เที่ยวโตเกียว : เมือง Oji และความเกี่ยวพันกับจิ้งจอก … ในเขตคิตะ (Kita) ของกรุงโตเกียว มีเมืองแปลกเมืองหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้คน ที่นี่ในคืนวันสิ้นปี จะมีการจัด “ขบวนสุนัขจิ้งจอก” โดยผู้ร่วมงานจะใส่หน้ากากสุนัขจิ้งจอกเข้าร่วมเดินในงาน
ในเขตคิตะ (Kita) ของกรุงโตเกียว มีเมืองแปลกเมืองหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจจากผู้คน ที่นี่ในคืนวันสิ้นปี จะมีการจัด “ขบวนสุนัขจิ้งจอก” โดยผู้ร่วมงานจะใส่หน้ากากสุนัขจิ้งจอกเข้าร่วมเดินในงาน
เมืองนี้ชื่อว่า “โอจิ (Oji)” เป็นสถานที่มีนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของกรุงโตเกียวเดินทางมา เนื่องด้วยกิจกรรม ขบวนสุนัขจิ้งจอก ที่จัดขึ้นทุกปี
ลองมาเดินเล่นในเมืองที่มีความเกี่ยวข้องกับสุนัขจิ้งจอกนี้กันดีกว่า!
การเดินทางไปเมืองโอจิ (Oji)
การเดินทางไปยังสถานีโอจิ (Oji) ซึ่งอยู่ที่เขตคิตะจังหวัดโตเกียว สามารถเดินทางโดยใช้รถไฟสาย JR Keihintohoku (นั่งรถไฟประมาณ 19 นาทีจากสถานีโตเกียว) หรือรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Namboku แต่ถ้าหากมาจากชิบุย่าหรือ ชินจุกุให้นั่งรถไฟ JR สาย Yamanote และเปลี่ยนขึ้นสาย Keihintohoku ที่สถานี Tabata
สถานที่เดินเล่น 4 จุด
1. สวนสาธารณะ โอโตนาชิ ชินซุย (Otonashi-shinsui Koen)
ใกล้ๆ กับประตูทางออกทิศเหนือของสถานีรถไฟ JR Oji มีสวนชื่อโอโตนาชิ ชินซุย (Otonashi-shinsui Koen) อยู่ค่ะ
หากลองสังเกตโคมหินในสวนโอโตนาชิ ชินซุยดีๆ แล้ว จะเห็นว่ามีรูปสุนัขจิ้งจอกอยู่ในนั้นด้วย ถนนและร้านค้าใกล้ๆ ก็มีรูปภาพที่ชวนให้นึกถึงสุนัขจิ้งจอกอยู่มากมายเช่นกันค่ะ
ภาพเหล่านี้แสดงถึงสุนัขจิ้งจอกซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเทพอินาริ เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณธัญญาหาร และยังแสดงถึงความเกี่ยวเนื่องพิเศษระหว่างจิ้งจอกกับเมืองนี้อีกด้วย
2. ศาลเจ้าโอจิ (Oji Jinja)
ศาลเจ้าโอจิตั้งอยู่บนเนินเขาติดกับสวนโอโตนาชิ ชินซุย สร้างขึ้นในสมัยคามาคุระ (ปีค.ศ. 1185 – 1333) เป็นศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวเลยทีเดียว ที่นี่มีชื่อเสียงในด้านการปกป้องคุ้มครองจากไฟไหม้และภัยพิบัติ ผู้คนมากมายเดินทางมาฮัสสึโมะเดะ หรือ ไหว้ขอพรปีใหม่ในเช้าวันที่ 1 มกราคม
ทางด้านฝั่งโอโทริอิ หรือเสาโทริอิขนาดใหญ่ มีต้นแปะก๊วยที่มีความสูง 30 เมตร ซึ่งว่ากันว่าปลูกไว้เมื่อ 600 ปีก่อน ต้นไม้สูงนี้ยืนตระหง่านราวกับกำลังปกป้องประตูทางเข้าอยู่เลยค่ะ
ในบริเวณเขตศาลเจ้า สามารถชมภาพวาดที่เกี่ยวข้องศาลเจ้าและเทศกาลของศาลเจ้าโอจิที่ปรากฏในเอกสารเก่าแก่ได้
ในเขตศาลเจ้าที่คอยปกป้องเมืองโอจิมาหลายร้อยปีแห่งนี้ มีโฮโกระ หรือศาลเจ้าขนาดเล็ก และมุมที่มีเสน่ห์อยู่หลายแห่ง ควรลองไปชมให้ได้สักครั้งเลยนะคะ
ศาลเจ้าโอจิ (Oji Shrine)
ที่อยู่ : 1-12-1, Ojihoncho, Kita, Tokyo
สถานีใกล้ที่สุด : สถานี Oji (สาย JR หรือ Tokyo Metro Namboku Line)
การเดินทาง : เดิน 5 นาที จากสถานี Oji
เว็บไซต์ : http://ojijinja.tokyo.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
3. ศาลเจ้าโอจิอินาริ (Oji Inari Jinja)
ศาลเจ้าโอจิอินาริ (Oji Inari) ก็เป็นศาลเจ้าที่ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี และเป็นสถานที่อันเป็นที่รักของคนในท้องถื่น
ทางเข้าของศาลเจ้า Oji Inari ได้รับการคุ้มครองโดยรูปปั้นหินสุนัขจิ้งจอก สีหน้าอันมีชีวิตชีวาจะนี้ช่วยให้ผู้มาไหว้ศาลเจ้าระลึกอยู่เสมอว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นผู้รับใช้ของเทพเจ้า
ด้านหลังอาคารใหญ่ของศาลเจ้ายังมีทางเดินเล็กๆ ที่นำไปสู่โฮโกระ หรือศาลเจ้าเล็กๆ หนึ่งในโฮโกระนี้มี หินที่วางอยู่บนเบาะรองนั่ง ตั้งบูชาอยู่ สิ่งนี้คือหินที่เรียกว่าหินอธิษฐาน “โออิชิซามะ”
ให้ลองยกหินในขณะอธิษฐานอยู่ในใจ กล่าวกันว่าหากยกขึ้นคำอธิษฐานจะเป็นจริงค่ะ

ศาลเจ้าโอจิอินาริยังมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นจุดสุดท้ายของการเดินขบวนแถวสุนัขจิ้งจอกที่จัดขึ้นในวันส่งท้ายปีเก่าอีกด้วย เล่ากันว่าเหล่าผู้รับใช้ของเทพเจ้าจากศาลเจ้าอินาริในพื้นที่ต่างๆ จะมาชุมนุมกันในเขตศาลเจ้าโอจิอินาริแห่งนี้
ศาลเจ้าโอจิอินาริ (Oji Inari)
ที่อยู่ : 2-30-13 Kishimachi, Kita, Tokyo
สถานีใกล้ที่สุด : สถานี Oji (สาย JR หรือ Tokyo Metro Namboku Line)
การเดินทาง : เดิน 15 นาที จากสถานี Oji ทางออกทิศเหนือ
4. ศาลเจ้าโชโซคุอินาริ (Shozoku Inari Jinja)
ศาลเจ้าโชโซคุอินาริ (Shozoku Inari Jinja) เป็นศาลเจ้าขนาดเล็กตั้งอยู่ในเขตที่อยู่อาศัยใกล้กับสถานีโอจิ ถูกสร้างขึ้นตรงสถานที่ที่ในอดีตมีต้นเอโนกิ (ต้นตะขบญี่ปุ่น) เก่าแก่ขึ้นอยู่
ตั้งแต่ยุคเอโดะ มีตำนานเล่ากันว่า “ในคืนวันสิ้นปีเห็นเปลวไฟสีน้ำเงินที่ใต้ต้นไม้นี้ นั่นคือลมหายใจของสุนัขจิ้งจอกรับใช้ของเทพเจ้าในพื้นที่ต่างๆ ของพื้นที่แถบคันโตที่มารวมตัวกัน”
ในเขตศาลเจ้ามีบรรยากาศสงบเคร่งขรึม รูปปั้นโคะมะคิทสุเนะ(สุนัขจิ้งจอกรับใช้เทพเจ้า) ที่คอยรักษาประตูทางเข้าดูมีความโด่ดเด่นเป็นพิเศษ
สุนัขจิ้งจอกฝั่งซ้ายมี “ลูกหิน” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของเทพเจ้าอินาริ และสุนัขจิ้งจอกฝั่งขวาคาบ “กุญแจ” ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับรับพรจากเทพเจ้า
กุญแจยังเป็นสัญลักษณ์ของจิตใจที่ปรารถนาการศึกษาอย่างถ่องแท้ และการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความรู้ทางจิตวิญญาณ หรือหัวใจที่ใฝ่การค้นหาอีกด้วย
ในผลงานของอุตากาวะ ฮิโรชิเกะ (ค.ศ.1797 – 1858) จิตกรอุคิโยะเอะ มีภาพพิมพ์แกะไม้ลายเพลิงจิ้งจอกของ Oji อยู่ด้วย โดยวาดเป็นรูปเหล่าสุนัขจิ้งจอกที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ทำให้ตำนาน “ผู้รับใช้เทพในร่างสุนัขจิ้งจอกจะมาร่วมตัวกันที่โอจิในวันสิ้นปี” แพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง
ต้นเอโนกิที่ปรากฏในภาพ เป็นต้นไม้ที่เคยอยู่ในที่พื้นที่ของศาลเจ้าโชโซคุอินาริด้วยเหตุนี้จึงทำให้ขบวนสุนัขจิ้งจอกเริ่มออกขบวนจากศาลเจ้าแห่งนี้
ศาลเจ้าโชโซคุอินาริ (Shozoku Inari Jinja)
ที่อยู่ : 2-30-14 Oji, Kita, Tokyo
สถานีใกล้ที่สุด : สถานี Oji (JR หรือ Tokyo Metro Namboku Line)
การเดินทาง : เดิน 5 นาที จากสถานี Oji ทางออกทิศใต้
ขบวนสุนัขจิ้งจอกของ Oji
หากได้มีโอกาสฉลองปีใหม่ที่โตเกียวแล้วล่ะก็ ลองมาเข้าร่วมขบวนสุนัขจิ้งจอกของโอจิดูไหมคะ? ผู้เข้าร่วมจะแต่งชุดแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น สวมหน้ากากสุนัขจิ้งจอก แต่งหน้าเข้าร่วมขบวน
ถ้าต้องการเข้าร่วมขบวน ให้มารวมตัวที่ศาลเจ้าโชโซคุอินาริในวันส่งท้ายปีเก่าเวลาประมาณ 22.00 น. ถนนจะเต็มไปด้วยคนแต่งชุดเป็นจิ้งจอกและมีบรรยากาศคึกคักเลยทีเดียวล่ะ
ขบวนเริ่มตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืน มุ่งหน้าไปที่ศาลเจ้าโอจิอินาริบนเนินเขา แต่อย่าลืมว่าเทศกาลนี้ดำเนินการโดยผู้เกี่ยวข้องกับศาลเจ้า และถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของพิธีทางศาสนาด้วยนะคะ
เรายังสามารถเดินเล่นในเมืองได้จนกว่าขบวนจะเริ่มด้วย เมืองโอจิในวันส่งท้ายปีเก่า จะถูกประดับด้วยโคนไฟโชจิน ทำให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
และอย่าพลาดของอร่อยกับเครื่องดื่มอุ่นๆ ของร้านแผงลอยที่เรียงรายตามถนนด้วยนะ! หรือเพียงแค่มองคนแต่งชุดแฟนซีต่างๆ ก็ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินมากแล้ว
ในขบวนสุนัขจิ้งจอกนี้ คุณสามารถสัมผัสกับประสบการณ์อันสนุกสนานที่เรียกว่าไม่ว่าจะมองจากที่ใดก็เห็นแต่สุนัขจิ้งจอกเลยค่ะ
ที่อุโมงค์ระหว่างทางกลับจากศาลเจ้าโอจิอินาริ เข้าทางตัวเมืองก็มีภาพวาดสุนัขจิ้งจอกอันแสนน่ารัก ที่เมืองโอจิมีสุนัขจิ้งจอกอยู่มากมายเต็มไปหมดราวกับเป็นสัญลักษณ์นำโชคก็ว่าได้
หากมีโอกาสมาโตเกียวก็ลองแวะมาที่โอจิแห่งนี้กันดูนะ! เราจะได้พบกับสุนัขจิ้งจอกอันแสนลึกลับและมีเสน่ห์อยู่เต็มไปหมดเลย
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : MATCHA http://mcha-th.com
เรื่องแนะนำ :
– ขึ้นบันได 399 ขั้น สู่โบสถ์หลักที่ห้ามพลาดของวัดฮาเสะเดระ จังหวัดนาระ
– เที่ยวเล่นเพลิดๆ ระหว่างรอเครื่องบิน กับ “Narita Transit Program”
– วิวหิมะสุดงามที่หาชมได้เฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น!
– เมื่อพลาดรถไฟเที่ยวสุดท้าย ทำอย่างไรให้ปลอดภัยในเมืองหลวงญี่ปุ่น
– เที่ยวปราสาทพร้อมรับตราประทับ “100 ปราสาทชื่อดังของญี่ปุ่น”