นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วน ของสถานที่สำหรับการไปทัศนศึกษานอกสถานที่ของเด็กนักเรียนญี่ปุ่น ที่เมื่อไปทัศนศึกษากลับมา เด็กๆ จะต้องมาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเขียนรายงาน และแสดงความคิดเห็น หรืออาจจะนำสิ่งที่ได้เห็น กลับมาทดลองทำเองก็ได้…
เมื่อเข้าสู่ปิดเทอมฤดูร้อนของญี่ปุ่น ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม สิ่งที่มาพร้อมกับปิดเทอมของเด็กประถมญี่ปุ่นก็คือ จียูเคงคิว (自由研究) หรือการค้นคว้าอิสระ ที่ในช่วงระยะเวลาวันหยุดฤดูร้อนประมาณ 30-40 วันนี้ เด็กแต่ละคนจะต้องทำการบ้านส่งคุณครู เป็นงานค้นคว้าอะไรก็ได้ สักอย่างหนึ่งตามความสนใจของตน เพื่อนำไปรายงานหน้าชั้นหรือส่งคุณครูในวันเปิดเทอม
ตามที่เจ๊เคยเขียนเล่าไว้ที่นี่ค่ะ >> https://www.marumura.com/jiyukenkyuu/
นอกเหนือจากการค้นคว้าแล้ว การไป “ทัศนศึกษานอกสถานที่” หรือเคงกักคุ (見学) ตามหน่วยงานหรือโรงงาน เป็นอีกหนึ่งวิธีของการค้นคว้าอิสระ ที่ได้ทั้งความสนุก ตื่นตาตื่นใจ ได้เปิดโลกทัศน์ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากโลกการทำงานของผู้ใหญ่
ที่ญี่ปุ่นมีบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ มากมายหลายแห่ง ที่เปิดให้บุคคลภายนอกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เข้าไปทัศนศึกษา เยี่ยมชมได้ เรียกว่ามีทุกประเภทค่ะ ตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน ยานพาหนะ กีฬา ก่อสร้าง สื่อ หน่วยงานราชการ ฯลฯ
ในส่วนของการเข้าไปเยี่ยมชม หลายแห่งจะต้องมีการลงทะเบียนแจ้งความจำนงไปล่วงหน้า ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าเดินเข้าไปดื้อๆ โดยเฉพาะที่ฮิตๆ แต่บางแห่งที่ออกแนวพิพิธภัณฑ์ ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน สามารถเข้าไปได้เลย (เสียค่าผ่านประตู)
ไปดูตัวอย่างกันค่ะว่า หน่วยงานและบริษัทต่างๆ ในญี่ปุ่น เค้าเปิดให้เข้าไปทำอะไรกัน…
การิการิคุง
บริษัท Akagi Nyugyo ผู้ผลิตไอศครีมเกล็ดน้ำแข็งชื่อดังและเก่าแก่ของญี่ปุ่นยี่ห้อ การิการิคุง (ガリガリ君) ที่ไซตะมะ เป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของการไปทัศนศึกษาที่ต้องจองกันนานถึง 3 เดือนล่วงหน้า เปิดให้เข้าไปชมขั้นตอนการผลิตไอศกรีมในโรงงานตั้งแต่ต้น จนเสร็จสรรพออกมาเป็นแพคเกจ มีเกมให้เล่น มีที่ให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ใช้เวลาประมาณ 90 นาที แน่นอนว่ามีไอศกรีมให้ชิมกันด้วย ทั้งยังแถมของที่ระลึกให้อีกต่างหาก
ข้อมูลเพิ่มเติม>>http://www.akagi.com/factory/index.html
กูลิโกะ
Glico Pia East ที่ไซตะมะ เป็นทั้งโรงงานและพิพิธภัณฑ์ซึ่งเปิดเมื่อปี ค.ศ.2012 เปิดให้เข้าชมได้เช่นเดียวกับโรงงานกูลิโกะที่โกเบ วันละ 4 รอบ ใช้เวลารอบละ 70 นาที ภายในโรงงานจะได้ชมประวัติความเป็นมาของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ยุคเริ่มแรก จนมาเป็นขนมแบรนด์กูลิโกะชื่อดังที่คนรู้จักกันไปทั่วโลก นอกจากจะได้เห็นขั้นตอนการผลิตแล้ว ยังมีเวิร์คช้อปให้ตกแต่งไจแอนท์ป๊อกกี้ ในแบบของตัวเองได้ด้วย เฉพาะส่วนของเวิร์คช้อปจะมีค่าใช้จ่าย 500 เยนค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม>>https://www.glico.com/jp/enjoy/experience/glicopiaeast
JAL Factory Tour Sky Museum ของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์
เป็นโปรแกรมทัศนศึกษายอดฮิตของทั้งคนญี่ปุ่นและต่างชาติ ที่ต้องจองล่วงหน้ากันยาวเช่นกัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน วันละ 4 รอบ ใช้เวลารอบละประมาณ 100 นาที แบ่งเป็นส่วนต่างๆ ทั้งการชมวิดีทัศน์ ส่วนของการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของสายการบิน เครื่องบินยุคต่างๆ แฟชั่นชุดแอร์โฮสเตสครั้งอดีตถึงปัจจุบัน มีส่วนของการอธิบายการทำงานในหน้าที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกัปตัน แอร์โฮสเตส วิศวกร ช่างเครื่องต่างๆ สารพัดหน้าที่ ให้ได้เรียนรู้หน้าที่การทำงานจริงของแต่ละตำแหน่งงาน ทั้งยังมีส่วนของการได้ไปเยี่ยมชมโรงเก็บเครื่องบินให้เด็กๆ ได้ตื่นตาตื่นใจอีกต่างหาก
ข้อมูลเพิ่มเติม>>http://www.jal.co.jp/kengaku/
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมชมได้ (บางส่วน) ทุกวันจันทร์–ศุกร์ค่ะ โดยใช้เวลาในการทัศนศึกษา เยี่ยมชมห้องต่างๆ รวมถึงการบรรยายเกี่ยวกับหน้าที่ของสภา ขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมาย ฯลฯ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง (ขอบอกว่าสำหรับต่างชาติที่ภาษาญี่ปุ่นไม่แข็งแรงแถมขาดความรู้ด้านระบบการปกครองของญี่ปุ่น เข้าไปแล้วแอบมึนตึ้บค่ะ) แต่สำหรับที่นี่ เมื่อไปถึงหน้ารัฐสภาแล้ว แฟนละครของ Kimura Takuya อาจจะมีความฟิน เมื่อมีฉากด้านหน้าอาคารจากซีรียส์เรื่อง Change ผุดขึ้นมาในหัวก็ได้นะคะ
ที่เขียนมาเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วน ของสถานที่สำหรับการไปทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนญี่ปุ่นค่ะ เมื่อไปทัศนศึกษากลับมา เด็กๆ ต้องมาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเขียนรายงาน และแสดงความคิดเห็น หรืออาจจะนำสิ่งที่ได้เห็น กลับมาทดลองทำเองก็ได้ ดังภาพตัวอย่างการทำรายงานด้านล่างนี้ ด้านซ้ายเป็นการบรรยายเกี่ยวกับการผลิตในโรงงานของการิการิคุง ส่วนด้านขวาเป็นการทดลองทำไอศกรีมด้วยตนเอง เป็นต้น
สถานที่ซึ่งเปิดให้เข้าไปทัศนศึกษานอกสถานที่นั้นมีอีกมากมายหลายแห่งค่ะ ถ้าเข้าใจภาษาญี่ปุ่น การหาข้อมูลไม่ยากเลยเพราะหลายแห่งสามารถลงทะเบียนทางอินเตอร์เน็ตได้ ในส่วนของนักเรียนที่ไปเรียนในโรงเรียนสอนภาษาที่ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ทางโรงเรียนจะมีการพาไปทัศนศึกษานอกสถานที่อยู่เป็นครั้งคราว
หากมีโอกาสไปเยี่ยมชมงานที่ไหน สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ…
• ไปถึงสถานที่ ก่อนเวลานัดหมายตามที่ทางหน่วยงานระบุ อย่าไปสายเด็ดขาด โดยปรกติแม้จะมีการระบุรอบไว้ว่า ได้รอบกี่โมง ควรไปถึงก่อนเวลาเริ่มจริงประมาณ 30 นาที
• การบันทึกภาพ บางสถานที่บางจุดอนุญาตให้ถ่ายภาพได้ แต่บางจุดอาจจะไม่ให้ถ่าย จึงควรสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อน
• ในการไปทัศนศึกษานอกสถานที่ ส่วนใหญ่ทางหน่วยงานจะจัดเตรียมเอกสารแนะนำหน่วยงาน หรือข้อมูลที่ควรรู้ไว้ให้ ควรเก็บกลับไปด้วย การทิ้งไว้บนโต๊ะจะเสียมารยาท
• ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ไม่หยิบจับอะไรโดยพลการ
• บางครั้งอาจจะถูกแบ่งกลุ่มย่อย เพื่อแยกไปตามจุดต่างๆ วนเวียนกันไป ถ้าไปกับเพื่อนหลายคน อย่าพยายามยึกยัก หรือแห่ไปด้วยกันเป็นกลุ่มเดียว
• เดินตามไปให้ทันกลุ่มเสมอ อย่าแว่บหายไปไหนคนเดียว
เรื่องแนะนำ :
– รับน้องนักเรียนไทยในญี่ปุ่น ความอบอุ่นในแดนซากุระ
– เรียนต่อญี่ปุ่น : เรียนต่อม.ปลาย เป้าหมายมหาวิทยาลัย
– ส่งลูกหลานไปเรียนม.ปลายที่ญี่ปุ่นดีไหม
– ท่องอิเสะ-ชิมะ สถานที่จัดงานประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7
– เรียนทำเบเกอรี่ที่ญี่ปุ่น
ขอบคุณรูปภาพจาก :
http://www.akagi.com/
http://babuchin.com/garigarikun-factory
http://www.sangiin.go.jp/
http://www.yamari.info/blog/?p=5306