ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 4
สวัสดีค่ะ…เรายังอยู่กันที่ตำบลชินคามิโกโต้ ทางตอนเหนือของหมู่เกาะโกโต้ จังหวัดนางาซากินะคะ มาชมโบสถ์คาทอลิกเก่าใหม่ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่มากมายบนเกาะอันห่างไกลอย่างนี้
เป็นธรรมเนียมว่า ผู้เยี่ยมเยือนสามารถถ่ายภาพด้านนอกโบสถ์ได้ แต่ไม่สามารถถ่ายภาพภายในโบสถ์ยกเว้นแต่ได้รับอนุญาตค่ะ ก็เลยไม่มีภาพภายในโบสถ์นะคะ
โบสถ์โอมิซึ
โบสถ์โอมิซึ (大水教会 Omizu Kyōkai / Omizu Church) ตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขาห่างจากถนนหลวงแต่ยังอยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นทะเลได้
ประวัติมีอยู่ว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่บริเวณนี้เป็นคริสตชน แต่เดิมพื้นที่นี้มีคริสตังลับอาศัยอยู่ แต่ไม่ได้มีการตั้งกลุ่มหรือมีผู้ใดที่เป็นผู้นำทางศาสนา จึงไม่ถูกเพ่งเล็งและเบียดเบียนศาสนาเท่าใดนัก แต่ก็เป็นผลให้การฟื้นฟูความเชื่อหลังปลดคำสั่งห้ามนับถือศาสนาคริสต์ล่าช้าไปบ้างเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น
โบสถ์โอมิซึหลังแรกสร้างขึ้นด้วยไม้โดยคุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะ (鉄川与助 Tetsukawa Yosuke) เสกขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม 1916 ผ่านมาหลายสิบปี โบสถ์มีสภาพทรุดโทรมลงจึงต้องรื้อและสร้างโบสถ์หลังใหม่ พิธีเสกมีขึ้นเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1985
ภาพโบสถ์โอมิซึหลังเก่าที่สร้างขึ้นในปี 1916 โดยคุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะ
ภาพ 360 องศาหน้าโบสถ์โอมิซึ
โบสถ์โอมิซึหลังใหม่ได้รับการออกแบบอย่างดี ภายนอกดูเป็นโบสถ์สีขาวเรียบ ๆ ไม่มีการตกแต่งอะไรนัก แต่ภายในโบสถ์ตรงโถงถอดรองเท้ามีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยงานไม้สีเข้มอ่อนและกระจกสีแบบสมัยใหม่ ตรงบริเวณพระแท่นตกแต่งคล้ายพัดและเล่นรูปทรงต่าง ๆ ทำให้ดูมีมิติ
โบสถ์โซเนะ
โบสถ์โซเนะ (曽根教会 Sone Kyōkai / Sone Church) ตั้งอยู่บนเนินลาดริมถนนเส้นรองที่แยกจากถนนใหญ่เล็กน้อย มีที่จอดรถอยู่ฝั่งตรงข้าม เป็นโบสถ์ใหม่หน้าตาดูทันสมัย มีกางเขนด้านหน้าและบนยอดสูงด้านข้างโบสถ์ และสัญลักษณ์รูปปดอกจิกสี่แฉกที่เห็นได้ชัดอยู่ตามจุดต่าง ๆ
โบสถ์โซเนะหลังแรกสร้างขึ้นด้วยไม้ภายใต้การดูแลของคุณพ่อชาวฝรั่งเศส อัลแบร์ ชาร์เล อัลเซน เปลู (Albert Charles Alsene Pelu) เสกขึ้นเมื่อ 30 พฤศจิกายน 1899 เป็นโบสถ์หลังแรกที่คุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะในวัย 20 ต้น ๆ มีส่วนร่วมในการก่อสร้าง และเริ่มได้รับการสอนสั่งชี้แนะความรู้ด้านสถาปัตยกรรมและเทคนิคการก่อสร้างจากคุณพ่อชาวฝรั่งเศสท่านนี้
โบสถ์หลังใหม่ที่เห็นในปัจจุบันมีอายุราว 54 ปี เริ่มสร้างในปี 1965 และเสร็จสิ้นในปีถัดมา พระสังฆราชยามางุจิ ไอจิโร่ เสกขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 1966
หน้าโบสถ์โซเนะ
พระรูปแม่พระปฏิสนธินิรมลด้านบนประตูโบสถ์ประดิษฐานขึ้นเนื่องในโอกาสปีแม่พระ (1987-1988) ที่พระสันตปาปายอห์นพอลที่ 2 ทรงประกาศขึ้น
โบสถ์อาโอสะงะอุระ
โบสถ์อาโอสะงะอุระ (青砂ヶ浦教会 Aosagaura Kyōkai / Aosagaura Church) เป็นอีกหนึ่งในโบสถ์สำคัญของชินคามิโกโต้ เพราะเป็นโบสถ์เก่าแก่ที่ขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินสำคัญทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปี 2001 และมีความงามสง่า สมเป็นหนึ่งในผลงานของคุณเท็ตสึคาวะ โยสุเกะ
โบสถ์อาโอสะงะอุระมีอายุกว่าร้อยปีแล้ว โดยสร้างเสร็จในเดือนสิงหาคม 1910 และเสกเปิดในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน
โบสถ์นี้ตั้งอยู่บนเนินริมถนน สามารถขับรถขึ้นไปจอดที่ลานหน้าโบสถ์ได้ ด้านข้างโบสถ์ทางซ้ายมือมีศาลาชั้นเดียว เป็นจุดพักผ่อนและห้องน้ำ มีมุมภาพถ่ายเก่า ๆ ให้ชม ทางขึ้นโบสถ์ฝั่งขวามือติดถนน มีรูปปั้นอัครเทวดามีคาแอลในชุดเกราะพิชิตซาตานแบบที่เห็นกันบ่อย ๆ ในงานคริสตศิลป์
รูปปั้นอัครเทวดามีคาแอลที่ตั้งขึ้นในวาระครบรอบ 100 ปีของโบสถ์เมื่อปี 2010
บานประตูโบสถ์เก่าแก่และบานหน้าต่างประดับกระจกสี
วงหน้าต่างกระจกสีสเตนกลาสรูปดอกซากุระที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่น
ที่โบสถ์อาโอสะงะอุระจะมีอาสาสมัคร ช่วยอำนวยความสะดวกในการจอดรถ ช่วยอธิบายและถ่ายรูปคู่กับโบสถ์ให้ถ้าต้องการด้วยค่ะ
ภายในจะเป็นสไตล์โบสถ์อิฐแดงเมื่อร้อยปีก่อนที่นิยมสร้างเพดาน Rib vault มีพระแท่นเอกติดกำแพงด้านในสุดตามจารีตโบราณที่คุณพ่อบาทหลวงทำพิธีหันหลังให้สัตบุรุษ มีรั้วไม้แกะสลักกั้นตรงยกพื้นหน้าพระแท่น ติดตั้งหน้าต่างประดับสเตนกลาสลายดอกไม้สีต่าง ๆ สวยงาม
ตามข้อมูลประวัติของคุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะบนป้ายที่สวนสาธารณะ ณ จุดที่เคยเป็นบ้านหลังเก่าของท่าน โบสถ์อาโอสะงะอุระที่ท่านสร้างขึ้นในวัย 31 ปีนี้ มีการเพิ่มความสูงเสาตรง Aisle (ช่องทางเดิน) ด้านข้าง ทำให้เพดาน Rib vault ส่วน Nave (ทางเดินกลางโบสถ์ที่นำไปสู่พระแท่นเอก) สูงกว่าช่องทางเดินด้านซ้ายขวา ทำให้โบสถ์แลดูโอ่โถงขึ้น
ภายในโบสถ์อาโอสะงะอุระที่คุณเท็ตสึคาวะสร้างในวัย 31 ปี
โบสถ์มารุโอะ
โบสถ์มารุโอะ (丸尾教会 Maruo Kyōkai / Maruo Church) ตั้งอยู่บนเนินกลางชุมชนมารุโอะ ห่างจากโบสถ์อาโอสะงะอุระประมาณ 4 กิโลเมตร
คริสตชนบริเวณนี้เป็นลูกหลานคริสตังลับ สมัยก่อนใช้ศาลาประชาคมเป็นสถานที่ทำพิธีกรรมจนถึงปี 1899 ต่อมามีการสร้างโบสถ์ทาสีขาวหันหน้าไปทางทะเลโกโต้ในฐานะโบสถ์เวียนของเขตวัดอาโอสะงะอุระ
ส่วนโบสถ์หลังปัจจุบันเป็นโบสถ์ใหม่ สร้างเสร็จและเสกขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 1972 และอีกสามปีถัดมาได้แยกออกมาเป็นเขตวัดมารุโอะ
หน้าตาโบสถ์ดูมีเอกลักษณ์ออกแบบดูสวยงามลงตัวดี ภายในตกแต่งเรียบง่าย ทาสีขาว ไม่มีหน้าต่างสเตนกลาสแสดงภาพพระประวัติพระเยซู แต่ตกแต่งเป็นลวดลายกางเขน
วิวทะเลที่มองเห็นได้จากโบสถ์มารุโอะ
ถึงตอนนี้ก็ตกบ่ายแล้ว ป้าหมววยยยรีบมุ่งไปโบสถ์ต่อไปคือ โบสถ์ฮิยามิซึก่อนที่จะปิดทำการเวลา 17.00 น. จริง ๆ ควรจะมีเวลามากกว่านี้ แต่ถนนเส้นหนึ่งถูกปิดเพราะได้รับความเสียหายจากหน้าดินถล่ม ทางบริษัทรถเช่าได้ให้ข้อมูลนี้ไว้แล้วตั้งแต่ตอนนำรถออกมา จึงต้องมีการเปลี่ยนแผนการเดินทางบางส่วนค่ะ
จากตอนแรกที่คำนวณเวลาเวลาขับจากโบสถ์อาโอสะงะอุระมาที่โบสถ์ฮิยามิซึแค่ 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 9 นาที แต่ต้องอ้อมภูเขาทั้งลูกระยะทางเพิ่มเป็น 13.8 กิโลเมตร ใช้เวลา 25 นาทีค่ะ เลยปรับให้มาชมโบสถ์มารุโอะที่เป็นทางผ่านตรงนี้เลย
ประกาศปิดถนนเนื่องจากดินถล่มจากตำบลชินคามิโกโต้
ครั้งพายุไต้ฝุ่นหมายเลข 5 พัดเข้าหมู่เกาะโกโต้เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2019 โดยมีปริมาณน้ำฝนมากที่สุดในรอบ 50 ปีจนภูเขาอุ้มน้ำไม่ไหว หน้าดินถล่มลงมากลบทับถนนและเสาไฟฟ้า จนทางราชการต้องปิดเส้นทางยาวถึง 500 เมตรเป็นเวลา 8 เดือน ล่าสุดเปิดเส้นทางได้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2020
จุดดินถล่มสามารถมองเห็นได้จากทางผ่านไปโบสถ์ฮิยามิซึ
ซูมอัพจุดดินถล่มที่กำลังซ่อมแซม
โบสถ์ฮิยามิซึ
โบสถ์ฮิยามิซึ (冷水教会 Hiyamizu Kyōkai / Hiyamizu Church) ตั้งอยู่บนเนินริมถนนริมอ่าวก่อนถึงจุดชมวิวยางาตะเมะ โบสถ์นี้ไม่มีที่จอดรถ ต้องจอดแนบริมถนนอีกเช่นเคยแล้วเดินขึ้นบันไดไปที่โบสถ์
โบสถ์นี้มีพื้นที่หน้าโบสถ์ไม่มากนักเลยถ่ายรูปค่อนข้างยาก
ภาพ 360 องศาหน้าโบสถ์ฮิยามิซึ
โบสถ์สร้างเสร็จและเสกขึ้นในเดือนพฤษภาคม 1907 ก่อนที่โบสถ์อาโอสะงะอุระสร้างเสร็จ 3 ปี ตัวโบสถ์สร้างขึ้นด้วยไม้ทาสีฟ้าอ่อน มีหอแหลม (Steeple) ประดับกางเขนอยู่ด้านหน้า ภายในใช้เพดานแบบ Rib vault ผนังฉาบปูน และใช้เสาทรงเหลี่ยมประดับยอดลายพันธุ์ไม้ หน้าต่างประดับกระจกสีสเตนกลาสลายดอกไม้คล้ายกางเขนสีสันสดใส
หอสูงหน้าโบสถ์ฮิยามิซึ
โบสถ์ฮิยามิซึ เป็นผลงานชิ้นแรกของคุณเท็ตสึคาวะ โยสึเกะที่สร้างขึ้นในวัย 28 ปี สังเกตได้ว่า เพดาน Rib vault ของโบสถ์ฮิยามิซึยังไม่มีความซับซ้อนนัก เพดานมีความสูงไม่มาก และมีความสูงเท่ากันทั้งส่วน Nave หรือส่วนทางเดินกลางโบสถ์และส่วน Aisle หรือช่องทางเดินซ้ายขวา
ภายในโบสถ์ฮิยามิซึ
ส่วนผลงานชิ้นต่อ ๆ มาของคุณเท็ตสึคาวะจะมีความสูงของส่วน Nave มากขึ้น สะท้อนทักษะทางสถาปัตยกรรมที่พัฒนาขึ้นของท่าน เพราะในการสร้างเพดาน Rib vault นั้น ส่วนเพดานยิ่งสูงเท่าไรยิ่งต้องใช้การคำนวณที่ซับซ้อนมากขึ้นเท่านั้น
สวนสาธารณะยางาตะเมะ
สวนสาธารณะยางาตะเมะ (矢堅目公園 Yagatame Kōen / Yagatame Park) ตั้งอยู่สุดถนนเลียบอ่าวนามะ (奈摩湾 Nama-wan) ห่างจากโบสถ์ฮิยามิซึไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร
ตรงจุดนั้นมีลานจอดรถเล็ก ๆ และห้องน้ำสาธารณะ แต่ต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกเล็กน้อย จะเป็นเนินที่มีซุ้มนั่งพักผ่อนมองเห็นทะเลและหินยักษ์ปลายแหลมที่ใหญ่โตราวกับป้อมปราการ
หินยักษ์นี้เรียกว่า “ยางาตะเมะ”สูง 120 เมตร ตั้งอยู่ปากอ่าวนามะ เป็นจุดแลนด์มาร์คของชาวประมงจากฮิราโดะตั้งแต่สมัยก่อน และเป็นจุดสังเกตการณ์ศัตรูจากต่างชาติ
อ่าวนามะ
โดยชื่อ “ยางาตะเมะ”มาจาก ‘รักษาการณ์ (katameru) ด้วยธนู (ya)’ นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังเป็นอ่าวทอดสมอของเรือสำเภาที่ได้รับอนุญาตให้ค้าขายระหว่างญี่ปุ่นและจีนราชวงศ์หมิง (勘合貿易船 Kangō Bōekisen) ซึ่งจะได้รับการปกป้องดูแลให้รอดพ้นจากโจรสลัดโดยผู้ดูแลพื้นที่แถบนี้
ภาพ 360 องศาบริเวณสวนยางาตะเมะยามเย็นย่ำ
จากตรงสวนสาธารณะมีเส้นทางเดินไปถึงหินยางาตะเมะ ถ้ามีเวลาและแรงกายก็น่าลอง แต่ตอนนี้จะมืดแล้วค่ะเอ้อระเหยไม่ได้ ต้องรีบขับรถกลับที่พัก
เที่ยวชนบทป้าไม่ค่อยแนะนำให้ขับรถกลางคืนนะคะ ถ้าไม่ใช่ในชุมชนจะไม่ค่อยมีไฟถนน คนต่างชาติที่ไม่คุ้นเส้นทางอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วจะยุ่งยากมากเลยค่ะ
สถานที่อื่น ๆ ในชินคามิโกโต้ยังมีอีกหลายแห่งที่น่าไปชม พบกันตอนหน้านะคะ
เรื่องแนะนำ :
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 3
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 2
– ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 1
– ขึ้นชมวิวบนยอดเขาอินาสะที่นางาซากิด้วย Inasayama Slope Car เปิดใหม่กันดีกว่า
-เรื่องเล่าของป้าหมวยยย : ทำไงดี ขับรถเช่าแล้วเกิดอุบัติเหตุ!?
ข้อมูลจาก
– www.pauline.or.jp
– ป้ายข้อมูลสถานที่ต่าง ๆ
#ขับรถเหนือใต้ออกตก Mission Shin-Kamigoto ตอนที่ 4