ในภาษาญี่ปุ่นมีคำว่า “こだわり” (Kodawari) ซึ่งในภาษาไทยอาจไม่มีคำแปลตรงๆ แต่อธิบายได้ง่ายๆว่าหมายถึง “ความตั้งใจแน่วแน่ในการทำบางสิ่งให้ออกมาดีที่สุด ไม่ให้มีที่ติแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ”
ในภาษาญี่ปุ่นมีคำว่า “こだわり” (Kodawari) ซึ่งในภาษาไทยอาจไม่มีคำแปลตรงๆ แต่อธิบายได้ง่ายๆว่าหมายถึง “ความตั้งใจแน่วแน่ในการทำบางสิ่งให้ออกมาดีที่สุด ไม่ให้มีที่ติแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ”
พูดง่ายๆ คือไม่ใช่ทำแค่ขอไปที เรียกว่า “ก็ดีนะ” “ได้แหละ” “หยวนน่า” นั้นไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของคนที่ยึดถือ “โคดาวาริ” เป็นหลักในการดำเนินชีวิต
คนที่มี “โคดาวาริ” จะภาคภูมิใจในสิ่งที่เขาทำ ทุ่มเททำงานอย่างพิถีพิถันและแสวงหาความสมบูรณ์แบบ หรือทำอาชีพของตัวเองในเวอร์ชั่นที่ที่ดีสุดโดยไม่มีการประนีประนอมยอมความใดๆทั้งสิ้น คนภายนอกอาจมองว่าพวกเขาเป็นพวกเรื่องมาก จู้จี้จุกจิก และไม่มีความยืดหยุ่นเอาเสียเลย แต่พวกเขาสามารถสร้างงานที่มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆและรักษามาตรฐานระดับสูงอยู่เสมอ ดังนั้นไม่ว่างานจะยากแค่ไหนพวกเขาก็ทำได้ และทำได้ดีเสียด้วย ตัวอย่างก็คือ คุณจิโร่ โอโนะ เจ้าของร้านซูชิระดับมิชลิน 3 ดาวที่มีอายุมากถึง 91 ปี คุณจิโร่ แสวงหาทุกวิถีทางในการพัฒนาซูชิให้ดีขึ้นจนเกินระดับยอดเยี่ยมทั้งในด้านวัตถุดิบ ขั้นตอนการทำ และการบริการ
“โคดาวาริ” ที่สะท้อนให้เห็นในสังคมวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้แก่
บริการเหนือระดับ คนที่ไปเยือนญี่ปุ่นทุกคนเห็นพ้องกันว่า การบริการที่ญี่ปุ่นนั้นจัดได้ว่าอยู่ในระดับA+ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ และถือได้ว่าเป็นเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่นที่ดึงดูดให้แขกมาเยือน เพราะผู้ให้บริการมักใส่ใจในทุกรายละเอียด และมีการคาดเดาพฤติกรรมของลูกค้าล่วงหน้าเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ ทั้งนี้เพราะผู้ให้บริการถือหลัก “โคดาวาริ” คือ เมื่อมีหน้าที่ให้บริการ ก็ต้องให้บริการที่ดีที่สุด
สำหรับบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งที่ดิฉันมีโอกาสไปเยือน ผู้บริหารระดับสูงจะยืนโค้งคำนับส่งแขกขึ้นรถที่หน้าประตูบริษัท และจะโค้งอยู่แบบนั้นจนกว่ารถของแขกจะหายลับออกจากรั้วของบริษัทไปเลยทีเดียวค่ะ
ระบบขนส่งมวลชนที่ตรงเวลา สมัยเป็นนักศึกษา ดิฉันเคยใช้ตั๋วนักเรียนนั่งรถไฟธรรมดาจากจังหวัดนีงาตะ ไปฮิโรชิมา และต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟนับสิบครั้งกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง และก็ได้พบว่ารถไฟทุกขบวนที่เปลี่ยนนั้นมาตรงเวลาไม่พลาดแม้นาทีเดียว และข้อมูลที่ได้ล่วงหน้ายังบอกหมายเลขชานชะลาที่ขบวนรถไฟจะเข้าอย่างไม่มีผิดเพี้ยน สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการไม่ยอมประนีประนอมต่อการบริการผู้โดยสารให้ไปถึงที่หมายทันเวลา
ทำงานเต็มความสามารถ หลายๆคนกล่าวว่า คนญี่ปุ่นบ้างาน เพราะ “โคดาวาริ” ทำให้คนญี่ปุ่นมีลักษณะนิสัยที่มักจะทุ่มเททำงานและใส่ใจในงานร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ทำงานไปคุยไลน์ไป หรือดูข่าวดาราไป การทำงานแบบญี่ปุ่นยังเน้นการพัฒนางานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่ทำไปวันๆ พวกเขามักรู้สึกว่างานที่ตัวเองทำมีความหมายและภาคภูมิใจในงานที่ทำ
ตอนอยู่ญี่ปุ่น ดิฉันจำภาพคุณลุงแก่ๆ ที่มีหน้าที่โบกรถให้เลี่ยงไปทางอื่นในบริเวณที่มีการซ่อมถนนได้ เพราะคุณลุงแกหน้าตายิ้มแย้มและดูภาคภูมิใจในงานที่แกทำ ที่ถึงแม้จะดูเป็นงานง่ายๆ ก็ตาม
ความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย คนญี่ปุ่นรักษาความสะอาดเป็นระเบียบในบ้านเรือนและที่สาธารณะได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นท้องถนน ห้องน้ำสาธารณะ รถโดยสาร ฯลฯ ทั้งนี้เพราะความสะอาดจะต้องสะอาดจริงๆไม่ใช่แค่พอถูไถค่ะ
ดิฉันคิดว่า “โคดาวาริ” เป็นสิ่งที่ดีและสามารถนำมาใช้เป็นพลังในการทำงาน ลองคิดดูสิคะว่าสังคมจะพัฒนาขึ้นแค่ไหนหากทุกคนในสังคมรักงานที่ตัวเองทำ และคิดพัฒนาคุณภาพของงานให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
ติดตามอ่านเรื่องราวการทำธุรกิจด้วยใจรักจนประสบความสำเร็จได้ในหนังสือ “Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก” และ หนังสือจิตวิทยาความรักความสัมพันธ์ “เมื่อจิตวิทยา ทำให้คนรักกัน” สามารถพูดคุยสื่อสารกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– แค่ใช้คำให้เป็น พูดไม่ต้องเก่งก็พลิกสถานการณ์ได้
– บุคลิกโดนใจ สำเร็จได้ไวในบริษัทญี่ปุ่น
– ว่าด้วยร่มญี่ปุ่น
– ผู้ชายญี่ปุ่นชอบผู้หญิงแบบไหนกันนะ
– สุนัขขี้แพ้ (ที่ไม่แพ้) แด่สาวโสดทั้งหลาย
– Umaji หมู่บ้านส้มยูสุที่โด่งดังได้เพราะความมุ่งมั่นไม่ท้อถอย