เกาะโอคินะวะ (Okinawa) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของภูมิภาคคิวชู ประกอบไปด้วยหมู่เกาะใหญ่น้อย 160 เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิค มีหาดทรายขาว น้ำใสสวยด้วยหมู่ปลาเวียนว่ายรอบปะการัง และทิวทัศน์รอบเกาะที่ดึงดูดนักประดาน้ำ และผู้รักทะเล อากาศก็อบอุ่นแสนสบายตลอดฤดูหนาว ส่งผลให้ดอกซากุระบนเกาะแห่งนี้เบ่งบานเร็วกว่าที่ใดในญี่ปุ่น
เกาะโอคินะวะ (Okinawa) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของภูมิภาคคิวชู ภูมิประเทศโดยรอบ ประกอบด้วยหมู่เกาะใหญ่น้อย 160 เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิค ทำให้มีหาดทรายขาว น้ำใสสวยด้วยหมู่ปลาเวียนว่ายร่ายรำรอบปะการังและทิวทัศน์รอบเกาะที่ดึงดูดนักประดาน้ำ และผู้รักทะเล ได้หย่อนกายใจในแหล่งที่พักอากาศริมชายทะเล และภูมิอากาศอบอุ่นแสนสบายตลอดฤดูหนาวที่เทียบเท่าฤดูใบไม้ผลิในภูมิภาคคันไซ ก็ส่งผลให้ดอกซากุระบนเกาะแห่งนี้เบ่งบานเร็วกว่าที่ใดในญี่ปุ่น

ทางเหนือของเกาะเป็นคาบสมุทรโมโตบุ ตลอดแนวชายฝั่งทางเหนือจรดทางตะวันตก เป็นที่ตั้งของรีสอร์ทที่ใหญ่สุด มีทั้งโรงแรม ที่พักริมทะเลติดหาดส่วนตัว และที่แหลมมันซะ เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่มีธรรมชาติสวยรอบทิศ
นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านริวคิวที่ทำเกษตรแบบพื้นเมือง สวนน้ำบุสะนะ (Busana Marine Park) ริมทะเลที่มีเรือติดกระจกสามารถชมทิวทัศน์ใต้ทะเลน้ำ สวนผีเสื้อและแมลง (Ryugu Butter Field NeoPark) สวนผลไม้ (Okinawa Fruitland) และ ศูนย์กล้วยไม้ (Tropical Dream Center)
สวนเอ็กซ์โป (Ocean ExpoPark) และ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Okinawa Churaumi Aquarium) ที่ใหญ่สุดในโลก (Churaumi หมายถึงทะเลใส) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ เมื่อปี ค.ศ. 2002 ได้ถูกเปิดขึ้นใน สวน (Okinawa Commemorative National Government Park) ประกอบขึ้นด้วยอ่างกักน้ำทะเล รูปโดมโค้งครึ่งวงกลม จำนวน 7 อ่าง มีความกว้าง 22.5 ม. สูง 8.2 ม. หนา 60 ซ.ม. มีปลาหลายสายพันธุ์ให้ชม รวมทั้งปลาฉลามวาฬ ปลาดาวจากก้นทะเล แล้วยังมีศูนย์ฝึกและแสดงปลาโลมาที่ฉลาดน่ารัก บางอ่างเปิดรับแสงแดดและน้ำบริสุทธิ์จากมหาสมุทรเพื่อเลี้ยงปะการังกว่า 800 ชนิดจากน่านน้ำคุโรชิโอในบริเวณใกล้เคียงด้วย
ทางใต้ เป็นพื้นที่เนินสูงมีการทำเกษตร ปลูกอ้อย ผัก และดอกไม้ เต็มไปด้วยโบราณสถานทางประวัติศาสตร์แห่งอาณาจักรริวคิวเมื่อราว 450 ปี จากศตวรรษที่ 15 – 19 เกาะโอคินะวะเป็นอาณาจักรริวคิวที่เป็นเอกเทศจากรัฐบาลญี่ปุ่น เคยรุ่งโรจน์และหลอมรวมเอกลักษณ์เข้ากับวัฒนธรรมจากต่างประเทศที่ได้ติดต่อแลกเปลี่ยนกันในยุคนั้น ดั่งร่องรอยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่ยังคงเหลือให้เห็นคือ ปราสาทชุริ (Shuri Castle) ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ ศตวรรษที่14 โดย พระราชา Satto แห่งอาณาจักรริวคิว เพื่อเป็นที่ประทับ และต้อนรับราชทูตจากจีน เมื่อปี ค.ศ.1945 เคยถูกทำลายโดยระเบิดจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาในปี ค.ศ.1958 ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่และมุงหลังคา 2 ชั้น ด้วยกระเบื้องแดงสวยสด ยังคงความงดงามของเอกลักษณ์โอคินะวะเอาไว้ ในปี ค.ศ.1992 ได้รับการบูรณะใหม่และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ปัจจุบันกลายเป็นเสน่ห์ของการท่องเที่ยวที่สวยเด่นสะดุดตาดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในฐานะโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในเมืองนาฮา (Naha City) นอกจากนี้ยังมีวัดทะมะอุดง (Tamaudon)สุสานแห่งราชสำนัก และ วัดเอนคะคุหยิ (Enkakuji) ซึ่งเป็นวัดชั้นเอกแห่งนิกายรินไซ
การเดินทาง จากเมืองนาฮา โดยรถไฟรางเดี่ยว (Yui Monorail) ลงที่สถานี Shuri ใช้เวลา 30 นาที แล้วเดินไปชมปราสาทใช้เวลาอีก 15 นาที
เมืองนาฮา ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะโอกินะวะ เคยรุ่งเรืองในฐานะเมืองหลวงแห่งอาณาจักรริวคิว เพราะมีท่าเรือที่ติดต่อการค้ากับต่างประเทศ ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศจีน ปัจจุบันกลายเป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจและการคมนาคมที่ใหญ่สุดบนเกาะนี้ บนถนนโคคุไซ มีร้านค้า ภัตตาคาร เรียงตลอดระยะทาง 1.6 ก.ม. ยังมีตลาดมะคิชิ (Makishi Public Market) อีกหนึ่งฉายาว่า ครัวแห่งนาฮา (Kichen of Naha) ที่คึกคักด้วยร้านอาหารทะเลสด และเป็นศูนย์การค้าใหญ่ที่จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีจากต่างประเทศ นักท่องเที่ยวจะเพลินกับการจับจ่ายและชิมอาหารทะเลรสชาติโอคินะวะ นอกจากนี้ยังมีสวนฟุคุชุเอน (Fukushu-en) ถูกออกแบบสวนจีนเพื่อจะสะท้อนธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของสถานที่งดงามในจีน และเป็นสัญลักษณ์ของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างอาณาจักรริวคิวกับจีนด้วย
เมืองนาฮา ยังมีการแสดงศิลปะการฟ้อนรำแบบราชสำนักริวคิวในชุดฟ้อนรำผ้าบิงกะตะ (Bingata) ที่สง่างาม ระบำเชิดสิงโตแบบจีน (Shishimai) การตีกลองใหญ่ และการสีซอสามสาย (Sanshin)บันเทิงศิลป์ซึ่งล้วนเป็นศิลปวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์โอกินะวะมาแต่ดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์สืบสานจากอดีตสู่ปัจจุบัน
นักท่องเที่ยวยังสามารถชมดอกซากุระแห่งเกาะใต้บานก่อนที่ใดในญี่ปุ่นราวเดือนกุมภาพันธ์ ในฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิชมฝูงปลาวาฬ ในฤดูร้อนมีการประชันระบำหมู่ (Eisa Dance) โดยพลังหนุ่มสาวในชุดเสื้อผ้าสีสวยสดใส ช่วงเทศกาลบง (Bon Festival) ที่คึกครื้นเริงร่าน่าสนุก น่าท่องเที่ยวได้อย่างอบอุ่นตลอดปี
การเดินทาง จากสนามบิน เข้าเมืองนาฮา โดยรถบัส (Limousine Bus) ใช้เวลาเพียง 15 นาที
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Okinawa Prefectural Art Museum ถูกขึ้นสร้างเมื่อปี ค.ศ. 2007 ที่เมืองโอโมโรมะจิ (Omoromachi) จัดเป็นศูนย์ศิลปวัฒนธรรมแห่งแรกในจังหวัดนี้ เพื่อการศึกษาธรรมชาติ อนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมือง และ สะสมศิลปะหัตถกรรมของโอคินะวะ ภายในจัดแสดงจอภาพขนาดใหญ่เปลี่ยนสี ชมแล้วราวกับผู้ชมกำลังเดินตามชายหาด เห็นแนวปะการังในน้ำทะเล พร้อมศึกษาชีวิตธรรมชาติบนเกาะ ได้อย่างเหมือนจริง
การเดินทาง จากสถานีในเมืองนาฮา มีรถไฟรางเดี่ยว (Monorail) ลงที่สถานี Omoromachi ใช้เวลา 15 นาที
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ :
http://www.ocvb.or.jp/en
http://www.jnet-okinawa.jp/kankou/post_91/
http://oki-churaumi.jp/en/index.html
http://jnto.org.au
http://radiusedcorner.blogspot.com/2011_03_01_archive.html
http://portraitsofanislandpeople.blogspot.com
http://es.paperblog.com/sakura-en-okinawa-905574/
http://architectureoftravel.wordpress.com