ความรู้สึกในช่วงที่เสพนิยายของมุราคามิ (แทบจะทุกเรื่อง) คือ เจ็บปวด เหงา โดดเดี่ยว อ้างว้าง อบอวลไปด้วยความเศร้าสร้อยอ้อยอิ่งที่หลงเหลืออยู่ในบรรยากาศรอบๆ ตัว
“ฮารุกิ มุราคามิ” เป็นนักเขียนนิยายชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ผลงานของเขาได้รับการแปลเป็นหลายภาษาทั่วโลก
มุราคามิเกิดและเติบโตที่ญี่ปุ่น พ่อแม่ทำงานเป็นครูสอนวิชาวรรณกรรมญี่ปุ่น เขาเรียนจบภาควิชาวรรณคดีจากมหาวิทยาลัยวาเซดะ หลังเรียนจบมุราคามิทดลองเปิดบาร์และเล่นดนตรีแนวแจ๊สอยู่ช่วงหนึ่ง ในนิยายของเขาจะมีกลิ่นอายของดนตรีปะปนอยู่ด้วยเสมอ
ปี 1979 มุราคามิเริ่มเขียนนิยายเรื่องแรก “สดับลมขับขาน” หลังจากนั้นมีผลงานออกมาเรื่อยๆ ผลจากการที่เขาเติบโตมากับวรรณกรรมตะวันตกและดนตรี ทำให้งานเขียนของเขาแตกต่างจากนิยายตามขนบทั่วไปของญี่ปุ่น คือ มีรูปแบบการเขียนที่เป็นอิสระ ใช้ภาษาที่บาดลึกลื่นไหล บรรยายรายละเอียดของตัวละครได้สมจริง ยิ่งเวลาพูดถึงอารมณ์ต่างๆ ภาษาที่เขาใช้ทำให้ผู้อ่านอินกับตัวละครนั้นได้อย่างลึกซึ้ง เวลาหมออ่านทีไรต้องค่อยๆ ละเลียด ทิ้งตัวอยู่ในภวังค์ ความรู้สึกของหมอในช่วงที่เสพนิยายของมุราคามิ (แทบจะทุกเรื่อง) คือ เจ็บปวด เหงา โดดเดี่ยว อ้างว้าง อบอวลไปด้วยความเศร้าสร้อยอ้อยอิ่งที่หลงเหลืออยู่ในบรรยากาศรอบๆ ตัว (หมอเลยเลือกอ่านช่วงที่จิตไม่ตก ไม่อย่างนั้นจะดำดิ่งเกินไปT^T)
ขอสารภาพว่าอ่านบางเรื่องแล้วงงกับพฤติกรรมและการตัดสินใจของตัวละคร บางเรื่องเป็นเรื่องเหนือจริง (surreal) ที่อ่านจนจบยังสรุปเนื้อหาที่สำคัญไม่ได้ รับรู้แค่อารมณ์ที่รุนแรงท่วมท้นชวนให้อึดอัด มีคนบอกว่าคนที่หลงรักงานของมุราคามิจะรักทุกเรื่องที่เขาเขียน แต่หากไม่ชอบสไตลด์นี้จะเกลียดกันไปเลย
หนึ่งในเรื่องที่หมอชอบที่สุด คือ Norwegian Wood (ノルウェイの森) “ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย” (มีเวอร์ชั่นเป็นภาพยนตร์ด้วยนะคะ)
เรื่องย่อ คือ “โทรุ” เป็นอดีตชายหนุ่มที่ตกหลุมรัก “นาโอโกะ” หญิงสาวที่เป็นรักครั้งแรกสมัยเป็นนักศึกษา แต่ก็ไปมีความสัมพันธ์กับ “มิโดริ” เรื่องราวความรักสามเส้าทำให้โทรุเรียนรู้และเติบโตผ่านความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยว ฉาบฉวย เต็มไปด้วยแรงปรารถนาในการที่จะมีชีวิตอยู่ คละเคล้าไปกับความตายและการสูญเสีย แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแต่โทรุยังใช้ชีวิตอยู่บนความเหงาและโดดเดี่ยว ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเพลง Norwegian Wood เพลงโปรดของนาโอโกะผู้จากไป เขายังคิดถึงอดีต นิยายเรื่องนี้มีความยาวเกือบ 400 หน้า คำพูดของตัวละครและคำบรรยายสิ่งต่างๆ งดงามราวกับบทกวี อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแปลกแยก กระอักกระอ่วน ความรู้สึกโหยหาอดีตที่แม้จะขื่นขมแต่ยังอยากย้อนกลับไปอยู่ดี
“ได้โปรดจดจำฉันไว้ชั่วกาลนาน จงจำว่าฉันดำรงอยู่เป็นนิรันดร์ และจะเคียงข้างคุณตลอดไป”
>> ความเหงาและโดดเดี่ยว
寂しい หมายถึง “เหงา” เป็นความรู้สึกทางใจ ส่วน 孤独な หมายถึง “โดดเดี่ยว” ให้ความหมายทางกายภาพ
ในภาษาอังกฤษอาจใช้คำว่า Loneliness ซึ่งหมายถึง “ความรู้สึกทนทุกข์ทรมานจากการที่รู้สึกว่าไม่มีสัมพันธภาพทางสังคมกับใคร” แม้จะมีคนรอบตัวอยู่มากมาย แต่ถ้าเราคิดว่าไม่มีใครเข้าใจเรา เราจะรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวได้ แม้อารมณ์นี้จะเป็นแค่อารมณ์หนึ่งที่ทุกคนต้องเคยเจอไม่ช่วงใดก็ช่วงหนึ่งในชีวิต แต่การที่มีอารมณ์แบบนี้อยู่นาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า, วิตกกังวล หรือโรคทางจิตเวชอื่นๆ และมีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นเป็นโรคทางกายมากขึ้น ดังนั้นประโยคที่ว่า “ความเหงาฆ่าคนได้” จึงมีเค้าโครงของความจริงอยู่ไม่น้อยทีเดียว
สิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับความเหงาและโดดเดี่ยว คือ การที่มีความผูกพันมั่นคงทางใจ (attachment) กับใครสักคน ซึ่งความรู้สึกนี้เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่วัยทารก คนที่เติบโตมาในสิ่งแวดล้อมที่ทำให้รู้สึกมั่นคงทางใจ (secure attachment) เช่น พ่อแม่ให้ความรักความอบอุ่นสม่ำเสมอ จะมีโอกาสรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวน้อยกว่าคนที่โตมากับความไม่แน่นอนของคนรอบข้างหรือปัจจัยแวดล้อมซึ่งส่งผลให้ขาดความมั่นคงทางใจ (insecure attachment) เช่น มีผู้เลี้ยงดูที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย, เพิกเฉยไม่สนใจ
ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เหมือนจะทำให้คนเราสามารถติดต่อสื่อสารใกล้ชิดกันได้มากขึ้น แต่บางคนกลับรู้สึกว่ายิ่งห่างไกลจากผู้คน เหงาและโดดเดี่ยวมากขึ้น เพราะคนบางส่วนสนใจเรื่องในโลกโซเชียลมีเดียมากกว่าการที่จะมาสนใจความสัมพันธ์ในชีวิตจริง
เช่น สถิติด้านมนุษยสัมพันธ์ของคนญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับคนในประเทศที่พัฒนาแล้ว พบว่าคนญี่ปุ่นมีอัตราของการไม่สังสรรค์แลกเปลี่ยนระหว่างเพื่อนฝูงและเพื่อนร่วมงานสูงที่สุดเกือบ 20% บริษัทของญี่ปุ่นมีบรรยากาศตึงเครียด พูดคุยกันน้อย กินอาหารกลางวันแบบต่างคนต่างไป
ส่วนแนวโน้มลักษณะครอบครัวญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต คือ มีแนวโน้มที่ครัวเรือนจะมีสมาชิกเพียงคนเดียวเพิ่มขึ้น เช่น ในปี 2015 มีครัวเรือนแบบนี้อยู่ถึง 34.5% ยิ่งอยู่คนเดียวจะยิ่งทำให้เกิดความเหงาและโดดเดี่ยว หากเกิดกรณีเหตุไม่คาดฝัน เช่น การล้มป่วยกะทันหัน อาจนำไปสู่การเสียชีวิตโดยที่ไม่ได้ร่ำลาใครหรือไม่มีแม้แต่ใครจะให้ร่ำลา
@ วิธีการจัดการกับความเหงา
1. ให้เวลากับตัวเองในการปรับตัว
เมื่อมีโอกาสเจอกับคนอื่น พยายามไม่กดดันตัวเองให้รีบมี “ความสัมพันธ์ที่ดี” ด้วยความหวังว่าจะช่วยกำจัดความเหงา เพราะการสร้างความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
ลองไปในสถานที่ที่มีคนอื่นอยู่ เช่น ร้านกาแฟ, ฟิตเนส การที่คนอยู่รอบๆตัวสามารถช่วยลดความเหงาได้ในระดับหนึ่ง
2. สร้างความสัมพันธ์กับคนใหม่ๆ
พยายามเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ไปเจอกับคนใหม่ๆ เผื่อว่าจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ เช่น เข้าร่วมทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ, ไปเป็นอาสาสมัครจิตอาสา
เปิดใจคุยกับคนอื่นจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น แต่ถ้ากังวลมากจนไม่กล้าคุยกับใคร อาจต้องปรึกษากับนักทำจิตบำบัด (therapist) เพื่อฝึกวิธีการคุยสร้างสัมพันธภาพกับคนอื่น
3. รักษาโรคทางจิตเวช/ทำจิตบำบัด (psychotherapy)
หากความเหงาเกิดจากโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้า, โรควิตกกังวล ควรไปรับการรักษากับผู้เชี่ยวชาญ เช่น จิตแพทย์, นักจิตวิทยา เมื่ออาการของโรคดีขึ้น ความเหงาจะค่อยๆลดลง
4. พยายามอย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
การเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น เช่น ทำไมบางคนเพื่อนเยอะ อาจทำให้เรารู้สึกแย่จนเหงาและโดดเดี่ยวได้ อาจลองคิดในอีกมุมหนึ่งว่าสิ่งที่เราเห็นว่าชีวิตคนอื่นดี บางทีลึกๆเค้าอาจกำลังทุกข์จากความเหงาและโดดเดี่ยวเหมือนกัน
5. ดูแลตัวเองให้ดี
ความเหงาเป็นสิ่งที่ทำลายสุขภาพจิตได้มาก บางคนละเลยที่จะดูแลชีวิตตัวเองให้ดี เพราะจมดิ่งกับความรู้สึกแย่ๆ ดังนั้นต้องพยายามดูแลตัวเอง เช่น กินอาหารที่มีประโยชน์กับสุขภาพ, นอนหลับให้เพียงพอ, ออกกำลังกาย, หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด, หากิจกรรมทำ
ข้อสุดท้ายที่สำคัญ คือ ถ้ากำลังเหงา เศร้า โดดเดี่ยว รู้สึกแปลกแยก หากคิดจะอ่านนิยายของมุราคามิเพื่อเป็นกิจกรรมฆ่าเวลา ต้องระวังดำดิ่งจนอาการหนักยิ่งกว่าเดิมนะคะ:))
ทักทายพูดคุยกับหมอแมวน้ำเล่าเรื่องได้ที่ www.facebook.com/sealpsychiatrist
เรื่องแนะนำ :
– ญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 : ทนในสิ่งที่ยากจะทนให้พ้นผ่าน
– ซากุระความงามที่ไม่จีรังและความเป็นจริงของชีวิต
– ซาซากิ มะคิ : ผู้วาดหน้าปกนวนิยายของมุราคามิเล่มแรกๆ
– มุราคามิที่ไม่เหมือนคนญี่ปุ่นทั่วไป
– อ่านอยู่บ้าน “สังหารจอมทัพอัศวิน” นวนิยายมุราคามิเล่มใหม่
คลินิก JOY OF MINDS
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลรักษาปัญหาด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ
https://www.facebook.com/Joyofminds/
Tel: 090-959-9304
#ฮารุกิ มุราคามิ ผู้แปรเปลี่ยนความเหงาให้เราจับต้องได้