สาเหตุที่ผมชอบนากาโนะเพราะผมคิดว่าร้านค้าส่วนใหญ่คล้ายๆ ของไทยครับ ฟีลลิ่งของการเดินเลยเหมือนอยู่ไทยและทำให้เราผ่อนคลายในการซื้อของมากกว่า (ฟีลเหมือนเดิมสะพานเหล็ก ฮ่าๆๆ)
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมเองยังคงอยู่ที่ญี่ปุ่น และตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่แถบๆ สถานีนากาโนะ
ดินแดนที่ดูผ่านๆ แล้วเหมือนสยามเยื้องๆ ลิโด้บ้านเรา (ดูจากจำนวนคนและการจัดร้านขายสินค้า รวมถึงตัวตึกแถวนั้น) เหตุนี้ทำให้ผมได้เดินเล่นในบริเวณโดยรอบอยู่บ่อยๆ ครับ พูดตรงๆ ว่าผมเองนั้นไม่เคยมาบริเวณนี้มาก่อน คือถ้าจะมาก็มาตอนกลางคืนเพื่อไปบาร์ของคนรู้จักในละแวกนั้น อย่างไรก็ตามพอได้เดินดูแล้ว พบว่าเป็นอีกแหล่งที่น่าสนใจและอยากให้ทุกคนได้แวะมาครับ

นากาโนะนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นแหล่งขายของสะสมหายากนานาชนิด รวมไปถึงสิ่งของที่ย้อนวัยต่างๆ (รวมไปถึงของมือสอง ของโล๊ะราคา และของล้างสต๊อกต่างๆ ก็จะเอามาขายที่นี่) ดังนั้นผมจะขอเล่าถึงห้างสรรพสินค้า Nakano Broadway ที่คุณสามารถเดินทางมาได้ง่ายๆ โดยรถไฟและออกทาง North Exit ก็จะเห็นร้านค้ามากมายอยู่ตรงหน้าทันทีครับ
Nakano Broadway เป็นศูนย์การค้าขนาด 4 ชั้น ถือว่าเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในย่านนั้นเลยทีเดียวครับ ร้านค้าส่วนใหญ่จะเปิดในช่วง 11 โมงเป็นต้นไป แต่ถ้าหากมาถึงก่อนหน้านั้น บริเวณรอบๆ ก็จะมีร้านให้นั่งรอมากมายไม่ว่าจะเป็นโดนัทชื่อดังอย่าง Mister Donut หรือร้านท้องถิ่นต่างๆ (คือรูปแบบของทางเดินมันจะเป็นห้างตั้งอยู่ด้านในสุด ดังนั้นการจะไปขึ้นห้างต้องเดินผ่านร้านรวงต่างๆ ไปก่อนนั่นเอง)
สาเหตุที่ผมชอบนากาโนะเพราะผมคิดว่าร้านค้าส่วนใหญ่คล้ายๆ ของไทยครับ ฟีลลิ่งของการเดินเลยเหมือนอยู่ไทยและทำให้เราผ่อนคลายในการซื้อของมากกว่า (ฟีลเหมือนเดิมสะพานเหล็ก ฮ่าๆๆ)

ภาพด้านบนนี้คือ “หนังสือการ์ตูนเก่า” ครับ เก่ามากๆ บางเล่มเกือบห้าสิบปีแล้ว และราคาขายก็สูงมากๆ เช่นกัน สูงถึงกว่าหนึ่งแสนห้าหมื่นเยน (อันนี้ยังถูกนะครับ จริงๆ ในร้านมีบางชุดที่ถูกดันขึ้นไปถึงล้านเยนเลย ราคาน่าตกใจมากๆ) ใครที่สนใจพวกของสะสมลองมาที่นี่รับรองไม่ผิดหวังครับ
นอกจากของสะสมพวกหนังสือการ์ตูนแล้ว ที่นี่ยังมีพวกของเล่มในสมัยก่อนมากมาย รวมไปถึงสินค้าที่ผลิตในอดีตและหาซื้อได้ยากในปัจจุบัน อย่างเช่นสินค้าการ์ตูนหน้ากากเสือเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว หรือใหม่หน่อยก็ดราก้อนบอล โปเกม่อน ที่ผลิตมาในสมัยเรายังเด็ก สถานที่นี้ก็จะรวบรวมมาขายเยอะแยะ เรียกว่าเราสามารถมาย้อนความทรงจำและเลือกซื้อสิ่งที่เราขาดหายไปในวัยเด็กได้อย่างสนุกสนาน สนนราคาตั้งแต่ 100 เยนเป็นต้นไปครับ

หากถามว่าสถานที่นี้แตกต่างจากแถวๆ อากิบะอย่างไร ? ผมคิดว่าสถานที่นี้ค่อนข้างเป็นกันเองกว่าครับ คือมันเป็นร้านที่อยู่ของมันเงียบๆ เราไปเดินซื้อ ไม่ได้หวือหวาเหมือนในอากิบะที่ทุกร้านเปิดเพลงเสียงดังแข่งกันและทำให้สมาธิในการเลือกซื้อของมันหายไป
อีกอย่างสถานที่นี้ถูกจริตกับผม (ซึ่งพ้นวัยรุ่นมาแล้ว) อากิบะอาจจะเน้นของใหม่ๆ เป็นหลัก แต่ที่นี่คือของที่ตรงกับยุคสมัยของเรา เรียกได้ว่าหากคุณเคยมีความสุขกับช่อง 9 การ์ตูน ที่นี่ก็จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ (อย่างเช่นกันดั้มบางอัน กล่องเยินๆ หน่อย เขาขายกันแบบห้าร้อยเยน เคยเจอแบบเดียวกัน แต่กล่องเนี้ยบกว่ ขายที่อากิบะพันสองร้อยเยน หากใครไม่ซีเรียสเรื่องกล่อง มาที่นากาโนะได้เลยครับ จะมีของสภาพดีแต่กล่องเยินขายอยู่เยอะมาก)

นอกจากการ์ตูนแล้วที่นี่ยังมีสินค้ามือสองอื่นๆ ในทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าไอดอลอย่างเช่น ผ้าแขวนขนาดเท่าตัวจริงของไอดอลบางคนที่หาซื้อตามร้าน official ไม่ได้แล้ว ที่นี่ก็จะมีขายครับ หรือพวกการ์ด / ภาพ ต่างๆ ที่เราต้องไปซื้อของกินตามร้าน official ก่อนแล้วค่อยลุ้น ที่นี่ก็จะมีแยกขายเลย สำหรับคนไม่อยากจ่ายเงินไปลุ้น จริงๆ ตามอากิบะก็มีร้านแบบนี้เยอะครับ แต่หากเทียบราคาแล้ว นากาโนะจะถูกกว่ามาก ที่สำคัญร้านแบบนี้ในห้างจะมี 3 ร้าน แยกเลยว่าเป็นร้านขายไอดอลผู้ชายอย่างเดียว ร้านของสาย 48 อย่างเดียว และร้านของสาย hello project อย่างเดียว โดยในแต่ละร้านก็จะมีของค่ายอื่นๆ ปะปนอยู่นิดหน่อย (แต่ Baby Metal นี่มีทุกร้าน ดูจะป๊อบปูลาร์มาก)
อนึ่งการซื้อสินค้าที่นี่แนะนำให้เดินดูทั้งหมดสักรอบนึงก่อนนะครับ สินค้าชนิดเดียวกันก็มีราคาแตกต่างกัน เราเดินดูและเลือกอันที่คุ้มค่ากับราคาที่สุดก็ดีครับ
ร้านค้าอื่นๆ ที่น่าสนใจก็เช่นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้ามือสองครับ คือมันมีหลายเกรดมากกกก อย่างเช่น ps3 นี่เหลือ 5000 เยนยังมีเลย (แต่สภาพไม่สมบูรณ์นะครับ มันจะมีเขียนไว้ข้างๆ เลยว่าปัญหาคืออะไร หากเรารับได้ หรือจะไปซ่อมต่อก็ตามใจ) อย่างเช่น “ช่อง hdmi เสีย” ฯลฯ (ผมไม่ค่อยทราบเรื่องเกมครับ ไม่รู้ว่ามันคุ้มหรือไม่คุ้ม แต่มีหลากหลายจริงๆ คงต้องมีถูกใจเข้าสักอัน ยังไงลองแวะไปดูนะครับ) รวมไปถึงคอมพิวเตอร์ต่างๆ อย่าง macbook pro ที่หาได้ในราคา 25000 เยน (มือสอง)
เอาเป็นว่าใครที่ไม่เก่งเทคโนโลยีก็ต้องดูดีๆ แต่ใครที่เก่งหรือพอมีความรู้อยู่บ้าง ลองแวะดูที่นี่ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวจริงๆ ครับ

ร้านอื่นๆ ที่น่าสนใจก็เช่น “ร้านนวดน้องแมว” กล่าวคือมันเป็นร้านนวดเล็กๆ ถึงเล็กมาก แต่คนนวดจะเป็นผู้ใหญ่ชุดเมดใส่หูแมว แล้วเราเดินผ่านก็ได้ยินเสียงคนร้องเป็นแมวอยู่เรื่อยๆ จนสงสัยไปหยุดดู ก็ไม่มีอะไรอะครับเป็นผู้หญิงใส่ถุงมือแมวทุบๆ ผู้ชาย นวดๆ (ซึ่งเอาจริงๆ คงไม่ได้ช่วยอะไร) สนนราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่ ใครอยากลองก็เชิญเลยครับ ที่นี่มีให้ลองแน่นอน !!!
หากใครมีข้อสงสัยหรืออยากพูดคุยกันก็ติดต่อได้ที่ทวิตเตอร์ @pumiiiiiiiiii เลยนะครับ ^^ ขอบคุณครับ…ปูมิ