เกาะกระต่าย… ฉันเห็นคลิปนี้ครั้งแรกแทบไม่เชื่อสายตา เพราะกูรูกระต่ายอย่างฉัน มั่นใจว่าเจ้าสัตว์ฟันแทะเหล่านี้ปกติจะอาศัยอยู่ในโพรง หลบซ่อน วิ่งไว ไม่งั้นอาจมีผู้ล่ามาคร่าชีวิตไปได้ทุกเมื่อ
กุมภาพันธ์ 2557 สถานีข่าวระดับโลก ซีเอ็นเอ็น และ นิตยสารระดับโลก ไทม์ แนะนำให้คนทั่วโลกรู้จักเกาะกระต่ายโอคุโนะชิมะ ( 大久野島 ) หลังจากนั้น นักท่องเที่ยวทุกชาติก็แห่กันไปดูกระต่ายที่นี่
ในคลิปที่ถูกส่งต่อทางไลน์และเฟซบุ๊ค เราจะเห็นภาพกระต่ายฝูงใหญ่วิ่งกรูไปรุมกันกินอาหารเม็ดเอร็ดอร่อยเหลือหลาย ดูเหมือนคนกำลังถูกฝูงกระต่ายจู่โจม แต่ผู้ถูกจู่โจมดูหน้าตาฟินเวอร์ เพราะกระต่ายบนเกาะกินแต่หญ้าแต่รากไม้ พอมาเจออาหารเม็ดก็เหมือนเด็กๆ เจอไส้กรอกชีส ก็ต้องวิ่งตามกันเป็นพรวน น้ำลายสอเป็นธรรมดา
ฉันเห็นคลิปนี้ครั้งแรกแทบไม่เชื่อสายตา เพราะกูรูกระต่ายอย่างฉัน มั่นใจว่าเจ้าสัตว์ฟันแทะเหล่านี้ปกติจะอาศัยอยู่ในโพรง หลบซ่อน วิ่งไว ไม่งั้นอาจมีผู้ล่ามาคร่าชีวิตไปได้ทุกเมื่อ (นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมกระต่ายจึงตื่นตูม ด้วยความที่อยู่ลำดับท้ายๆ ในห่วงโซ่อาหารจึงต้องระแวดระวังเสมอนั่นเอง) กระต่ายจะซ่อนตัวตอนกลางวัน หากินลั้นลาตอนกลางคืน นี่มาวิ่งไล่คนกันหน้าสลอนกลางถนนกลางวันแสกๆ มันเป็นไปได้อย่างไร ต้องไปดูให้เห็นกับตา
พอได้โอกาสกลับมาเยี่ยมครอบครัวญี่ปุ่นช่วงหน้าร้อนปีนี้ ก็เลยขอให้พี่ชายบุญธรรมชื่อจิโร่ซัง ซึ่งไม่ได้เจอกันมา 20 ปีพอดี พาไปเที่ยวเกาะกระต่าย แม้จิโร่ซังจะอยู่ฮิโรชิม่ามา 40 กว่าปี ก็ยังไม่เคยไปเกาะนี้เลย คงเพราะไกลตัวเมือง
ถึงวันนัด ครอบครัวโอตะรวมฉันเป็น 4 คนก็พากันทำข้าวปั้นไส้แซลม่อนแต่เช้า เตรียมน้ำท่า พากันขับรถไป หวังว่าจะได้ถูกรุมด้วยฝูงกระต่าย ระหว่างทางฉันก็นั่งชมวิวสองข้างทางเขียวขจีสบายตา เม้าธ์มอยถึงปัญหาสังคมบ้าง ต้นไม้ใบหญ้าบ้าง ไม่ทันไรก็มาถึงท่าเรือทะดะโนะอุมิ พอซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ ถ่ายรูปน่ารักๆ ในร้านขายตั๋วได้แป๊บเดียวก็ถึงเวลาเรือออก มีเรือออกทุกชั่วโมงเลย
เท้าแตะเกาะกระต่าย ตื่นเต้นน่าดูเมื่อเห็นกระต่ายกระจายตัวล้อมคนที่ให้อาหารอยู่เป็นกลุ่มๆ ทั่วไป เป็นทัศนียภาพที่แปลกใหม่ ตระการตา รถบัสฟรีกำลังจะออกตัวอยู่ตรงหน้า พวกเราก็ขึ้นไปเบียดกันจนเต็มรถ แย่งกันหายใจไม่กี่นาทีก็ถึงสถานีปลายทาง เบื้องหน้าเป็นอาคารชั้นเดียวกว้างขวางกลางเก่ากลางใหม่ ด้านในมีร้านอาหารกึ่งโรงอาหาร มีของที่ระลึกสวยๆ อยู่มุมหนึ่ง มีภาพกระต่ายเบ้อเริ่มเทิ่มติดบนกำแพงที่ประจัญหน้ากับประตูทางเข้า กระต่ายน้อยตาใสยืนทำหน้าอยากรู้อยากเห็นต้อนรับผู้คน
เรามาถึงกันตอนเที่ยงๆ แดดของฤดูร้อนเดือนสิงหาคมได้สาดส่องกองทัพกระต่ายให้ไปหลบร้อนอยู่ใต้ร่มไม้กันเสียส่วนใหญ่ แต่ถึงจะร้อนอย่างไร เราก็เห็นกระต่ายหลายสิบตัวกระโดดหยอยๆ ตามนักท่องเที่ยวเพื่อขอกินอาหาร สักพักก็ไปหลบนอนหลับพริ้มอยู่ใต้ไม้พุ่มเตี้ยที่กระจายอยู่ทั่วไป กระต่ายชอบนอนที่มีอะไรคลุมหัว มันจะรู้สึกปลอดภัย
คนส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมผักหรือผลไม้มา แต่จะซื้ออาหารเม็ดมาจากท่าเรือฝั่งโน้น ถ้ามาถึงเกาะแล้วไม่มีขายนะ ถุงละ 100 เยน ประมาณ 30 บาท (ถ้าซื้อ 5 ถุงแถมฟรี 1 ถุงไปเล้ย) ถ้าให้กระต่ายทีละเม็ดจากมือ ก็ให้ได้ตลอดทางเลย ถุงเดียวก็พอ แต่ถ้าอยากได้ภาพดราม่า มีกระต่ายรุมเป็นฝูง คงต้องใช้สัก 5 ถุงขึ้นไป
การให้อาหารกระต่ายที่นี่ สนุกตรงเดินไปให้ไปก็ยังได้ พื้นที่กว้าง กระต่ายตรึม วิ่งตามเราเป็นกระต่ายติดตามตัว ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน แต่สังเกตว่ากระต่ายจะตามอยู่ระยะหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้ามันออกนอกเขตพื้นที่ของตัวเอง อาจโดนกระต่ายเจ้าของพื้นที่ไล่กัด
ฉันเห็นร่องรอยสู้รบเป็นแผลอยู่ตามหัวหูของกระต่ายตัวผู้ได้ชัดเจน บางทีก็มาจากศึกชิงนาง ส่วนกระต่ายรักสงบก็ไปหาพื้นที่ของตัวเองอยู่ไม่ต้องไปแย่งกับใคร
พูดถึงกระต่ายรักสงบ ฉันมีภาพประทับผุดขึ้นมาทันที เป็นภาพแม่ลูกอ่อนนอนสงบอยู่กับลูกใต้พุ่มไม้เตี้ยๆ รกๆ แฝงตัวอยู่แบบที่ถ้าไม่ก้มลงหัวแทบติดพื้น ก็มองไม่เห็นแน่นอน อยากจะกรี๊ดสสสสส์ ตอนลูกไร้เดียงสา ไม่รู้จักความกลัว ตัวเล็กๆ วิ่งออกมานอกพุ่มไม้ด้วยความซน มีแม่ชำเลืองมองอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ เป็นบอดี้การ์ดให้
เกาะนี้กระต่ายอยู่กับอย่างสบายใจเพราะไม่มีศัตรูตัวฉกาจอย่างหมาแมวอยู่เลยแม้แต่ตัวเดียว คงถูกอัญเชิญออกนอกเกาะไปหมด กระต่ายเลยนอนตีพุง สบายใจ ผิดวิสัยกระต่ายที่อยู่ตามป่าเขามากๆ ตลกดี
กฎของเกาะ
ห้ามนำอาหารมนุษย์ให้กระต่ายกิน เช่น ขนมหวาน ขนมปัง ห้ามนำกระต่ายมาปล่อย (คนซื้อกระต่ายมาเลี้ยงมักไม่มีเวลาเลี้ยง อยากเอาไปปล่อยเกาะเพราะไม่รู้ว่ากระต่ายต้องให้เวลาเลี้ยงดูปูเสื่อสางขนไม่ใช่น้อย ถ้ามาเกาะนี้ เรียกว่าปล่อยเกาะจริงๆ ตามตัวอักษรเลยนะ) ห้ามวิ่งไล่กระต่ายเพราะกระต่ายจะตกใจ เครียดและป่วยได้ กระต่ายเซ็นซิทีฟนะคะ ห้ามเอามือไปใกล้ปากกระต่าย แต่กฎข้อนี้ ฉันลองดูแล้ว ถึงจะให้อาหารเม็ดแค่เม็ดเดียว กระต่ายทุกตัวก็กินอาหารเม็ดแบบกัดพลาดเป้าเลย ไม่มาเฉียดโดนมือฉันเลย แต่ระวังไว้ดีกว่า เพราะถ้าไม่รู้จังหวะ อาจพลาดได้
จากเอกสารเคลือบพลาสติกอย่างดีที่วางให้นักท่องเที่ยวอ่านได้ระหว่างนั่งเรือไปเกาะ มีภาษาญี่ปุ่น ไม่มีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ มีใจความว่า มีการกะประมาณประชากรกระต่ายเมื่อปี 2556 คาดว่ามีกระต่ายอยู่ 700 ตัวบนเกาะ ฉันว่าผ่านมาสองปีแล้ว บัดนนี้ นักท่องเที่ยวเดินทางไปให้อาหารเยอะขนาดนี้ น่าจะเพิ่มเป็นห้าพันตัวได้แล้ว ยิ่งไม่มีคู่อริอย่างหมาแมวบนเกาะ แถมมีนักท่องเที่ยวมาให้อาหารมากมาย กระต่ายต้องเพิ่มจำนวนเร็วมากแน่ๆ
แล้วกระต่ายมาจากไหนเยอะแยะ เอกสารบอกว่าน่าจะเป็นลูกหลานของกระต่าย 7 ตัวที่มีนักเรียนประถมคนหนึ่งเลี้ยงไว้แล้วหนีออกมาได้ใน พ.ศ. 2514
ส่วนบางสมมุติฐานบอกว่า เป็นกระต่ายทดลองที่ถูกปลดระวางหลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลง เกาะนี้ในฐานะที่เป็นสถานที่ทดลองอาวุธเคมีที่ใช้ในสงครามก็หมดหน้าที่อันโหดร้ายลงด้วย แปลงกายเป็นเกาะน่ารักสำหรับสร้างสรรค์จิตใจอันอ่อนโยนไปได้แบบพลิกฝ่ามือ
พอเดินเล่นให้อาหารกระต่ายมาตลอดทางเดินขึ้นเขา ผ่านจุดชมวิวเพื่อจะไปยังจุดเล่นน้ำทะเล ก็ยังมีกระต่ายออกมากินอาหารเรื่อยๆ ทีละสามถึงสิบตัวเป็นอย่างมาก ไม่ยักมาเป็นฝูงอย่างในคลิปวีดีโอ ก็เลยเข้าใจปิ๊งขึ้นมาว่าคลิปยูทูปที่เราเห็นกระต่ายเยอะเวอร์ๆ นั้น น่าจะเกิดจากการนำอาหารจำนวนมากไปล่อให้กระต่ายรวมตัวกันจำนวนมากๆ ก่อนแล้วค่อยถ่ายทำ
แม้ทาสกระต่ายจะพูดกันเป็นประจำว่า อาหารเม็ด ควรให้แค่ห้าหกเม็ดต่อวันเป็นเหมือนขนมก็พอ ผู้ดูแลเกาะนี้ก็ไม่ได้จำกัดการให้อาหารเม็ดแต่อย่างใด ถ้าคนเลี้ยงกระต่ายในบ้านแบบเคร่งครัดตามตำรา จะให้กระต่ายกินหญ้าแห้งหลากชนิดตามธรรมชาติ ให้อาหารเม็ดแค่ไม่กี่เม็ด ให้อาหารสดเล็กน้อย ระบบลำไส้ก็จะทำงานได้ดี เห็นกระต่ายอึออกมาเกือบตลอดเวลา นั่นเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแรง
กระต่ายที่อยู่ด้านในเกาะหรือบนภูเขาจะขี้กลัว ไม่คุ้นคนเท่ากับกระต่ายที่อยู่รอบสถานที่ที่คนเยอะๆ อย่างรอบโรงอาหารใหญ่ กระต่ายที่นั่นจะวิ่งเข้ามาหาคนอย่างไม่รีรอ แต่กระต่ายแถบชายหาดตรงจุดเล่นน้ำทะเลที่ลงมาจากภูเขาส่วนใหญ่จะวิ่งหนีเรา ต้องใช้วิธีโยนอาหารไปให้แทน
ในเกาะมีจักรยานให้เช่า มีศาลเจ้าให้กราบไหว้ มีจุดชมวิวหลายจุดบนเนินเขา มีที่เล่นของเด็กๆ เช่น ที่ฟังเสียงลมทะเลเป็นรูปหูกระต่าย หลายจุดก็จะเห็นหนุ่มสาวมานั่งพรอดรัก กินลมทะเลชิวๆ ประคองโอบกันอย่างมีความสุข มีสถานที่ครบสำหรับทุกคนในครอบครัว ทั้งร้านอาหารอย่างหรู โรงแรม สระว่ายน้ำ
ฉันชอบคอร์สจิโร่ซังเลือกเดินเล่นที่เกาะ เป็นคอร์สขึ้นเขาได้เหงื่อ สดชื่น เอ็นโดรฟีนหลั่งพองาม เมื่อลงเขามาก็เจอหาดเล็กๆ เล่นน้ำทะเลสนุกมาก ฉันเอาชุดมาเปลี่ยนด้วย ได้ใช้ห้องอาบน้ำหยอดเหรียญเป็นครั้งแรก เลยกะเวลาผิดไปหน่อย หยอดเหรียญพลาสติกที่แลกมาเหรียญละ 200 เยนอาบได้ 5 นาที ก็รีบอาบใหญ่นึกว่าจะไม่ทัน ปรากฏว่าเหลือเวลาเยอะเลย อาบเสร็จแล้วยังเหลือเวลา เลยเอาไว้ให้คนต่อไปอาบได้ แต่ก็ไม่มีใครมาต่อคิว
ตอนแรกไม่รู้ว่าถ้าปิดน้ำแล้ว เวลา 5 นาทีที่นับถอยหลังเป็นเลขบนจอ จะหยุดเดินด้วย เลยรีบอาบใหญ่ พอปิดน้ำจะเช็ดตัว อ้าว เวลามันหยุดเดินได้นี่ โถ… แบบนี้ใช้เวลาอ้อยอิ่งกับการถูสบู่ได้อีกตั้งเยอะ ตลกตัวเองก็ขำแบบกล้ำกลืนกันไปตามประสามือใหม่หัดอาบ
ล้อมกรอบวิธีเดินทาง
เกาะโอคุโนะชิมะ อยู่ห่างจากตัวเมืองฮิโรชิม่าประมาณ 1 ชั่วโมงโดยรถยนต์ ต้องขึ้นทางด่วนขับไปบนถนนแสนสะอาดและกว้างขวาง เลาะภูเขาลูกแล้วลูกเล่า สองข้างทางมีทิวเขาเขียวขจีให้ชมสบายตา
ถ้านั่งรถไฟชิงกังเซ็น ให้นั่งแบบโคดามะที่จอดสถานีย่อยด้วย จากสถานีฮิโรชิม่าใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่งไปถึงสถานีทะดะโนะอุมิ โดยต้องเปลี่ยนไปรถไฟท้องถิ่นที่สถานีมิฮาระ พอถึงท่าเรือก็ซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่เที่ยวละ 620 เยน ไปท่าเรือโอคุโนะชิมะใช้เวลา 12 นาที
ด้านมืดของอดีต
ในอีกด้านของเกาะกระต่ายที่แสนน่ารัก เราก็ได้พบความจริงที่แสนโหดร้าย
ตั้งแต่ฉันเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ฮิโรชิม่าเมื่อ 20 ปีก่อน ในเดือนสิงหาคมของทุกปี ชาวฮิโรชิม่าจะร่วมกันรำลึกถึงผู้บาดเจ็บล้มตายในสงคราม ในปีนี้เกาะแห่งนี้โด่งดังขึ้นได้ออกทีวีหลายรายการ ประเด็นสันติภาพถูกนำเสนออย่างละเอียดผ่านผู้คนที่เคยทำงานบนเกาะกระต่าย ซึ่งแต่ก่อนเป็นเกาะที่ใช้ทดลองอาวุธเคมีที่ญี่ปุ่นใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2
วันที่ 15 สิงหาคม 2558 ถือเป็นวันระลึกการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ครบรอบ 70 ปี ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญคือการทิ้งระเบิดปรมาณูสองลูกที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ จักรพรรดิ์ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามที่ยืดเยื้อยาวนานทันที ผู้เคราะห์ร้ายจากได้รับสารกัมมันตภาพรังสีจากระเบิดทั้งสองลูก ที่ยังมีชีวิตถึงปัจจุบันได้รับความทรมานแสนสาหัสกับอาการเจ็บป่วยเรื้อรังมาตลอด หลายคนให้สัมภาษณ์ออกทีวีรวมถึงสารคดีทางช่องเอ็นเอชเค พวกเขาเล่าว่า พวกเขาสูงวัยใกล้ฝั่งมากแล้ว ตั้งใจใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อบอกเล่าสิ่งที่เกิดกับเขาและคนในยุคสงคราม เพื่อให้คนรุ่นหลังไม่ลืมความเหี้ยมโหดของสงคราม ที่ทำร้ายทั้งผู้กระทำและผู้ที่ตกเป็นเหยื่ออย่างแสนสาหัส
คุณปู่คนหนึ่งเป็นผู้ดูแลสารเคมีที่ใช้เป็นอาวุธเคมีที่เกาะโอคุโนะชิมะกล่าวว่า ผมเป็นคนเดินไปดูสารเคมีทุกวัน แสบร้อนที่ตา จมูกลงไปถึงลำคอ บางทีถึงกับป่วยต้องหยุดพัก พอแก่ตัวก็เป็นโรคเกี่ยวกับโพรงจมูกจนถึงปัจจุบัน แม้ผมจะมีส่วนในการผลิตอาวุธเคมี ถือเป็นผู้กระทำ แต่ก็ต้องเจ็บปวดในสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้น ไม่ต้องพูดถึงเหยื่อว่าจะได้รับความทรมานเพียงใด จึงอยากให้ทุกคนจดจำ อย่าลืมว่าสงครามเลวร้ายอย่างไร
พ.ศ. 2472 โรงงานผลิตแก๊สพิษได้ถูกสถาปนาขึ้นบนเกาะ มีโรงงาน มีครอบครัว มีโรงเรียน มีวัดบนเกาะ ทุกคนใช้ชีวิตบนเกาะ แต่ฉันเดาว่าผู้ที่ได้ร่วมรับรู้การผลิตอาวุธเคมีทุกคนคงอึดอัดทรมานใจไม่น้อย ฉันดีใจที่สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงใน พ.ศ. 2488 แต่ก็เสียใจที่สิ้นสุดลงด้วยระเบิดปรมาณูที่แสนโหดร้าย ถ้าเพียงแต่ทุกคนเห็นความงามเล็กๆ น่ารักๆ ของกระต่ายหรือสิ่งมีชีวิตรอบๆ ตัวอยู่เป็นนิจ สงครามคงเกิดได้ยาก เพราะสันติได้เติบโตแล้วในเรือนใจ
คาเฟ่กระต่ายในโตเกียว
คาเฟ่กระต่ายในโตเกียว ถือเป็นสถานที่เยียวยาจิตใจที่ฟรุ้งฟริ้งติดอันดับในใจฉัน
“โอ๊ย ! อยากจับอะไรนุ่มๆ มองอะไรน่ารักๆ คลายเส้นประสาทที่ตึงใกล้จะแตกสักหน่อย…” ก็ต้องมาที่นี่เลย
คาเฟ่กระต่ายมีให้เลือกทั้งเล็กทั้งใหญ่ ทำไมต้อง “กุเต่ย” (ภาษาทาสเค้าเรียกกัน) ก็น้องเต่ยน่ารักตรงที่กระโดดฟุ๊บๆ กระตุ๊บกระติ๊บ แต่ละก้าวก็แสนน่าหยิกน่าขยำ ขนฟูนิ่มแบบรับประกันว่าจับแล้วลืมความทุกข์ไปในบัดดล ถ้าได้เห็นตอนจอมซนกระโดดดิ๊บ สะบัดก้นดุ๊กๆ กลางอากาศ ก่อนแลนด์ดิ้งแล้ววิ่งปรู๊ดไปไวกว่าแสง ต้องตกหลุมรักทันทีอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ถ้ากระต่ายดิ๊บ แปลว่า ดีใจ จะเห็นได้เฉพาะตอนที่เพิ่งได้รับการปล่อยออกจากกรง มาวิ่งเล่น
คาเฟ่กระต่าย มีหลายราคา ขั้นต่ำ 30 นาที ยิ่งอยู่เล่นนานเป็นชั่วโมง ราคาต่อนาทีก็จะถูกลง ถ้าคนชอบกระต่าย หนึ่งชั่วโมงก็ผ่านไปเพียงชั่วพริบตา คาเฟ่ขนาดเล็กจะเป็นห้องเช่าขนาดไม่กี่ตารางเมตร ถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนเล็กๆ กะทัดรัด เข้าไปถึงก็เจอที่จอดรองเท้าเรียงกันสูงแต่สะอาด มีตุ๊กตาและภาพกระต่ายตกแต่งน่ารักเต็มทุกตารางนิ้ว ถอดรองเท้าแล้วหมุนตัวกลับก็เจอกรงกระต่ายเรียงราย
กระต่ายน่ารักมีให้เลือกหลายสายพันธุ์ หน้ากรงมีชื่อ สายพันธุ์ นิสัยบอกไว้ด้วยลายมือน่ารัก ข้อมูลแน่นปึ้กครบถ้วนตามสไตล์คนญี่ปุ่น มีครัวเล็กๆ ใช้ทำเครื่องดื่ม ซุป ขนมปังง่ายๆ ให้ลูกค้า และมีบริการผักสดให้ป้อนกระต่าย ถ้วยเล็กๆ ถ้วยละ 200 เยน กระต่ายกินแป้งของหวานจะท้องอืดย่อยไม่ได้ ดังนั้นการให้ผลไม้หวานต้องให้เพียงชิ้นเล็กๆ เท่านั้น
วันนั้นที่ไป ฉันเจอผู้หญิงเข้ามาอีกสองคน ที่แปลกใจมีผู้ชายใส่สูทอย่างดีเข้ามาหนึ่งคน เหมือนเพิ่งออกจากออฟฟิศมาแวะเล่นกับกระต่ายแป๊บหนึ่งก่อนกลับบ้าน จริงๆ คาเฟ่เล็กๆ แบบนี้ นั่งสี่คนก็ดูเต็มห้องไปหมดแล้ว ไหนจะกรงกระต่าย ไหนจะโซนครัว โซนนั่งเล่น โซนห้องน้ำเล็กจิ๋ว แต่ด้วยความที่ทุกอย่างดูสะอาดสะอ้าน ตกแต่งน่ารัก เลยไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดแม้พื้นที่จะจำกัดเอามากๆ ตามประสาเมืองโตเกียว
ฉันประทับใจภาพบนทีวีจอแบนติดผนังวางโดดเด่นให้คนชม ฉายภาพกระต่ายที่เกาะโอคุโนะชิมะแสนเพลิน มีกระต่ายอยู่ชายทะเล กระโดดไปมา ซูมไปบางตัวหยีตาป้องกันลมทะเล พื้นหลังเป็นแสงอาทิตย์อัศดงสวยอย่างกับภาพฝัน ตัดภาพไปในวัดอันแสนสงบร่มรื่น กระต่ายโดดวิ่งเล่นกันบนพื้นหญ้าเขียวขจี แต่ฉันไปโอคุโนะชิมะมาไม่เห็นซีนแบบนี้นะ ฮ่าๆๆ คนทำสารคดีคงรวมภาพเด็ดมาจริงๆ มาที่นี่มานั่งดูจอนี้อย่างเดียว ทาสกระต่ายอย่างฉันก็ฟินแล้วอะ ยังไม่นับรวมเสื้อผ้ากระต่ายเย็บมือลายเก๋ญี่ปุ๊นญี่ปุ่น ต้องสอยกลับมาสักตัว ที่ต้องกรี๊ดอีกอย่างคือนิตยสารกระต่ายโดยเฉพาะเปิดออกมาแทบแดดิ้นตายเพราะความน่ารักของแต่ละช็อตแต่ละโมเม้นท์ของจอมซนที่นำเสนอในเล่ม
เรื่องแนะนำ :
– 5 แหล่งชมนกกาน้ำจับปลา หรือ ukai สัญลักษณ์แห่งฤดูร้อนของญี่ปุ่น
– วิธีซื้อตั๋วเบสบอล และเพลิดเพลินกับการชมเบสบอลในญี่ปุ่น
– มานั่งรถไฟสายดิสนีย์รีสอร์ท (Disney Resort Line) กันเถอะ
– วิธีการจัดการดูแลเครื่องราง (Omamori)
– 7 สิ่งที่ควรทำเมื่อมาอุเอโนะ (Ueno)