วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (87) คัมภีร์แห่งวาโย (ลม): สิบ สิ่งที่เรียกว่า ใน นอก ในสายสำนักอื่น
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน สัปดาห์นี้นับว่าเป็นเนื้อหาของ “คัมภีร์แห่งวาโย” ตอน “โค้งสุดท้าย” ก่อนจะเข้าสู่ “ปัจฉิมลิขิต” พูดอีกอย่างคือ เราอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” กันใกล้จะจบเล่มแล้วนะครับ ผมในฐานะคนแปลและเขียนนี่ อ้า โอ้ จะจบแล้วหรือนี่ มันแบบ อา โหวง โอ นี่เขียนข้ามปีมาแต่ต้นปี 2565 จะจบแล้วเหรอเนี่ย (ฮา) เอ้า อีกนิดเดียว ฮึดๆ หน่อย (ทั้งคนเขียนและคนอ่านต้องอึดพอกัน) ไปลุยกันเลยครับ
คำแปลข้อความต้นฉบับ
風の巻
คัมภีร์แห่งวาโย
一〇 一 他流に奥表と云事
สิบ สิ่งที่เรียกว่า ใน นอก ในสายสำนักอื่น
`兵法の事に於て `何れを `表 `といひ何れを `奥 `と云ん `芸によりことにふれて `極意 `秘伝 `などいひて奥口あれ共敵と打合時の理に於ては表にて戦ひ奥をもつてきると云事に非ず `我兵法のおしへ様は始て道を学ぶ人には其わざのなりよき所をさせならはせ合点の早くゆく理を先に教へ心の及がたき事をば其人の心をほどくる所を見分て次第次第に深き所の理を後に教る心也 `され共大形は其事に対したる事様を覚えさするによつて `奥 `口 `と云所なき事也 `されば世の中に山の奥を尋るに `猶奥へ行ん `と思へば又口に出るもの也 `何事の道に於ても奥の出合所も有口を出してよき事も有 `此戦の理に於て何をかかくし何をか顕さん
ในเรื่องของพิชัยสงคราม สิ่งใดเรียกว่า “นอก” สิ่งใดเรียกว่า “ใน” แล้วแต่ศิลปะ แตะสิ่ง (นั้นๆ) เรียกว่า “ยอดวิชา” “เคล็ดลับ” แม้มีข้างใน (กับ) ปากทาง ก็ตาม ในหลักการของยามตีประสานกับศัตรู สู้ด้วยนอก (อาศัย) ฟันด้วยใน เรื่องที่เรียกว่า (อย่างนี้) หามีไม่ อาการสอนของพิชัยสงครามของข้าฯ นั้น เริ่มแรก กับคนที่เรียนวิถี ให้ทำให้หัดซึ่งที่ที่เป็นได้ดี (เป็นได้ง่าย) ของกระบวนท่านั้นๆ สอนหลักที่จะไปยังจุดรวมได้ไวก่อน เรื่องที่จิตไปถึงได้ยากนั้น มองแยกซึ่งที่คลายปมซึ่งจิตคนนั้นๆ แล้วจึงตั้งจิตสอนทีหลังซึ่งหลักที่ลึกไปตามลำดับลำดับ แม้กระนั้น ภาพใหญ่นั้น โดยอาศัยให้จำได้หมายรู้ซึ่งสภาพของสิ่งที่มีต่อสิ่งนั้น ย่อมไม่มีที่ที่เรียกว่า “ข้างใน” “ปากทาง” กระนั้นในโลก ในการไปเยือนข้างในของภูเขา หากคิดว่า “ต้องไปข้างในยิ่งไปอีก” ก็จะออกมาที่ปากทางอีก แม้ในวิถีของเรื่องใด ที่ที่จะได้ประสบ (มีประโยชน์) ที่ข้างในก็มี การออกปากทางแล้วเป็นเรื่องดีก็มี ในหลักของการศึกนี้ ซ่อนสิ่งใดแล้วก็จงยังให้ปรากฎซึ่งสิ่งใดนั้น
`然によつて我道を伝るに誓紙罰文など云事を好まず `此道を学ぶ人の智力をうかがひ直なる道を教へ兵法の五道六道の悪しき所をすてさせおのづから武士の法の実の道に入うたがひなき心になす事我兵法の教への道也 `能々鍛錬有べし
โดยอาศัยเป็นเช่นนั้น ในการถ่ายทอดวิถีของข้า ไม่ชมชอบสิ่งที่เรียกว่าคำสบถสาบาน ไต่ถามกำลังปัญญาของผู้เรียนวิถีนี้ สอนวิถีที่ตรง ให้ละทิ้งที่ไม่ดีของคติ ๕ ภูมิ ๖ ของพิชัยสงคราม เข้าสู่วิถีที่แท้ของนักรบไปตามเรื่องของมันเอง เกิดเป็นจิตที่ไม่สงสัย เป็นวิถีของการสอนพิชัยสงครามของข้าฯ ควรฝึกฝนบ่อยๆ
การตีความและอภิปราย
ผมอ่านแล้ว ได้เห็นทัศนคติของมูซาชิแล้ว ต้องยอมรับว่า มีความทันสมัยอยู่ในที คงเพราะความที่มูซาชิไม่ได้เป็นซามูไรแต่แรก ดังนั้นจิดใจความคิดจึงไม่ติดอยู่ในกรอบของแบบแผน จึงมองว่า การที่พวกสายสำนักวิชาต่างๆ ชอบมีอะไรจำพวก “เคล็ดลับ” “สุดยอดวิชา” เนี่ย ถ้าพูดอย่างไม่เกรงใจ มันเป็นการตลาดล้วนๆ (พยายามสร้างมูลค่า) มูซาชิมองว่า การเรียนการสอนนั้น ถ้ากับคนเริ่มเรียน ก็เอาอะไรพอที่เป็นพื้นฐานที่หัดได้ง่ายก่อน (เพราะเปิดมายากมาก คนจะท้อแล้วไม่เรียน) พอถึงจุดหนึ่งก็ค่อยชี้แนะในแบบที่ปรับให้เหมาะกับคนนั้นเป็นคนๆ ไป (การศึกษาที่ดีคือการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เติบโตอย่างปัจเจก ตามข้อจำกัดของแต่ละคน มิใช่ยัดเยียดให้ลงบล๊อกเดียวกันหมด เป็นไงครับ มูซาชิทันสมัยไหม)
อีกอย่างหนึ่ง มูซาชิมองว่า วิชาน่ะพอเรียนไปถึงจุดหนึ่ง คนเรียนจะตระหนักได้เองว่า สุดท้าย มันก็ต้อง back to the basic กลับมาดูกันที่พื้นฐาน กลับมาตระหนักถึงความสำคัญของพื้นฐาน
ฉะนั้นมันไม่มีอะไรที่ควรจะต้องไปจงใจทำให้มัน “ลับ” มันควรจะแบบให้คนเรียนเขาเรียนไปเอาเท่าที่ว่าเรียนได้เท่าไหร่ก็เรียนไปเถิด ไอ้การที่จะต้องบอกว่า เฮ้ยนี่ความลับของสำนัก ห้ามแพร่งพราย ต้องสาบานกับเทวดาฟ้าดินอะไรเนี่ย มันก็นะ
ทีนี้มาถึงการอธิบายศัพท์ ผมอ่านนี่ออกจะอึ้งเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่ามูซาชิจะเอาศัพท์พุทธศาสนามาเล่น
โกะโด 五道 “ห้าวิถี” ในที่นี้ผมพยายามเทียบเคียงคำศัพท์พุทธศาสนาของไทยได้ว่า คติ ๕ โดยขอเทียบคำไทย (ไม่สิ บาลี) ญี่ปุ่นให้ดูดังนี้
1. นิรยะ [นรก] จิโงคุ(地獄)
2. ติรัจฉานโยนิ [กำเนิดดิรัจฉาน] จิคุโช(畜生)
3. ปิตติวิสัย [ภูมิแห่งเปรต] กาคิ(餓鬼)
4. มนุสสะ [มนุษย์] นินเง็น(人間)
5. เทวะ [เทวดา] เท็นโจ(天上)
โรคุโด 六道 “หกวิถี” ผมเทียบได้เป็น ภูมิ 6 ดังนี้
นรกภูมิ จิโงคุโด(地獄道)
เปรตภูมิ กาคิโด(餓鬼道)
ติรัจฉานภูมิ จิคุโชโด(畜生道)
อสุรกายภูมิ ชูร่าโด(修羅道)
มนุสสภูมิ นินเง็นโด(人間道)
เทวภูมิ เท็นโด(天道)
แปลมาถึงขนาดนี้ มีอึ้งเลยครับ
อย่างไรก็ดี หากท่านใดเคยศึกษาพุทธศาสนาจะมีเรื่องเล่าว่า ตราบใดที่ยังไม่พ้นจากกามาวจร เราก็จะวิ่งๆ วนๆ แบบอย่างดีก็เป็นเทวดา แล้วหล่นจากเทวดาอาจเกิดอีกทีเป็นหมาหรือเป็นอะไรก็ได้ในภูมิทั้ง ๖ นี่หละ วนๆ ไป มูซาชิคงจะเอาตรงนี้มาเปรียบเปรยเพื่อเตือนใจ ตราบใดที่เรายังเป็นเพียงผู้ศึกษาในวิถี ยังเรียนไม่จบ (ถึง “คัมภีร์แห่งวาโย” จะเทียบเท่าสายน้ำตาล ใกล้ดำแล้ว แต่ยังไม่ดำนะ) เราคิดว่าเราฝึกมานานแล้วดีแล้วเก่งแล้ว อาจจะห่วยลง อาจหลงเดินทางผิด เมื่อไหร่ก็ได้ (หากไม่ประคองสติให้ดีๆ ยังตนให้อยู่ในความไม่ประมาท) ต้องคอยเตือนตนเสมอ อะไรที่รู้ว่าไม่ดีก็ให้เว้นเสีย
นี่แหละครับ คือคุณค่า ของคำสอนของมูซาชิ มันคือตำราชีวิตนะครับไม่ใช่แค่วิชาต่อสู้
ผมเองก็ยังต้อง เรียนต่อไป ครับ
ยังต้องอดทน กับบางวันที่อะไรๆ มันไม่ดี สู้ให้ผ่านวันกันไป
ไม่แน่ เหตุการณ์บ้านเมืองในโลกนี้ อาจทำให้เรายิ่งต้องเร่งเรียน เร่งหัด เพื่อเอาชีวิตรอด ยิ่งกว่านี้ก็ได้ สงครามเกิดขึ้นเป็นหย่อมๆ สะเก็ดไฟของมันเริ่มกระเด็นใส่คนไทยในต่างแดนแล้ว ดีไม่ดี สะเก็ดไฟอาจกลายเป็นไฟลุกไหม้ ลามมาถึงคนไทยในประเทศไทย ก็ได้
คราวหน้าก็ “ปัจฉิมลิขิต” แล้วนะครับ อย่าลืมติดตามนะครับ รักคนอ่านครับ สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (86) คัมภีร์แห่งวาโย (ลม): เก้า การใช้ความเร็วในพิชัยสงครามอื่น
– โรคซึมเศร้า สังคมญี่ปุ่น สังคมไทย เราควรเอาพุทธศาสนามาช่วยบำบัดดีไหม?
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (85) คัมภีร์แห่งวาโย (ลม): แปด การมีการใช้เท้าในสายสำนักอื่น
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (84) คัมภีร์แห่งวาโย (ลม): เจ็ด สิ่งที่เรียกว่าการจับตาดูในสายสำนักอื่น
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (83) คัมภีร์แห่งวาโย (ลม): หก การใช้การตั้งท่าทะจิในสายสำนักอื่น
#มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (87) คัมภีร์แห่งวาโย (ลม): สิบ สิ่งที่เรียกว่า ใน นอก ในสายสำนักอื่น