สิ่งที่คนญี่ปุ่นแปลกใจเมื่อมาโฮมสเตย์บ้านคนไทย…ครั้งนี้ผู้ที่มาพักเป็นเพื่อนของเพื่อน วัย 36 ปี มาเมืองไทยเป็นครั้งแรก และอยากลองพักบ้านคนไทย ส่วนฝั่งดิฉันก็ลอบสังเกตพฤติกรรมเอย จับเขามาสัมภาษณ์พูดคุยต่างๆ นานา เพื่อขุดเรื่องมาเขียนบทความ Japan Gossip ต่อไป
เมื่อสัปดาห์ก่อน ดิฉันและครอบครัวได้มีโอกาสรับหน้าที่โฮสท์ของคนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในชีวิตค่ะ ที่ผ่านมามักจะเป็นคนญี่ปุ่นที่รู้จักกันมานอนบ้าน ซึ่งคนญี่ปุ่นเหล่านี้ รู้จักเมืองไทยดีอยู่แล้ว
แต่ครั้งนี้ผู้ที่มาพักเป็นเพื่อนของเพื่อน วัย 36 ปี มาเมืองไทยเป็นครั้งแรก และอยากลองพักบ้านคนไทย ส่วนฝั่งดิฉันก็ลอบสังเกตพฤติกรรมเอย จับเขามาสัมภาษณ์พูดคุยต่างๆ นานา เพื่อขุดเรื่องมาเขียนบทความ Japan Gossip ต่อไป (ต้องเขียนบทความทุกอาทิตย์ วานแฟนๆ โปรดเห็นใจ….)
ประเดิมกันที่เรื่องที่คนญี่ปุ่นตกใจเวลามาพักบ้านคนไทยดีกว่าค่ะ
1. ภาพปริศนา
ก้าวแรกที่ฮิโระซัง (ชื่อคนญี่ปุ่นที่มาพัก) เยื้องย่างเข้ามาในบ้าน ฮีหันไปเห็นภาพนี้และถามว่านี่บรรพบุรุษของคุณเหรอ
ข้าพระพุทธเจ้ามิอาจเอื้อมเช่นนั้น จึงรีบชี้แจงให้ฮีทราบว่านี่คือภาพของรัชกาลที่ 5 …พระมหากษัตริย์ไทยในยุคเมจิจ้ะ พยายามอธิบายว่าคนไทยรักและเคารพพระมหากษัตริย์มาก ฮิโระบอกว่าเข้าใจว่าเคารพแต่ต้องถึงขั้นแปะรูปใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ สุดท้ายบอกไปว่าเหมือนพระองค์เป็นเทพเจ้าคุ้มครองเรา ฮีถึงค่อยยอมผงกหัวตาม (จริงๆ ที่บ้านมีรูปหล่อและปฏิทินในหลวงด้วย แต่ขี้เกียจชี้ให้ฮิโระดู เดี๋ยวยิ่งงงอีก)
จำได้ว่าเคยดูรายการโทรทัศน์หนึ่ง ไปถ่ายทำบ้านคนไทย และพิธีกรงงกับภาพหลวงพ่อที่อยู่ในบ้านคนไทยเช่นกัน คนญี่ปุ่นอีกคนที่รู้เรื่องเมืองไทยดี เลยอธิบายว่าคนไทยมักจะเลือกประดับภาพหลวงพ่อหรือพระสงฆ์ที่ตนเองชื่นชอบไว้ที่บ้าน พูดง่ายๆ คือ “Monk Idol” ยูชอบท่านใด ก็เลือกภาพท่านนั้นมาประดับฝาห้องได้เลย (ต้องอธิบายแบบนี้สินะ คนญี่ปุ่นถึงจะเข้าใจ)
เนื่องจากบ้านคนญี่ปุ่นแคบมากและเกิดแผ่นดินไหวบ่อย เขาจึงไม่ค่อยมีธรรมเนียมแขวนภาพประดับ ถ้ามีก็เป็นภาพของบรรพบุรุษแค่นั้น ส่วนภาพครอบครัวหรือภาพตัวเองนี่ แทบไม่แปะฝาบ้านเพราะเขิน
2. ของปริศนา
อันนี้มีเยอะมาก เริ่มตั้งแต่ ….
อาหารเย็น พาไปกินข้าวมันไก่เผอิญมีเลือดด้วย ฮีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องกินเลือด (ภาษาญี่ปุ่นเรียกเลือดหมูเลือดไก่ว่า “ก้อนเลือด (血の塊)” … แค่ชื่อก็ฟังดูโหดมากแล้ว แถมยังไม่ค่อยมีรสชาติอีกทำไมคนไทยชอบ
กลับถึงบ้านเฉาะมะพร้าวให้กิน ฮีก็สนอกสนใจ สนตั้งแต่วิธีเฉาะมะพร้าวด้วยมีดอีโต้ ฮิโระก็แปลกใจกับมีดอีโต้ต่อ มีดอะไรทำไมใหญ่ขนาดนี้ เป็นมีดเอาไว้ปอกมะพร้าวโดยเฉพาะเหรอ พวกเราก็พยายามอธิบายว่า เปล่า … มันเป็นมีดเอนกประสงค์ แล่ไก่ก็ได้ สับหมูสับก็ได้ ฮีทำหน้าตกใจมาก และหยิบกล้องมาถ่ายอย่างตั้งอกตั้งใจ ถ่ายไป บ่นงึมงำไปว่า “น่ากลัวมาก … น่ากลัวมาก” อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ากลัวมีดเฉาะพลาดโดนมือ หรือกลัวท่าทางหญิงไทยควงอีโต้ฉับๆๆ ก็ไม่ทราบ
พอเฉาะมะพร้าวเสร็จ ก็ให้ฮีดูดกิน พร้อมสอนวิธีใช้ช้อนขูดเนื้อมะพร้าว อันนี้ฮิโระปิติมาก บอกว่าอร่อยมาก ถามใหญ่เลยมะพร้าวกินได้ทั้งปีไหม ลูกละกี่บาท
![โฮมสเตย์](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/Thai%20Home%20Stay/3.png)
3. ถอดรองเท้าที่ใด
ทั้งคนญี่ปุ่นและคนไทย ถอดรองเท้าเวลาเข้าบ้านเหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่าง คือ บ้านญี่ปุ่นจะมีที่ให้ถอดรองเท้าเรียบร้อย คือ พื้นจะมีสเต็ปขึ้นมา เราก็จะรู้โดยอัตโนมัติว่า ถอดรองเท้าตรงหน้าประตู ก่อนเดินขึ้นสเต็ป ข้อดีของเจ้าสเต็ปตรงนี้ คือ ช่วยดักฝุ่นที่เข้ามาเวลาเราเปิดปิดประตู ทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย และดูเป็นสัดเป็นส่วน นอกจากนี้ เวลาจะใส่รองเท้าก็นั่งใส่ได้ง่าย
![โฮมสเตย์](http://i771.photobucket.com/albums/xx357/marumura/Katewadee/Thai%20Home%20Stay/4.png)
แต่บ้านคนไทยเรามักไม่ค่อยมีสเต็ปแบบนี้ ส่วนใหญ่เป็นพื้นเรียบ ยิ่งใครอยู่คอนโดยิ่งราบเรียบแน่นอน คนญี่ปุ่นก็จะงงๆ ว่าจะนั่งถอดรองเท้าที่ไหนดี ถอดหน้าห้องหรือถอดในห้องดี โปรดมาร์กตำแหน่งให้พวกเขาด้วยการถอดรองเท้าให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ
4. อาบน้ำอย่างไร
ก๊อกน้ำห้องน้ำญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จะเป็นแบบเปิดน้ำแล้วหมุนปรับอุณหภูมิได้ ปรับเป็นหน่วยองศาเลย (ระดับที่นิยมอาบกันคือ อุณหภูมิ 38-40 องศา)
แต่พอคนญี่ปุ่น หรือเฮียฮิโระมาเจอกับเครื่องทำน้ำอุ่นไทย มันมีพิธีกรรมนิดหนึ่ง อันดับแรก ต้องกดปุ่ม ON/OFF ก่อน บอกเครื่องทำน้ำอุ่นนิดหนึ่งว่าฉันจะขออนุญาตใช้แกล่ะนะ จากนั้นก็บิดลูกบิดเลือกความร้อนของน้ำ เผอิญเครื่องทำน้ำอุ่นบ้านดิฉันสเกลถี่มาก ต้องหมุนมั่วซั่วไปมาเพื่อหาระดับน้ำที่พอดี พอหมุนเสร็จ อาบๆ ไปจากน้ำร้อนก็จะกลายเป็นน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นวูบวาบ สร้างความเร้าใจให้กระชับรับผิวหนัง ระดับความแรงน้ำ อาจแรงบ้าง ค่อยบ้าง แล้วแต่พลังของเครื่องสูบในแต่ละช่วงเวลา เอาแน่เอานอนไม่ได้
สิ่งของต่างๆ ในบ้านที่พวกเราคุ้นเคยกัน แต่สำหรับคนที่มาจากต่างประเทศ ต่างวัฒนธรรม ต่างสภาพภูมิอากาศ อาจกลายเป็นของแปลกใหม่ก็ได้นะคะ นั่งสังเกตและพูดคุยกับฮิโระ สนุกดีค่ะ ถือเป็นประสบการณ์โฮสท์ของโฮมสเตย์ที่ดีมากๆ เลย อย่างน้อยก็ได้เห็นของบ้านเราในมุมใหม่ ^^
ท่านใดมีเพื่อนคนญี่ปุ่น ลองชวนเขามาที่บ้านกันนะคะ มาแอบดูกันว่า เขาจะสนใจตรงไหน
ทักทายพูดคุยกับเกตุวดี ได้ที่ >>> เกตุวดี Marumura
อ่าน Japan Gossip ทั้งหมด CLICK HERE
เรื่องแนะนำ :
– จัดงานประดับไฟอย่างไรให้ได้เงิน…บทเรียนจากงาน Luminarie เมืองโกเบ
– ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ปฏิเสธไกด์บุ๊คมิชลิน
– เจาะลึกครอบครัวญี่ปุ่น: ช่องว่างระหว่างคุณพ่อกับลูกสาว
– เจาะชีวิตวัยรุ่น วัยว้าวุ่นแบบญี่ปุ่น ตอน “เทศกาลพบรัก”
– คนญี่ปุ่นอินกับงานซะขนาดนี้….