การขายของที่แท้จริงน่ะ ต้องใช้คอมพิวเตอร์ขายเท่านั้นไม่รู้เหรอ…โลกจะวิเศษ หรือน่ากลัวขนาดไหนนะ… ถ้าอีกหน่อยบทความที่คุณอ่านอยู่ อาจไม่ใช่คนเขียนอีกต่อไป เพราะ AI น่าจะเขียนเรื่องราวให้แซ่บตรงใจคุณมากกว่าใครบนโลกด้วยซ้ำ !!
บ่ายวันเสาร์ที่ไม่ค่อยเงียบสงบของผม ผมเห็นชื่อเพื่อนญี่ปุ่ของผมนคนนีง เขียนบทความ เกี่ยวกับการทำตลาด การทำ DX (Digital Transformation) … เห็นแล้วก็แอบตกใจและนึกไม่ถึง สมัยก่อนยังชวนกันไปกินข้าวมันไก่ แถวชิบุยะอยู่เลย
แต่มันคงจะเป็นบทความธรรมดามาก เพราะเรื่องราวบทความเหล่านี้ มีอยู่เกลื่อนกลาดเต็มไปหมดในโลกตอนนี้
ถ้าไม่ได้มีรูปคุณยานาอิ ทะดะชิ เจ้าของยูนิโค บริษัทเสื้อผ้าที่ตอนนี้พวกเราหรือคนกว่าครึ่งโลกรู้จักกันดี และเขาก็คือชายที่รวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่นด้วย โผล่งขึ้นมาว่า ยูนิโคของเรา พอถึงวันนึง กูเกิลจะกลายเป็นคู่แข่ง และเราต้องสู้กับเขา?!
บริษัทขายเสื้อผ้า ทำไมถึงไปพูดว่าต้องสู้กับกูเกิลล่ะ กูเกิลเขาเป็นบริษัทไอที ขายข้อมูลนะ… หรืออีกหน่อยกูเกิลจะทำแว่นตา เสื้อผ้ายี่ห้อกูเกิลเหรอ? คงไม่ใช่สักทีเดียว แต่ถึงนาทีนี้ เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า
“ผู้ใดครองข้อมูล … ผู้นั้นครองโลก”
แม้แต่สื่อญี่ปุ่นเองก็ยอมรับว่าถึงวันนี้ บริษัทญี่ปุ่นหากจะต้องไปต่อสู้กับบริษัทโลกออนไลน์ GAFA (เป็นตัวย่อของกลุ่มบริษัท Google Apple Facebook Amazon) คงต้องยอมรับว่ายากมาก… แต่มันยังมีสินค้า หรือวิธีการนำเสนอหลายๆ อย่างที่ญี่ปุ่น (หรือบริษัทในชาติอื่นๆ)
เพื่อนของผมเล่าว่า… ญี่ปุ่นยังค่อนข้างโดดเด่นเกี่ยวกับเรื่องเซนเซอร์ (ไม่ใช่หมายถึงการเซนเซอร์หนังโป๊นะ ^^) IC ชิป หรือการนำฮาร์ดแวร์มาผสานกับโลกจริงๆ (ที่ไม่ใช่โลกเสมือน) ลองคิดดูสิ โลกแห่งการขายของจะวิเศษขนาดไหนถ้า
เมื่อคุณเพียงนั่งที่โถส้วม ตัวเลขน้ำตาลหรือกรดยูริก จากปัสสาวะ สามารถโผล่ให้คุณเห็นได้ทันที และในวินาทีถัดไป ผลิตภัณฑ์ยาเกี่ยวกับเบาหวาน ข้อมูลจากโรงพยาบาลก็วิ่งมาหาคุณทันที
โลกของเสื้อยูนิโค จะเปลี่ยนไปขนาดไหน ถ้าเขาวิเคราะห์ได้ถึง ลูกค้าส่วนใหญ่หยุดดูที่ชั้นวางไหนเยอะสุด เขาหยิบเสื้อผ้าชุดไหน แบบไหนขึ้นมา และอัตราส่วนที่หลังจากหยิบขึ้นมาดูแล้ว ท้ายสุดเอาเข้าตระกร้าหรือซื้อด้วยความน่าจะเป็นกี่ %
โลกของการเขียนและขายหนังสือจะตื่นเต้นแค่ไหน ถ้าเราเดินเข้าร้านหนังสือ “Top 10 ของหนังสือที่คนพัทยาอ่านมากที่สุด”
“Top 10 ของหนังสือที่ผู้หญิงในกรุงเทพ ชอบอ่านที่สุด” หรือแม้แต่ หาก AI ได้ข้อมูลในเฟสบุ้คคุณ มันจะบอกได้ถึงว่าหนังสือเล่มนี้ คุณน่าจะชอบด้วยสกอร์เท่าไหร่ เหมือนที่ Netflix บอก % Match กับคุณได้!!
นี่ยังไม่รวมถึง โลกที่ยังไปไม่ถึงแต่จะไปถึงในไม่ช้า เมื่อคอมพิวเตอร์สามารถเก็บข้อมูลของเราได้ครบ หรือเกือบครบทุกอณู พวกเหล่า AI จะวิเคราะห์พฤติกรรม ความชอบและวิธีนำเสนอที่จะปิดการขายของเราได้ดีกว่านักขายทุกคนบนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ
จึงอาจไม่แปลกใจที่ เศรษฐีอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นจะมองว่าวันนึง ยูนิโคเองก็ต้องใช้เดต้ามหาศาล เพื่อสร้างสินค้า เพื่อสร้างกลยุทธตลาด กูเกิลอาจไม่ใช่มิตรที่ดีของเขาอีกต่อไป…
โลกจะวิเศษ… หรือน่ากลัวขนาดไหนนะ… ถ้าอีกหน่อยบทความที่คุณอ่านอยู่ อาจไม่ใช่คนเขียนอีกต่อไป เพราะ AI น่าจะเขียนเรื่องราวให้แซ่บตรงใจคุณมากกว่าใครบนโลกด้วยซ้ำ !!
ปล.
1) ชื่อบทความครั้งนี้ ผมได้แรงบันดาลใจจากหนังสือที่เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรท์ประเทศไทยปีล่าสุด “วรรณกรรมที่แท้จริงน่ะ ต้องใช้คอมพิวเตอร์เขียนเท่านั้นไม่รู้เหรอ”
มันเป็นเรื่องอีกแปดสิบปีข้างหน้า ที่คอมพิวเตอร์พัฒนาตัวเองมากจนสามารถเขียนวรรณกรรม จนได้รางวัลมากมาย ยังไม่พอ AI พัฒนาไปมากถึงขึ้น ตั้งคำถามว่า คอมพิวเตอร์จะมีความรักได้หรือไม่
ดังนั้นผู้อ่านอย่าตกใจหรือแปลกใจ… ว่าหนังสือหน้าปกประมาณนี้ หนังสือประเภทไลท์ โนเวลก็ สามารถเข้าชิงรางวัลซีไรท์ ระดับประเทศได้ด้วยรือ ?! มันเป็นไปแล้วครับ
(โดยส่วนตัว ผมชื่นชอบนักเขียนคนนี้มากเป็นพิเศษเพราะเขากล้าเขียนวรรณกรรมที่แหวกดี การหาและใช้ข้อมูลสร้างสรรค์มาก ผมเลยอยากอวย และจริงๆ น้องที่เขียนเรื่องนี้เคยได้รางวัลซีไรท์มาแล้วด้วย!!)
2) บทความนี้ยังคงเขียนโดยคนอยู่นะครับ… แต่อีกหน่อยอยากจะหุ่นยนต์ AI มาช่วยเขียนแทนเช่นกัน ^^
เราอยู่ในโลกที่ต่างจากเมื่อห้าปีก่อนมหาศาลแล้ว… เพราะโลกในวันนี้ ใครมีเดต้าดี… คนนั้นครองโลก
เรื่องแนะนำ :
– เรื่องตลก Nobel ทำไมคนไทยยังไปไม่ถึงซะที
– โนเบล…(อีกแล้ว)
– 継続は力なり – กรุงโตเกียวก็สร้างไม่เสร็จในวันเดียว
– [เรื่องสั้น 2058] @bV6eBJOQc7bUvgO
– สัมภาษณ์หางาน กับเงินเดือน 250,000
#การขายของที่แท้จริงน่ะ ต้องใช้คอมพิวเตอร์ขายเท่านั้นไม่รู้เหรอ