วิชายุทธ วิถีเซน by Lordofwar Nick
มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (13) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของการแต่งกายแห่งพิชัยสงคราม
สวัสดีครับท่านผู้อ่าน สงกรานต์ปีนี้ เป็นอย่างไรบ้างครับ? ตัวผมเองเข้าสู่เดือนเมษาพร้อมกับเหตุการณ์เขย่าขวัญที่ขอเรียกว่า “โควิด is everywhere” ภายในสัปดาห์เดียวแผนกธุรการที่ทำงานผมติดกันระนาวเริ่มจาก 3 แล้วก็กลายเป็น 4-5 คน ในไลน์ผลิตไม่ต้องพูดถึง หายไปทุกระดับตั้งแต่ซูเปอร์ไวเซอร์ยันคนงาน
ส่วนผมยังโอเคอยู่เพราะตอนนี้ยกระดับการเสริมภูมิคุ้มกันตัวเองด้วยการ “กินอาหารให้เป็นยา” ไปซ้อมเสร็จ ขากลับแวะรถเข็นขายเต้าฮวย ซื้อน้ำขิงไม่ใส่น้ำตาลมากินก่อนนอน บางวันกินข้าวซอยใส่หอมแดงเยอะๆ พูดอีกอย่างคือเราต้องป้องกันโรคให้ตัวเองลงไปในระดับของการใช้ชีวิตปกติกันเลย ไม่กินน้ำเย็น กินกาแฟร้อน (กาแฟดำ) เสมอๆ
พูดไปแล้วการกินอาหารให้เป็นยา การระวังตนให้เป็นปกติวิสัยนั้น ก็ไปพ้องกับคำสอนของมูซาชิที่ผมจะได้กล่าวต่อไปว่า “การให้ทำกายปกติเป็นกายแห่งพิชัยสงคราม ทำกายแห่งพิชัยสงครามให้เป็นกายปกติ เป็นข้อใหญ่ใจสำคัญ” อยู่พอดี ซึ่งแปลความแบบบ้านๆ ได้ว่า แม้ในชีวิตประจำวันก็ต้องทำตัวให้พร้อมรบเสมอ เหมือนอย่างตอนนี้ที่ผมพยายามรบกับโควิดที่อยู่รอบๆ ตัวแบบที่ไม่มีทางหนีหรือหลบซ่อนเลย ต้องประจัญหน้ากับมันด้วยพลังภูมิคุ้มกันที่มีเท่านั้น
ว่าแล้วก็ เข้าเรื่องเลยละกันครับ
คำแปลข้อความต้นฉบับ
水の巻
คัมภีร์แห่งอาโป
三 一 兵法の身なりの事
สาม เรื่องของการแต่งกายแห่งพิชัยสงคราม
`身のかかり顔はうつむかず あをのかず かたむかず ひずまず目をみださず ひたいにしはをよせずまゆあいにしわをよせて目の玉のうごかざる様にしてまたたきせぬ様に思ひて目を少しすくめる様にしてうらやかに見ゆるかほ鼻すぢ直にして少しおとがひを出す心也 `首はうしろのすぢを直にうなじに力を入れて肩より総身はひとしく覚え両の肩をさげ背すぢをろくに尻を出さずひざより足先まで力を入て腰のかがまざる様に腹をはり `くさびをしむる `と云ひて脇差のさやに腹をもたせて帯のくつろがざる様にくさびをしむると云教有り `総て兵法の身に於て常の身を兵法の身とし兵法の身を常の身とする事肝要なり `能々吟味すべし
การแขวนกาย หน้านั้นอย่าก้ม อย่าเงย อย่าเอียง อย่าเบี้ยว อย่าทำตาให้ปั่นป่วน หน้าผากอย่าให้ย่น หว่างคิ้วให้ย่น ลูกตาอย่าขยับไปมา รู้นึกไว้ว่าอย่ากระพริบ ตาหรี่เล็กน้อยให้ใบหน้าดูพองาม สันจมูกให้ตรง ใจ (รู้สึก) ยื่นคางเล็กน้อย ลำคอนั้นให้เส้นข้างหลังตรง ใส่กำลังไปที่ท้ายทอย จากไหล่ทั่วทั้งตัวให้หมายรู้ทั่วเสมอกัน ไหล่ทั้งสองตกลง เส้นหลังจัดให้ดีอย่ายื่นก้น จากเข่าถึงปลายเท้าใส่กำลัง ยืดหน้าท้องอย่าให้เอวงอ เอาฝักวากิซาชิมาใส่เอวอย่างที่เขาเรียกว่า “กระชับลิ่ม” ดังคำสอนที่ว่ากระชับลิ่มให้ดีอย่าให้สายคาดเอวหย่อนคลาย โดยรวมเกี่ยวกับกายแห่งพิชัยสงคราม (นั้น) การทำกายปกติให้เป็นกายแห่งพิชัยสงคราม ทำกายแห่งพิชัยสงครามให้เป็นกายปกติ เป็นข้อใหญ่ใจสำคัญ ขอจงคิดพินิจให้ดีๆ
การตีความและอภิปราย
เนื้อหาตอนนี้ ตรงไปตรงมา เป็นรูปธรรมชัดเจน ดังนั้นจะไม่ขอพรรณนาให้มากไปนะครับ
…แต่จะขออภิปรายความเห็นสักหนึ่งอย่าง…
ท่วงท่าร่างกายของคนเรา ไม่ว่าจะกำลังทำอะไร จะนั่ง นอน ยืน เดิน ก็ตาม ท่วงท่าเหล่านี้ ล้วนมีผลต่อสภาพจิตใจ
พ่อผมเคยสอนผมว่า อย่านั่งกอดเข่าเป็นอันขาด มันเป็นท่านั่งของคนมีความทุกข์ครอบงำ หมองหม่น ท้อแท้
อย่านั่งก้มหน้าหลังงอ มันดูไม่มีสง่าราศี
ตอนผมเรียนดาบอิไอ ท่านั่งที่ดีที่ควร คือท่านั่งเซสะ (คุกเข่า หลังเท้าราบไปกับพื้น) และท่านั่งทาจิฮิซะ (ชันเข่าขวาขึ้น) เพราะเป็นท่านั่งที่ “พร้อมประจัน” พร้อมยันตัวขึ้นแล้วสืบเท้าขวาออกเพื่อ “ชักดาบฟันคู่ต่อสู้”
ตอนผมเรียนไอคิโด ผมถูกสอนให้เดินด้วยเข่า (ชิกโก้ 膝行) แม้จะอยู่ในสภาพคล้ายท่านั่งก็ยังต้องเดินได้
การเดินด้วยเข่า (ชิกโก้ 膝行) ในวิชาไอคิโด ภาพจาก pinterest
เมื่อผมเรียน bjj ผมถูกสอนว่า แม้อยู่ในท่านอน ก็อย่านอนแผ่หลา จงพยายามยกขา รีบตั้ง open guard แม้หลังจะติดพื้นก็อย่าให้มันราบติดไปกับพื้นเสียทีเดียว เก็บคางไว้ที่คอ (หลังติดพื้น 100% สู้ใครเขาไม่ได้ หนีก็ไม่ได้ โดนทับตายอย่างเดียว)
Open guard ภาพจาก Wikipedia
เพื่อทำใจให้พร้อม ทำใจให้ผ่าเผย ท่วงท่าของเราก็ต้องพร้อม ต้องมีความผ่าเผย
อีกอย่างคือ การจะทำให้ท่วงท่าร่างกายพร้อม ผ่าเผยนั้น ร่างกายกล้ามเนื้อก็ต้องแข็งแรงด้วย
ผมเคยอ้วนหนักร้อยกว่าโล จำได้ว่าเดินลากรองเท้าแตะ จนเมียรำคาญเสียงรองเท้าแตะถูพื้น เป็นเพราะร่างกายอ่อนแอ ไม่มีกำลังจะยกตีนตัวเอง…
ร่างกายที่แข็งแรงนำมาซึ่งท่วงท่าที่เข้มแข็ง ร่างกายที่แข็งแรงและท่วงท่าที่เข้มแข็งนำมาซึ่งสภาพจิตที่แข็งกล้า
นอกจากท่วงท่าร่างกายจะมีผลต่อจิตใจแล้ว ในทางกลับกัน จิตใจก็มีผลต่อท่วงท่าร่างกายเช่นกัน แต่อยู่ที่เราจะยอมให้จิตมันพาท่วงท่าร่างกายไปแบบมันให้ไปไหนก็ไป หรือจะใช้สติปัญญาคุมมันเอาไว้ ดังนั้นต่อให้จิตใจผมจะมีความทุกข์ ผมก็จะไม่ยอมนั่งกอดเข่า ในจิตของเราเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีสิ่งต่างๆ กระทบเข้ามา ทำให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ แต่เราต้องรู้เท่าทันมันพอที่ไม่ให้มันทำร้ายเราไปได้มากกว่านี้ ตราบใดที่ยังเป็นคนก็ต้องสู้ต่อไป ผมยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวทำเอาผมประสาทเสียเหมือนกัน แต่ผมก็พยายามต่อสู้ด้วยน้ำขิง หอมแดง นี่แหละ ในโลกยุคนี้ มีปัญญาเฉลียวฉลาดหรือมีความรู้มากเพียงอย่างเดียวเอาชีวิตไม่รอดหรอกนะครับ ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง มีเจตจำนงที่แน่วแน่มั่นคงด้วยจึงจะเอาตัวรอดได้ ท่านผู้อ่านลองมองไปรอบๆ สถานการณ์บ้านเมืองทุกวันนี้แล้วลองนึกถึงสิ่งที่ผมพูดให้ดีๆ นะครับ
สงกรานต์ปีนี้ก็ขอให้ทุกท่านพักผ่อนกันให้เต็มที่ให้มีกำลังทั้งกายและใจอันสมบูรณ์นะครับ ขออนุญาตขุดรูปเก่าๆ มาให้ดูเพลินๆ ครับผม
ปลาซาบะดองกินคู่กับไวน์ขาว ที่ร้านซามูไรคิทเช่น ทุกเมนู 59 บาทครับ
พบกับใหม่สัปดาห์หน้านะครับ สวัสดีครับ
เรื่องแนะนำ :
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (12) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของการถือใจพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (11) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): บทนำ
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (10) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): เรื่องของจังหวะแห่งพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (9) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): การที่ว่ารู้ซึ่งความดีของอาวุธในพิชัยสงคราม
– มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (8) คัมภีร์แห่งปฐวี (ดิน): การรู้ซึ่งความดีของตัวอักษรสองตัว เฮียวโฮ (兵法 พิชัยสงคราม)
#มาอ่าน “คัมภีร์ห้าห่วง” ของมูซาชิด้วยกันเถอะ (13) คัมภีร์แห่งอาโป (น้ำ): เรื่องของการแต่งกายแห่งพิชัยสงคราม