โอซาก้าเมืองเก่าที่ข้าพเจ้าคิดถึง
ชีวิตข้าวกล่อง Bento Life กับโรงอาหารที่รัก
พูดถึงชีวิตการกินว่าตลอด 3 ปีมานี้ ใช้ชีวิตเรื่องการกินอยู่อย่างไร ดังที่ได้เคยเล่าด้วยรูปไปแล้ว ก็อยู่ได้ด้วยโน๊ตบุ๊คหนึ่งเครื่อง (ตอนหลังไปซื้อจอยยูเอสบีมาต่อเพื่อเล่นเกมด้วย คอมตัวเดียวคือชีวิตครับ เป็นทั้งเครื่องมือทำให้เรียนหนังสือจบ เป็นความบันเทิงครบในตัว ว่างๆ ก็ไปเช่าดีวีดีหนังมานั่งดูเล่น)
ชีวิตที่หอพักของป้าเซทสึโกะสบายดีใช้ได้ มีห้องน้ำในตัวมีฝักบัวและอ่างน้ำไว้แช่น้ำอุ่น ทีนี้มาถึงคำถามที่ว่าแล้วเรื่องกินน่ะทำอย่างไร?
ข้อแรก ผมไม่ทำกับข้าวกินครับ เพราะทำไม่ค่อยเป็นด้วยและรู้สึกว่าเสียเวลาในชีวิตมาก เอาเวลานั่งคิดเรื่องทำวิทยานิพนธ์ดีกว่า
ข้อสอง ผมมีที่พึ่งที่จะซื้ออาหารกินในชีวิตประจำวันสามแหล่งหลักๆ คือ
หนึ่ง โรงอาหารของมหาลัย กินอะไร? ก็กินอาหารที่โรงอาหารขาย คือมีข้าวสวย (เลือกขนาดชามข้าวได้สี่ไซส์แน่ะ) อาหารหลัก (หมูทอด ปลาปิ้ง ฯลฯ) ซุปมิโสะ และก็เครื่องเคียง (มีเต้าหู้เย็น 冷やっこ (ฮิยักโกะ) แล้วก็ ผักปวยเล่งคลุกงา ほうれん草胡麻和え (โฮเร็นโซโกะมะอะเอะ) สลัดมักกะโรนี ฯลฯ ส่วนตัวผมชอบเต้าหู้เย็นมากครับ อาจมีอาหารแปลกๆ หมุนเวียน อย่าง “แกงเผ็ดแบบไทย” ผมนี่ในฐานะคนไทยตะลึงแพร๊บ แกงเผ็ดไทยอะไรใส่มะเขือม่วงชัดๆ
ถ้าเบื่อข้าว กินอาหารเส้นจำพวกโซบะ อุด้ง ราเม็ง ก็ได้นะครับ พวกคิทสึเนะอุด้ง (อุด้งใส่เต้าหู้ทอดหวานๆ) ทสึคิมิโซบะ (“โซบะชมจันทร์” ชื่อสวยมาก จริงๆ คืออุด้งใส่ไข่) อาหารโรงอาหารเน้นถูกเน้นอิ่ม ไม่เน้นอร่อยครับ (พอกินได้ สำหรับผมก็ไม่ได้แย่ เหมาะแก่การครองชีพออย่างนักศึกษา ไม่เกินห้าร้อยหกร้อยเยนก็อิ่มได้) มีน้ำชาฟรีร้อนกับเย็นให้รินฟรีมีถ้วยพลาสติกให้พร้อม มีน้ำสลัดให้บีบใส่เอาตามใจชอบ มีน้ำสลัดรสโชยุกับใบชิโสะ น้ำสลัดงาคั่ว ฯลฯ กินเสร็จอย่าลืมเอาถาดจานชามช้อนตะเกียบถ้วยน้ำชาไปส่งยังที่ล้างด้วยนะจ๊ะ
เรื่องของโรงอาหาร การกินข้าว กับการใช้โรงอาหารของนักศึกษา ผมอ่านเจอป้ายเตือน/ป้ายรณรงค์อยู่สองเรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องเตือนว่า ขออย่าใช้โรงอาหารเป็นที่ “นั่งคุยกัน” กับ “นั่งทำการบ้าน/ทบทวนหนังสือ” (โรงอาหารมีไว้นั่งกินข้าว) จะว่าไป มหาลัยก็มีห้องสำหรับให้นักศึกษาอ่านหนังสือ ทำการบ้านอยู่แล้ว (ไม่ใช่ห้องสมุดนะครับ)
เรื่องของห้องอ่านหนังสือหรือทบทวนบทเรียนนั้น ที่ชั้นบนของตึกบี (หรือเปล่าหว่าผมจำไม่ค่อยได้) มีห้องเฉพาะสำหรับนักศึกษาปริญญาเอกด้วยซ้ำ ถ้าเข้าไปเขาจะมีโต๊ะเป็นล๊อกๆ ต้องมีการจองชื่อด้วยว่าโต๊ะไหนใครใช้
เรื่องที่สองก็คือเรื่องสุขนิสัยการรับประทานอาหาร เพราะนักศึกษาหลายคนเอาง่ายเข้าว่า กินแค่บะหมี่สำเร็จรูปหรือแฮมเบอร์เกอร์ก๊อกแก๊กตามร้านสะดวกซื้อ (กินแค่นี้ไม่นับว่าเป็น “มื้ออาหาร” 食事 (โชะคุจิ) นะครับ โปรดกินอาหารให้เป็นมื้อ)
พูดถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่นั่นถูก อร่อยและหลากหลายไปไกลแบบว้าวมาก มีแบบที่เป็นเส้นนิ่ม (เส้นสด) ในแพ็กสุญญากาศกับเครื่องในซองรีทอร์ท มีให้พร้อมทั้งผัก ซอส ผงซุป ตั้งใจทำเลียนแบบบะหมี่ตามร้านมากมาย มีไปจนกระทั่งสปาเก็ตตี้ด้วยซ้ำ ขอลงรูปเท่าที่ได้ถ่ายมาช่วงปี 2006 มาประกอบนะครับ เป็นรูปบะหมี่นิชชินราโอ (ซุปโชยุ) ถ่ายมาแบบอย่างกะจะรีวิวทุกขั้นตอนเลย กว่าจะได้ลงเผยแพร่ออกสู่สาธารณะก็ผ่านมาสิบสี่สิบห้าปีเลย (นะเนี่ย)
ถ้าจะเอาบะหมี่ถ้วยแบบเดิมๆ เส้นแห้ง (เส้นทอด) ก็มีรูปนะครับ
นอกจากบะหมี่ยี่ห้อนิชชินแล้ว อีกยี่ห้อที่ผมมีโอกาสก็ชอบซื้อกินเพราะมันถูกก็คือ Top Value กระป๋องละแค่เจ็ดสิบเยนเองครับ
กลับมาที่เรื่องตัวเลือกในการซื้อของกินประทังชีวิตประจำวันต่อดีกว่าครับ
สอง ถ้าวันไหนอยู่แต่ที่หอ ไม่ได้เดินไปมหาลัย ก็ยังมี ซูเปอร์มาเก็ตแถวที่หอ มี APPRO กับ MARUYASU ซื้ออะไรกิน? ถ้าที่ APPRO ที่เคยซื้อกินจำได้ก็สะโพกไก่ทอด เบค่อนปลาวาฬ แต่โดยมากผมเดินเท้ามา MARUYASU ใกล้กว่า ของกินที่ชอบซื้อกิน ขอจาระไนดังนี้
-
- ชีสก้อนราคาถูกแบบสี่ก้อนร้อยเยน รสกัมมังแบรต์ รสเฮเซลนัท
- ข้าวห่อสาหร่ายมาเป็นแท่ง ไส้หมูทอดบ้างอะไรบ้าง ซื้อแบบสามแท่งห้าร้อยเยน
- ทาทากิ (ปลาย่างไฟแบบข้างนอกสุกข้างในดิบ กินกับน้ำจิ้มพอนซุ)
- ซูชิรวม พวกปลาดิบโปรดคอยถึงใกล้สองทุ่มท่านจะได้พบกับของลดราคา
- ผลไม้ หลักๆ คือแอปเปิ้ล ลูกละร้อยเยน บางทีเจอเมล่อนที่เขาหั่นใส่แพ็กขาย ถ้าเจอแบบลดราคาก็ซื้อมาเลย สตอเบอรี่ต้องรอราคาลดเหลือแพ็กละ 299 หรือ 399 เยนก่อนค่อยซื้อ ตอนฤดูเพิ่งออกใหม่แพ็กหนึ่งราคาเหยียบพันเยนอย่าเพิ่งซื้อ
ผมอยู่ญี่ปุ่นไม่ค่อยชอบกินขนมปัง รู้สึกเบื่อ กินข้าวห่อสาหร่ายมากกว่าครับ
ส่วนเหล้าเบียร์นั้น ซื้อเบียร์บ้าง ฮัปโปชุ 発泡酒 (“เหล้ามีฟอง” คือเครื่องดื่มคล้ายเบียร์แต่ถูกกว่า กระป๋องละร้อยเยนก็กินได้ อาจารย์ชิมาโมโต้เรียกมันว่า fake beer) ช่วงหนึ่งกินทุกวันวันละกระป๋อง อยู่ที่โน่นราคาโค้กกระป๋องกับฮับโปชุราคาเท่ากันเลยกินพวกเหล้าเบียร์แทนโค้ก ปี 2005 เลยอ้วนขึ้นอย่างแรงจนต้องลดน้ำหนัก ประเดี๋ยวเรื่องนี้ขอยกยอดไปตอนต่อไปนะครับ)
เหล้าเบียร์ซื้อซูเปอร์ถูกกว่าเซเว่นครับ ถ้าไม่ใช่เหล้าเบียร์ที่โฆษณาว่าเป็นรุ่นที่ผลิตเพื่อขาย “เฉพาะในเซเว่นเท่านั้น” ผมมักซื้อที่ MARUYASU มากกว่า
ปลามากุโระทาทากิ ซื้อจากซูเปอร์ MARUYASU คลุกแล้ว เป็นตาแซบ (แจ่บๆ)
บางทีก็ดื่มเหล้าอัดก๊าซแบบนี้เหมือนกันครับ เปลี่ยนบ้างอะไรบ้าง
ซูชิรวมในซูเปอร์มาร์เก็ต
ไก่ทอดจ้ะ อาหารสำเร็จซูเปอร์ถูกนะครับแต่ข้อเสียคือไม่ร้อนครับไม่ใช่อาหารทำสดใหม่ ทำแล้วละไว้รอคนมาซื้อ แล้วถ้าอยากกินอาหารปรุงใหม่ๆ ต้องทำไง?
สาม ถ้าอยากกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ข้าวร้อนๆ ก็มีร้านข้าวกล่อง Hokka Hokka Tei ซึ่งเป็นร้านเชนมีสาขาทั่วประเทศ ชีวิตผมสามปีฝากท้องไว้กับร้านนี้เป็นร้อยเป็นพันมื้อแล้วกระมังครับ (ฮา) ใครอยากชมเมนูที่มีขายในเขตคินคิ (คือแถบโอซาก้า เกียวโต นารา) เชิญชมได้ที่นี่ครับ https://www.hokkahokka-tei.jp/menu/003/?pref=27
ร้านที่ผมอุตส่าห์ฝากท้องจนเรียนจบ อยู่ที่นี่ครับ (จากกูเกิลแมป)
ว่าแล้วก็ขอเชิญชมรูปที่ผมถ่ายเก็บไว้ ณ ตอนนั้นนะครับ
ข้าวไก่คาราอะเกะ
เอาให้ดูเลยว่าที่มีสองกล่อง คือไก่หนึ่ง ข้าวหนึ่ง (ข้าวสั่งได้เอามากพิเศษ 大盛 โอโมริ หรือเอาน้อยลง 小盛 โคะโมริ)
อ่า ของชอบเลยครับ ทงคัตสึ ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นเคยก่อประวัติว่า กินแต่ทงคัตสึ ทุกมื้อ วันละสามมื้อ ติดกันสามวัน เท่ากับกินติดกัน 3 x 3 = 9 เก้ามื้อ เลยทีเดียว
ข้าวกับบูตะโชงะยากิ 豚生姜焼き หมูผัดซอสขิง
บางทีจะมีเมนูประจำฤดู อย่างกล่องนี้เป็นข้าวอบเห็ดมัตซึทะเกะ มันก็จะดูหรูๆ หน่อย
ว้าววววว
ร้านนี้ขายข้าวกล่อง ขายทองทอดแยกชิ้นด้วยแบบทอดสดๆ เช่นกุ้งเทมปุระ และก็พวกเครื่องเคียงอย่างกิมจิ หรือซุปมิโสะถ้วยแบบกึ่งสำเร็จรูป (เป็นผงเอาไปชงน้ำร้อน) กิมจิที่ขายร้านนี้เขาบอกว่านำเข้าจากเกาหลีด้วย พูดถึงกิมจิ ใครไปอยู่ญี่ปุ่นซื้อกิมจิกิน อย่าซื้อกิมจิที่นำเข้าจากเมืองจีนเป็นอันขาด รสชาติเลวมาก
นอกจากนี้ก็อาจมีที่ซื้อของกินเล็กๆ น้อยๆ ได้ก็คือร้านสะดวกซื้อ เช่นซาลาเปาไส้หมูพะโล้ หรือสปาเกตตี้คาโบนาร่า สปาเกตตี้เมนไทโกะ (ไข่ปลาดองเผ็ดๆ) ที่แฟมิลีมาร์ท หรือเจ้านี่ที่ผมซื้อจากเซเว่น
สลัดปลาดิบ
แถวๆ ร้านข้างกล่องมีร้านขายยาคิรินโด キリン堂 ซึ่งขายยาและของใช้ในบ้านพวกน้ำยาซักผ้า ยาสีฟ้น รวมไปถึงขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว ซึ่งแน่นอน ของมันต้องกิน มันฝรั่งทอดครับ ถุงใหญ่ๆ ถุงละร้อยเยน ซัดมันเข้าไป
แผ่นเรียบแผ่นหยักกินได้หมดครับ
พูดภึงอาหาร ขนมขบเคี้ยวแล้ว ของหวานอีกอย่างที่ชอบคือไอศกรีม ซึ่งยี่ห้อที่ต้องจัดคือฮาเก้นดาซ ถ้าไม่มายด์กับไอติมรสโหลๆ จำพวกวานิลลาหรือชาเขียว ในซูเปอร์ MARUYASU มีขายแบบแพ็กหกกระปุกซึ่งราคาจะเฉลี่ยที่แค่กระปุกละร้อยเยนเท่านั้น ถูกอ่า แต่ว่าถ้าอยากกินรสแปลกๆ โดยเฉพาะรสออกใหม่ เช่นรสจาย (ชานมอินเดีย) รส dulce de leche ล่ะก็หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ ราคาขายปลีกกระปุกละร้อยแปดสิบเยนครับ
อันนี้แน่นอน รสงาดำ
ที่เซ็นริจูโอ ตรงใต้ดิน ผมเคยเข้าไปนั่งที่ร้านฮาเก้นดาซด้วย ไปลองกินไอศกรีมรส Cabernet Sauvignon กาแบร์เนโซวีญง คือองุ่นแดงพันธุ์หนึ่งที่ใช้ทำไวน์ แหม่ แต่ละชื่อธรรมดาไม่เป็นจริงๆ
หลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้คงคิดอยู่ว่ากินแบบนี้ไม่อ้วนตายเหรอ ครับ อ้วนครับ แล้วเลยต้องลดน้ำหนักอย่างแรงครับในช่วงปีสุดท้ายของการเรียนคือปี 2006
ตบท้ายนะครับก่อนจากกัน อยากบอกว่า ที่โรงอาหารมหาลัยน่ะครับ ครั้งหนึ่งตอนผมกำลังตักซุปมิโสะที่เขาต้มในหม้อใหญ่ๆ เอาใส่ถ้วยก่อนจะเอาไปคิดเงิน ผมก็พบลูกปีเตอร์ (แมลงสาบ) ลอยอยู่ในถ้วยซุปมิโสะของผม ผมตกใจมากไม่รู้จะทำยังไง หันซ้ายหันขวา ไม่มีคน ผมก็เลยเทไอ้ซุปมิโสะในถ้วยน่ะ กลับลงไปในหม้อเหมือนเดิม แล้วเดินจากไป
เอิ่ม….นะ
Bon Appétit “ขอให้เจริญอาหาร” กันนะครับทุกท่าน (ฮา)
เรื่องแนะนำ :
– อยู่อำเภอมิโน่ เที่ยวน้ำตกมิโน่
– “ความทรงจำและคำอำลา” บ๊ายบาย หอพักนักเรียนนานาชาติคันไซ
– ตามหาวิชาดาบอิไอ (3) วิชาต่อสู้ของญี่ปุ่นที่คนไทยไม่ (น่าจะ) รู้จัก
– ตามหาวิชาดาบอิไอ (2) พื้นฐานของวิชาดาบอิไอ
– ตามหาวิชาดาบอิไอ (1) บูโดคังอำเภอซุยตะ
#ชีวิตข้าวกล่อง Bento Life กับโรงอาหารที่รัก