คราวนี้ซากาโมโต้ เรียวมะ (Sakamoto Ryoma) ได้พาโอเรียวภรรยาเดินทางไปด้วย 83 วันของการเดินทางครั้งนี้ เรียวมะและโอเรียวท่องเที่ยวไปตามแหล่งเที่ยวที่มีชื่อเสียงในหลายแห่ง สำหรับผู้นิยมเรียวมะว่ากันว่า นี่เป็นการเที่ยวแบบฮันนี่มูนครั้งแรกในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ต่อมาในปีแรกของศักราชบุงคิว (文久元年) ตรงกับปี ค.ศ. 1861 ได้เกิดคดีทำร้ายร่างกายอิคุจิ มุระนิน (井口村刃傷事件) ขึ้น เป็นคดีที่ได้บานปลายกลายเป็นความบาดหมางระหว่างซามุไรชั้นสูง กับซามุไรชั้นสามัญ ในบันทึกคำให้การในคดีนี้ มีชื่อของเรียวมะปรากฏในฐานะผู้แก้ต่าง แต่ในที่สุดซามุไรชั้นผู้น้อยก็ถูกบังคับให้คว้านท้อง ยิ่งเป็นการตอกย้ำความคับแค้นให้กับเรียวมะเพิ่มขึ้น
ต่อมาเรียวมะได้เดินทางไปฝึกฝนวิชาดาบที่แคว้นมารุคาเมะ (丸亀藩) ที่เป็นไปตามสัญญาในกิจกรรมที่ซามุไรคนหนุ่มจากแคว้นต่างๆ ในละแวกใกล้เคียงร่วมกันร่างขึ้นซึ่งไม่เป็นที่พอใจกับซามุไรที่เป็นขุนนางชั้นปกครองมากนัก ในปีต่อมาซามุไรชั้นปกครองได้ออกกฎให้ซามุไรในแต่ละแคว้นต้องทำงานให้กับสังกัดในแคว้นของตนเท่านั้น หากซามุไรใดขัดต่อคำสั่งนี้ ต้องรับโทษขับออกจากแคว้นในทันที ซึ่งก็จะกลายเป็นโรนิน (浪人) และเป็นผู้ผิดกฎหมายของแคว้น รวมถึงหากผู้ใดให้ที่พักพิงแก่ผู้ต้องโทษก็จะมีความผิดตามไปด้วย ต่อคำสั่งนี้ทำให้ซามุไรหลายคนที่เคลื่อนไหวในกิจกรรมดังกล่าวต้องกลายเป็นผู้ถูกขับออกจากแคว้น และเรียวมะเองก็ต้องโทษนี้ด้วยเช่นกัน

เมื่อถูกขับออกจากแคว้น เรียวมะก็เดินทางไปที่ต่างๆ มากมาย และในที่สุดก็ไปพำนักที่สำนักดาบชิบะที่เอโดะที่คุ้นเคย และระหว่างที่อยู่ที่เอโดะนี้ เรียวมะก็ได้มีโอกาสพบกับ คัตซึ ไคชู (勝海舟) ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นกำลังสมองที่สำคัญของรัฐบาลโตกุกาว่า เพราะว่าคัตซึดูเหมือนจะรู้เท่าทันความคิดแนวใหม่นี้ไปเสียทั้งหมด
แรกสุดเรียวมะตั้งใจว่าเมื่อได้พบกับคัตซึแล้วจะสังหารเสีย แต่เมื่อได้พบและได้สนทนากับคัตซึแล้ว เรียวมะถึงกับต้องตกตะลึงกับวิธีคิดของคัตซึและของสมัครเป็นศิษย์ของคัตซึ ในจดหมายที่เรียวส่งถึงโอโทเมะพี่สาวของเขา เรียวมะบรรยายลักษณะของคัตซึไว่ว่า “เป็นที่สุดของคนญี่ปุ่นเลย”
ต่อมาด้วยการเจรจาของคัตซึ เรียวมะได้รับการอภัยโทษขับออกจากแคว้น ทำให้เรียวมะได้กลับไปแคว้นโทสะอีกครั้ง คราวนี้เรียวมะได้ชักชวนเพื่อนร่วมรุ่นของเขาหลายคนเขาสู่โรงเรียนการเดินเรือของอาจารย์คัตซึ แล้วในที่สุดเมื่อได้รับอนุญาตจากรัฐบาล ก็ได้ก่อตั้งอู่ต่อเรือขึ้นที่เมืองโกเบ ช่วงนี้เรียวมะต้องวิ่งวุ่นหาเงินสนับสนุนอู่ต่อเรือจากผู้บริหารแคว้นต่างๆ

ในปี ค.ศ. 1864 เรียวมะถูกปฏิเสธการต่ออายุปฏิบัติงานนอกแคว้น แต่ด้วยงานของอู่ต่อเรือที่ต้องการความต่อเนื่อง เรียวมะจึงเพิกเฉยต่อการกลับแคว้น ส่งผลให้เรียวมะต้องโทษขับออกจากแคว้นอีกครั้ง แต่ก็ไม่ส่งผลอะไรกับชีวิตเรียวมะมากนัก ต่อมาเรียวมะได้ติดตามอาจารย์คัตซึไปที่นางาซากิ เรียวมะในวัย 30 ได้รู้จักเรื่องการค้าที่ท่าเรือมากขึ้น
ในเดือน 5 ของปีนั้น เรียวมะได้เดินทางไปเกียวโต คราวนี้เรียวมะได้พบกับ โอเรียวหญิงสาวที่ต่อมาได้กลายเป็นคู่ชีวิตของเขา และเรียวมะได้ให้เธอมาทำงานที่ร้านเทราดะของโอโทเซะผู้อุปถัมภ์เรียวมะระหว่างที่อยู่ที่เกียวโต
ต่อมาอาจารย์คัตซึบอกว่ามีคำสั่งให้นำคนขึ้นไปบุกเบิกดินแดนเอโซจิ (蝦夷地) ซึ่งก็คือฮอกไกโดในปัจจุบัน แต่ทว่าระหว่างนั้นได้เกิดปัญหากรณีกวาดล้างผู้ไม่ภักดีต่อระบอบโชกุนที่ร้านอิเคะดะในเกียวโต ซึ่งกลุ่มที่ถูกกวาดล้างในครั้งนี้ก็คือกลุ่มเพื่อนของเรียวมะที่เคยร่วมกิจกรรมเมื่อครั้งก่อนถูกขับออกจากแคว้นครั้งแรก และกรณีร้านอิเคะดะได้นำไปสู่ความแตกหักระหว่างแคว้นโจชูกับรัฐบาลโชกุน ความขัดแย้งครั้งนี้ส่งผลกับกิจกรรมต่างๆ ของอู่ต่อเรือ ท้ายสุดอาจารย์คัตซึก็ถูกปลดออกจากผู้อำนวยการอู่ต่อเรือ และอู่ต่อเรือถูกสั่งปิดลงในเดือน 3 ของปีต่อมา
เรียวมะเดินทางไปซาซึมะด้วยคำแนะนำของอาจารย์คัตซึ คราวนี้เรียวมะได้พบกับ ไซโก้ ทากาโมริ (西郷隆盛) ซึ่งต่อมาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในบุคคลแห่งยุค ไซโก้ได้ให้การสนับสนุนเรียวมะและพรรคพวกนักเรียนที่อู่ต่อเรือมาเปิดบริษัทการค้าคาเมะยามะ (亀山社中) ขึ้นที่นางาซากิ
และด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในญี่ปุ่น แต่ละแคว้นต่างก็มีความต้องการอาวุธที่มีอานุภาพสูงจากต่างประเทศ และด้วยที่เรียวมะได้เคยรู้จักกับบุคคลชั้นสูงเมื่อครั้งทำหน้าที่วิ่งเต้นสร้างอู่ต่อเรือ ทำให้เรียวมะต้องทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ปกครองแคว้นที่ต้องการอาวุธ แต่ความขัดแย้งหนึ่งที่เป็นที่ลำบากใจแก่เรียวมะก็คือความขัดแย้งระหว่างแคว้นโจชูผู้เป็นเหมือนเพื่อนเก่า กับแคว้นซาซึมะผู้ให้การสนับสนุนเปิดบริษัทคาเมะยามะ เรียวมะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการชักจูงให้สองแว่นแคว้นนี้เกิดความปรองดองกัน ซึ่งในที่สุดก็ได้เกิดสัญญาสมานฉันท์ระหว่างสองแคว้นนี้ (薩長同盟) แต่ก็เป็นความสงบที่ไม่ค่อยมั่นคงนัก และการปรองดองในครั้งนี้ก็ไม่เป็นที่พอใจของใครหลายคน

เรียวมะถูกลอบทำร้ายที่ร้านเทราดะ คราวนี้เรียวมะหนีออกมาด้วยสภาพที่บอบช้ำมาก ไซโก้เสนอให้ไปพักฟื้นที่แคว้นซาซึมะ คราวนี้ซากาโมโต้ เรียวมะ (Sakamoto Ryoma)ได้พาโอเรียวภรรยาเดินทางไปด้วย 83 วันของการเดินทางครั้งนี้ เรียวมะและโอเรียวท่องเที่ยวไปตามแหล่งเที่ยวที่มีชื่อเสียงในหลายแห่ง สำหรับผู้นิยมเรียวมะว่ากันว่า นี่เป็นการเที่ยวแบบฮันนี่มูนครั้งแรกในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
(โปรดติดตามตอนต่อไป)