ภรรยาญี่ปุ่น ผู้จัดการเงินทั้งหมดในบ้าน…สถิติพบว่ามีครอบครัวชาวญี่ปุ่นถึงกว่า 60% เลยทีเดียวที่มอบอำนาจจัดการเงินในบ้านให้แก่ภรรยา นั่นหมายความสามีทำงานมาได้เท่าไรก็ต้องให้ภรรยาหมด ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่าน เจ้านายญี่ปุ่นของดิฉันมักจะบ่นให้ฟังว่า ภรรยาของแกเป็นคนถือบัตรเอทีเอ็มของแก เวลาแกได้รับโบนัส ภรรยาก็จะเอาเงินไปหมด ถึงแม้ว่าภรรยาจะไม่ได้ทำงานแต่แกต้องมอบเงินเดือนทั้งหมดให้ภรรยาดูแล และกลับต้องรอรับเงินเดือนจากภรรยาแทน ซึ่งหาได้ยากในหมู่คนไทย จึงลองค้นดูพบสถิติที่น่าสนใจค่ะ
สถิติพบว่ามีครอบครัวชาวญี่ปุ่นถึงกว่า 60% เลยทีเดียวที่มอบอำนาจจัดการเงินในบ้านให้แก่ภรรยา นั่นหมายความสามีทำงานมาได้เท่าไรก็ต้องให้ภรรยาหมด ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
สามีมีหน้าที่แค่ทำงานหาเงิน
โดยมากสามีซึ่งเป็นพนักงานบริษัทญี่ปุ่นมีหน้าที่ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว ส่วนภรรยาก็นิยมลาออกมาเป็นแม่บ้านหลังแต่งงาน ไม่แปลกสำหรับครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่สามีจะสนใจแต่เรื่องงานเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเวลาไปใส่ใจเรื่องอื่นเรื่องใดอีก รวมทั้งเรื่องในบ้านด้วย เพราะแค่ทำงานก็เหน็ดเหนื่อยเอาการอยู่แล้วค่ะ
ภรรยาดูแลเรื่องทุกอย่างในบ้าน สำหรับครอบครัวที่สามีทำงานคนเดียว ทั้งการดูแลอบรมสั่งสอนลูก ทำงานบ้าน หุงหาอาหาร และการจัดการเงินในบ้านล้วนเป็นหน้าที่ภรรยา จะว่าไปแล้วมีการกล่าวถึงการจัดการเงินในบ้านของภรรยาซามูไรมาตั้งแต่ยุคเอโดะ (1603-1868)
ความคิดเห็นส่วนใหญ่ของสามีที่มอบหมายให้ภรรยาดูแลเงินได้แก่
“ทั้งภาษี ทั้งผ่อนบ้าน ทั้งค่าลูก เป็นเรื่องน่าปวดหัว ผมไม่มีเวลาจัดการเงินที่ต้องจ่าย”
“เธอเก่งในการจัดการและเก็บเงิน ถ้าเงินอยู่กับผมรับรองหมดแน่”
สามีรับเงินเดือนจากภรรยา
เมื่อได้รับเงินเดือนจากบริษัทมา สามีจะมอบให้ภรรยาทั้งหมด และภรรยาจะมอบเงินเดือนรายสัปดาห์หรือรายเดือนให้กับสามีเป็นการตอบแทน (ฮ่าๆๆ) ซึ่งเงินนี้จะถูกคำนวณแล้วว่าพอสำหรับค่าใช้จ่ายทุกอย่างของสามีตั้งแต่ค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าบุหรี ค่าดื่มสังสรรค์ ฯลฯ ทั้งนี้หากต้องมีการใช้เงินพิเศษ เช่น ซื้อของ ท่องเที่ยว เลี้ยงลูกน้อง สามีสามารถเจรจาขอเพิ่มจากภรรยาได้เป็นกรณีๆ ไป แต่ก็อยู่ที่ว่าจะได้รับการอนุมัติจากภรรยาหรือไม่ (ก๊าก) เป็นเรื่องปกติมากที่บรรดาสามีทั้งหลายจะแลกเปลี่ยนกันว่าภรรยาให้เงินค่าขนมเท่าไรกันบ้าง
สามีไม่ได้พอใจแต่จำใจ
การบริหารเงินแบบนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ทำกันทั่วไป แต่หากไปถามจริงๆ แล้วคงไม่มีสามีคนไหนที่ยินดีรับเงินค่าขนมน้อยๆ จากภรรยา (ถึงแม้ว่าเขาอาจจะหาเงินได้มากมายก็ตาม) แต่ภรรยามักจะมีเหตุผลที่ฟังขึ้น เช่น
“เราต้องเก็บเงินให้ลูก”
“เรายังมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นอีกมากมาย”
“ฉันก็ทำข้าวกล่องให้แล้ว น่าจะประหยัดค่าอาหารได้”
หรือ
“ในงานสังสรรค์บริษัท คุณก็เบิกค่าใช้จ่ายบริษัทได้อยู่แล้ว จะต้องใช้อะไรอีก”
สรุปก็คือข้ออ้างของคุณภรรยาทั้งหลายก็เพื่อให้การใช้จ่ายในครอบครัวเป็นไปอย่างราบรื่นเรียบร้อยไม่ติดขัดนั่นเองค่ะ
การซ่อนเงิน
ประเด็นทั้งการซ่อนบัญชีลับของทั้งฝ่ายสามีและภรรยามีให้เห็นกันทั่วไป ฝั่งสามีเกรงว่าจะถูกภรรยาจำกัดการใช้เงินมากไป จนไม่สามารถไปใช้จ่ายในงานอดิเรกได้ จึงแอบซ่อนบัญชีลับซึ่งอาจเป็นเงินเก็บสมัยก่อนแต่งงาน หรือเงินพิเศษที่ได้จากการทำงานโดยไม่ให้ภรรยารู้ ส่วนฝั่งภรรยาเองก็ใช่ย่อย บางคนแอบเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง เรียกว่าทำไปทำมาฝั่งภรรยาอาจมีเงินเก็บมากกว่าคนหาเงินอย่างสามีเสียอีก (เหอๆๆๆ)
ฟังดูแล้วที่เคยได้ยินว่า ผู้หญิงดูไม่ค่อยเท่าเทียมกับผู้ชายในสังคมญี่ปุ่นอาจจะไม่จริงเสียแล้ว เพราะผู้หญิงดูจะเป็นใหญ่ในบ้านเสียจริงนะคะ
ติดตามอ่านเรื่องราวการทำธุรกิจด้วยใจรักจนประสบความสำเร็จได้ในหนังสือ “Japan Success ธุรกิจสำเร็จได้ด้วยใจรัก” และ หนังสือจิตวิทยาความรักความสัมพันธ์ “เมื่อจิตวิทยา ทำให้คนรักกัน” สามารถพูดคุยสื่อสารกับพิชชารัศมิ์ได้ที่ FB: Life Inspired by พิชชารัศมิ์
เรื่องแนะนำ :
– Omotenashi จิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่น
– คนแก่ญี่ปุ่นที่ยอมติดคุก ดีกว่าเหงาตาย
– Kamikatsu เมืองปราศจากขยะ
– หญิงนักธุรกิจของญี่ปุ่น
– โรงอาหารสำหรับเด็กผู้หิวโหย
– บริษัทญี่ปุ่นที่จ้างให้พนักงานนอนให้พอ
ที่มา : https://japan246.com/2017/01/26/finance/