7 ทะนะบะตะ
– ทังโกะโนะเซ็คคุ ดั่งปลาคาร์ฟว่ายทวนน้ำกลายเป็นมังกร
– ฮินะมะซึริ กับ เซ็คคุของลูกพีช
– เซ็คคุ…วันของมนุษย์
– วันเด็กญี่ปุ่นที่เป็นทั้งวันเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง
อ้างอิง
– https://skywardplus.jal.co.jp/plus_one/calendar/the/choyo/festival/
#เซ็คคุของดอกเก๊กฮวย