ในบรรดาตัวเลข สิ่งที่คนญี่ปุ่นแม่นที่สุดคือ “อุณหภูมิ” ค่ะ ทุกเช้าเย็น พวกเขาต้องคอยดูว่าอุณหภูมิอากาศแต่ละวันกี่องศา (เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย) คนญี่ปุ่นจะคอยเช็คตลอดเวลา จะได้รู้ว่า วันนั้นต้องใส่เสื้อหนาหรือบางเท่าไหน ต้องเตรียมร่มไปหรือเปล่า ใส่เสื้อกี่ชั้นดี
ตามที่ดิฉันเคยแอบเม้าท์มอยไปหลายที คนญี่ปุ่นเป็นคนที่ชอบตัวเลขมาก ถ้าไม่เชื่อลองถามตัวเลขต่อไปนี้กับคนญี่ปุ่นดูสิคะ
1) จำนวนประชากรญี่ปุ่น/โตเกียว/เมืองที่เขาอาศัยอยู่
2) ระยะทางจากโตเกียวไปโอซาก้า (กิโลเมตร)
3) ขนาดพื้นที่จังหวัดหรือประเทศ
ที่สำคัญคือ คนญี่ปุ่นชอบถามพวกเรากลับด้วย … จากกรุงเทพฯ ไปอยุธยากี่กิโลเหรอ กรุงเทพฯ มีประชากรกี่คน ดิฉันเคยเล่าเรื่องคนไทยเชื้อสายจีนว่ามีเยอะเหมือนกันในไทย คนญี่ปุ่นถามทันที … “แล้วคนไทยเชื้อสายจีนมีสัดส่วนเท่าไรของจำนวนประชากรไทยทั้งหมดเหรอ” …เจออะไรเกี่ยวกับตัวเลข ก็ได้แต่ส่ายหัวตอบว่า “ไม่รู้ค่ะ”
ตัวเลขสำคัญมากกับคนญี่ปุ่น เพราะพวกเขาจะมีข้อมูลตัวเลขบางอย่างอยู่ในใจ พอฟังตัวเลขปุ๊บ จะเปรียบเทียบได้ง่าย เช่น ….
คนญี่ปุ่น: ประเทศไทยกว้างกี่ตารางกิโลเมตรเหรอ
เกตุวดี: 5 แสนกว่าตารางกิโลเมตรค่ะ (ท่องจนขึ้นใจ ท่องไว้ตอบคนญี่ปุ่น)
คนญี่ปุ่น: อืมๆๆ งี้เมืองไทยก็ใหญ่กว่าญี่ปุ่นประมาณ 1.5 เท่าน่ะนะ
คือ ….ฮีมีข้อมูลพื้นที่ญี่ปุ่นในใจ พอทราบตัวเลขของไทยเปรียบเทียบ เขาก็จะวิเคราะห์ได้ว่าประเทศไทยกว้างหรือแคบกว่าประเทศเขามากน้อยเพียงใด
ในบรรดาตัวเลข สิ่งที่คนญี่ปุ่นแม่นที่สุดคือ “อุณหภูมิ” ค่ะ ทุกเช้าเย็น พวกเขาต้องคอยดูว่าอุณหภูมิอากาศแต่ละวันกี่องศา (เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย) คนญี่ปุ่นจะคอยเช็คตลอดเวลา จะได้รู้ว่า วันนั้นต้องใส่เสื้อหนาหรือบางเท่าไหน ต้องเตรียมร่มไปหรือเปล่า ใส่เสื้อกี่ชั้นดี
มีอยู่ช่วงหนึ่งญี่ปุ่นฮิตล้างผักด้วยน้ำอุณหภูมิ 50 องศา เพราะจะทำให้ผักเหี่ยวๆ กลับมาสดได้ และน้ำอุ่นนี้จะช่วยชะล้างยาฆ่าแมลงไปได้ ตอนที่ฟังครั้งแรกก่อนจะเอะใจเรื่องเอาน้ำอุ่นล้างผัก ดิฉันงงมากว่าคนญี่ปุ่นรู้ได้อย่างไรว่าจะต้มน้ำอย่างไรให้ได้ 50 องศา พอลองถามแม่บ้านญี่ปุ่น เธอบอกว่าที่เครื่องล้างจา มีปุ่มเซ็ทอุณหภูมิได้เป๊ะๆ เป็นองศาเลย สบายมาก
ประเทศนี้เป๊ะจริงๆ ค่ะ….
นอกจากอุณหภูมิอากาศหรืออุณหภูมิล้างผักแล้ว คนญี่ปุ่นก็ยังแม่นอุณหภูมิต่อไปนี้ด้วยค่ะ
1. อาบน้ำอุ่นกี่องศา ….
สมัยอยู่ญี่ปุ่นดิฉันอาบน้ำอุ่นตลอดเพราะอากาศเย็นเกือบทั้งปี แม้เรียนจบกลับมาอยู่เมืองไทยแล้วดิฉันก็ยังติดอาบน้ำอุ่นอยู่ (แม้แต่ช่วงหน้าร้อน…) สมาชิกครอบครัวมักจะสะดุ้งเสมอเวลาเปิดน้ำอาบต่อจากดิฉัน ทุกคนจะบอกว่า “น้ำร้อนมาก ร้อนขนาดนี้ ทนอาบไปได้ยังไง”
ค่ะ … ดิฉันมักจะเปิดน้ำร้อนถึงขั้นเกือบสุดแล้วก็ยืนใต้ฝักบัว เวลาอาบน้ำร้อนๆ มันสบายตัวดี
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะอาบน้ำร้อนค่ะ เครื่องทำน้ำอุ่นบ้านเราส่วนใหญ่จะบอกแค่อุ่นมากอุ่นน้อย แต่ของญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะบอกมาเป็นอุณหภูมิเลยค่ะ หมุนบิดไปมาได้ แต่ถ้าอยากอาบน้ำอุณหภูมิเกิน 40 องศา เขาจะมีปุ่มกดปลดล็อคอีกทีตรงลูกบิด ปุ่มล็อคนี้กันไม่ให้คนหมุนลูกบิดเพลินไปเจอน้ำร้อนจี๋ ใครที่ต้องการความเร่าร้อนเร้าใจ ก็ค่อยกดปุ่มปลดล็อคเอา
พอก๊อกน้ำมีองศาบอกแบบนี้ ดิฉันก็รู้ว่าดิฉันเองชอบระดับความอุ่นที่ประมาณ 36-38 องศา เห็นเป็นตัวเลขกันจะๆ ไปเลย
ข้อมูลตรงนี้จะยิ่งเป็นประโยชน์เมื่อไปออนเซ็น ออนเซ็นจะมีความร้อน 3 ระดับ แล้วแต่สถานที่ค่ะ คือ แบบร้อน (40-42 องศา) แบบอุ่นๆ (36-38 องศา) และแบบเย็น (ต่ำกว่า 20 องศา) พอคนญี่ปุ่นเห็นป้ายแขวนที่ออนเซ็นว่าเป็นแบบร้อนหรืออุ่นหรือเย็น เขาก็จะเข้าใจได้ว่าน้ำที่ตนจะลงไปแช่นั้นอุณหภูมิเป็นแบบไหน
ออนเซ็นส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น จะเป็นแบบร้อน คือ 40-42 องศาค่ะ คนไทยส่วนใหญ่ไม่ชินกับอุณหภูมิเท่านี้ ส่วนมากแหย่เท้าไปแล้วแทบจะสปริงตัวออกไม่ทัน (เคล็ดลับคือ ให้ค่อยๆ แช่เท้าลงไป ถ้าไม่ไหวเอาขึ้นมาแล้วเอาลงไปใหม่ ค่อยๆ หย่อนเข่าลงไป พอไปได้ก็ค่อยๆ ลงไปแช่ หากไม่ไหวก็ขึ้นมานั่งพักตรงขอบอ่าง)
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้สูงอายุชอบออนเซ็นระดับร้อนสุด เพราะเชื่อว่าทำให้ร่างกายอุ่นได้จากภายในทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ยิ่งหน้าหนาวหากได้แช่น้ำร้อนๆ แบบนี้ พออาบเสร็จตัวจะอุ่นๆ หลับสบายทั้งคืน
ส่วนออนเซ็นระดับอุ่นก็จะแช่ได้สบายๆ และแช่ได้นานกว่าแบบร้อน รู้สึกรีแลกซ์มากกว่า โดยส่วนตัวคิดว่าออนเซ็นประเภทนี้น่าจะเหมาะกับคนไทยมากกว่าค่ะ นอนแช่ได้ชิลๆ
ส่วนแบบเย็นดิฉันเคยเจออยู่แค่ครั้งเดียวในชีวิต ไปเจอที่ฮอกไกโดค่ะ พอลงไปแช่เหมือนแช่น้ำในสระว่ายน้ำ ว่ายได้เย็นสบายเอาหน้าลงไปแช่ได้ (เป็นสิ่งที่เราทำไม่ได้เวลาแช่ในออนเซ็นแบบอื่น) โชคดีที่ไปตอนหน้าร้อน เลยสนุกสนานกับการดำผุดดำว่ายกับออนเซ็นประเภทนี้ แต่คนญี่ปุ่นที่ไปด้วยกันบอกว่าประหลาดแท้ แต่ครั้งเดียวพอรับไม่ได้จริงๆ … ออนเซ็นมันต้องร้อน
2. เป็นไข้…กี่องศา
สมัยเรียนที่มหาลัยญี่ปุ่น บางครั้งดิฉันรู้สึกตัวรุมๆ เหมือนมีไข้ ก็จะใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน คือ เอาฝ่ามือมาแปะหน้าผากตัวเองแล้วดูว่าร้อนหรือเปล่า (บางทีก็รู้สึกว่าวัดอะไรแน่นอนไม่ได้) บางทีก็ใช้เทคนิคเฉพาะที่ตัวเองคิดค้นขึ้นมา คือ เอานิ้วสองนิ้วมาจ่อตรงรูจมูกแล้วพ่นลมหายใจออกมา ถ้าลมร้อนแปลว่าอาการชักไม่ค่อยดี
แต่คนญี่ปุ่นไม่ยอมพึ่งสัญชาตญาณแบบดิฉัน ทุกบ้านจะมีปรอทวัดไข้ ถึงจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะเช่าหอ เช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่คนเดียว เขาก็จะมีปรอทติดตัว เป็นไข้ปุ๊บ เสียบปรอทเข้าจักแร้ปั๊บ วัดกันจะๆ ไปเลย
แล้วกี่องศา ถึงเรียกว่าเป็นไข้?
คำตอบคือ 37.5 องศาขึ้นไปค่ะ
องศาที่เพิ่มขึ้นก็จะมีความหมายมากขึ้น 37.5 แปลว่าเป็นไข้รุมๆ 38 องศาเริ่มอาการหนัก หากพุ่งไป 39 องศานี้คนญี่ปุ่นถือว่าอาการหนักมาก หากไข้สูง 3 วันติด อาจต้องไปโรงพยาบาล
การทราบว่าตัวเองเป็นไข้กี่องศา มีประโยชน์ในการสื่อสารกับสมาชิกในครอบครัวหรือเจ้านาย ทำให้คนรอบตัวเดาได้ว่าเราอาการหนักประมาณไหน เช่น หากบอกนายว่า “ผมไข้ขึ้น 39 องศาครับ” นายก็จะเข้าใจว่าเราอาการหนักจริงๆ และยินยอมให้หยุดงานไป 2-3 วัน แต่หากเราบอกนายว่า “ผมมีไข้ประมาณ 37.5 องศาครับ” นายก็คงบอกแค่ “พักผ่อนเยอะๆ นะ” และแอบคาดหวังว่าเราคงมาทำงานในวันรุ่งขึ้น
3. เปิดแอร์ … กี่องศา
คุณผู้อ่านทราบไหมคะว่า ที่ออฟฟิศเปิดแอร์กี่องศา …
แอร์ไทยตามออฟฟิศไม่รู้เป็นอะไร ส่วนใหญ่ปรับได้แค่ 2 แบบ …เปิดกับปิด พอเปิดนานๆ ก็จะหนาวสุดขั้วหัวใจ แต่พอตัดสินใจปิดสวิทช์ ผ่านไปได้สัก 30 นาที ก็เริ่มร้อนอีกแล้ว เราเลยอาจไม่ค่อยใส่ใจว่าแอร์มันจะกี่องศา แอร์มันเป็นแอร์ท่อ เปิดทีเปิดทั้งอาคารปรับอะไรไม่ได้ พนักงานออฟฟิศโดยเฉพาะสาวๆ ก็ต้องเอาตัวรอดด้วยการเอาแจ๊คเก็ตหรือสเวตเตอร์มาใส่แทน
คนญี่ปุ่นที่มาประชุมที่ไทย เคยถามดิฉันว่าทำไมร้าน Uniqlo ทำพื้นที่ขายแจ๊คเก็ต ขายเสื้อ Down ไว้เยอะขนาดนั้น ส่วนเสื้อยืดแขนสั้น ดันมีอยู่นิดเดียว ดิฉันเลยตอบไปว่า “เมืองไทยอากาศหนาวน่ะค่ะ” ตอนนั้นฮีขำนึกว่าดิฉันแซว …แต่หลังจากนั้นอีก 3-4 ชั่วโมง ฮีก็เริ่มขำไม่ออก เมื่อต้องเข้าไปนั่งในห้องประชุมอันสุดเยือกเย็นของโรงงานแห่งหนึ่งย่านปริมณฑล คนไทยเตรียมผ้าพันคอเสื้อกันหนาวกันพร้อม คนญี่ปุ่นที่คิดว่าประเทศไทยอากาศร้อนเลยใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นมาประชุม ก็นั่งหนาวสั่นกันกึกๆ น่าสงสารจริงๆ

คุณผู้อ่านหลายคนอาจสงสัยว่า … ญี่ปุ่นมีฤดูหนาว อากาศเย็นกว่าบ้านเราหลายเท่า คนเขาไม่ชินกับอากาศเย็นอีกเหรอ ก็แค่แอร์ไทยลมเย็นๆ ….
คำตอบคือ “ไม่” ค่ะ
คนญี่ปุ่นจะพยายามให้อุณหภูมิภายในกับภายนอกไม่ต่างกันมาก ยกตัวอย่างเช่น หน้าร้อนอากาศข้างนอกประมาณ 30-35 องศา คนญี่ปุ่นก็จะเปิดแอร์ประมาณ 26-28 องศา ยิ่งหากเป็นออฟฟิศหรือสถานที่ราชการ จะเปิดแอร์แค่ 28 องศา เพราะเขาถือว่าหากเปิดเย็นๆ มันจะเปลืองไฟ ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าร้อนแล้วกะจะเดินเข้าห้างเพื่อตากแอร์เย็นฉ่ำ ขอให้ล้มเลิกความคิดนั้นเสีย ดิฉันแนะนำให้เดินไปเซเว่นฯ แล้วเปิดตู้แช่น้ำเพื่อรับลมเย็นยังจะดีกว่าค่ะ เย็นกว่าเยอะ (เปิดไปกรุณาแอ๊คติ้งทำท่าเลือกเครื่องดื่มไปด้วย …ไม่งั้นเดี๋ยวพนักงานด่าเอา)
ส่วนหน้าหนาว อุณหภูมิข้างนอกประมาณ 10-20 องศา ห้างร้านญี่ปุ่นก็จะเปิดฮีทเตอร์อุณหภูมิประมาณ 20-22 องศา เพราะถ้าเปิดฮีทเตอร์ประมาณ 24 องศาขึ้นไป ลมร้อนจะเป่าออกมาทำให้หายใจไม่ออกและผิวแห้งเกินไป เพราะฉะนั้นท่านใดที่ไปญี่ปุ่นช่วงหน้าหนาว พอก้าวเข้าอาคารหรือร้านอาหารปุ๊บ แต่ยังรู้สึกว่าเย็นๆ นั่นแปลว่า เขาพยายามให้อากาศภายในกับภายนอกไม่ต่างกันเยอะจนเกินไปค่ะ
คนญี่ปุ่นหลายคนจึงเป็นไข้ทันทีเมื่อมาเมืองไทย เพราะอุณหภูมิที่สุดแสน Extreme ของบ้านเรานี่แหละค่ะ เดินๆ เที่ยวชมวัดอุณหภูมิ 40 องศา พอเดินเข้าห้างแอร์เย็นฉ่ำ ซัดลมเย็นมาให้ 18 องศา…ญี่ปุ่นรับไม่ได้ค่ะ
(ใครมีเพื่อนที่จะมาเที่ยวหรือประชุมที่เมืองไทย โปรดเตือนให้พวกเขานำผ้าพันคอหรือคาร์ดิแกนบางๆ มาด้วยนะคะ และโปรดย้ำว่าเราไม่ได้พูดเล่น ทำเลบางแห่งในเมืองไทยเป็นเมืองหนาวจริงๆ)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ท่านใดมีเพื่อนคนญี่ปุ่นลองถามเขาดูนะคะ อาบน้ำกี่องศา เปิดแอร์กี่องศา …หรือล้างผักกี่องศาดี ดิฉันคิดว่าญี่ปุ่นส่วนใหญ่น่าจะตอบได้ค่ะ
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> Japan Gossip by เกตุวดี Marumura
อ่าน Japan Gossip ทั้งหมด CLICK HERE
เรื่องแนะนำ :
– หลีกหนีความวุ่นวาย ไปพิพิธภัณฑ์ Chihiro
– รู้ไว้ก่อนไปโตเกียว…10 ย่านเด่นในเมืองโตเกียว
– ไปญี่ปุ่น (บ่อยๆ) ซื้ออะไรดี
– ไปญี่ปุ่นซื้ออะไร “กิน” ดี
– 6 เรื่องที่สาวไทยมักน้อยใจแฟนญี่ปุ่น